เป็นเรื่องที่ยืดเยื้อมาพักใหญ่ สำหรับกรณีที่นักร้อง-นักแสดงหนุ่ม ไมค์ - พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล ยื่นร้องต่อศาลเพื่อขอความเป็นพ่อโดยชอบธรรมและสิทธิ์ปกครองลูกชายวัย 6 ขวบร่วมกับนางแบบสาว ซาร่า คาซิงกินี เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา จนกลายเป็นปมมหากาพย์ดราม่า ต่อมา ไมค์ ตัดสินใจถอนคำร้องขอสิทธิ์ แต่ทางซาร่าได้ยื่นคัดค้านการถอนคำร้อง
“ไมค์ พิรัชต์” ถอนคำร้องสิทธิ์ปกครองบุตร ขอเก็บเงินเข้าบัญชีลูก รอให้บรรลุนิติภาวะ
โดยเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมาศาลได้นัดไกล่เกลี่ยไปครั้งหนึ่ง โดยทาง ซาร่า ได้เดินทางมาด้วยตัวเอง แต่ฝั่งไมค์ได้ส่งทนายมาเป็นตัวแทน ล่าสุดวันนี้ (24 ธ.ค.63) ศาลนัดไกล่เกลี่ยเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งทั้งคู่ได้ทางมายังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จตุจักร พร้อทนายความส่วนตัว ซึ่งใช้เวลานาน 8 ชั่วโมงในการไกล่เกลี่ย แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ
“ไมค์” ส่งทนายไกล่เกลี่ย “ซาร่า” ยอมให้เซ็นรับรองบุตร ลั่นไม่เคยกีดกันพ่อเจอลูก
โดย ทนายกิ่ง ศิริญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช และทนายธากฤช สิทธิประเสริฐ ทนายความฝั่ง ซาร่า ได้เผยกับสื่อมวลชนว่า
ทนายธากฤช : “วันนี้ก็มีประเด็นทางคดีแหละเนอะ เรื่องการรับรองบุตร อำนาจปกครองจะเป็นยังไง จริงๆ ทั้งสองฝ่ายก็ยังอยากดูแลลูกอยู่แล้วทั้งสองฝ่าย เพียงแต่ว่า พอต่างฝ่ายยังอยากดูแลอยู่ ก็ต้องมาคุยรายละเอียด อำนาจตัดสินใจจะเป็นยังไง ซึ่งวันนี้มันก็ยังมีรายละเอียดบางจุด หลายจุดอยู่ที่มันยังไม่ค่อยตรงกัน ทนายก็เลยกลับไปคุยกับลูกความแต่ละฝ่าย แล้วเดี๋ยวนัดหน้าจะมาคุย รายละเอียดมันเยอะ เรื่องมันละเอียดอ่อน ลูกต้องอยู่กับอีกฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายหนึ่งจะเงื่อนไขเป็นอย่างไร มันเยอะครับ (มีแนวโน้มจะลงตัวไหม?) ก็ดีอยู่นะ เพราะว่าก่อนหน้านี่เขาไม่เคยคุยกันตรงๆ มาก่อน คราวนี้เหมือนเป็นเวทีที่ดีเหมือนให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้มาเจอกัน ท่านผู้ประนอม ผู้พิพากษาก็ได้ช่วยเหลือด้วย”
หลักๆเป็นเรื่องที่ลูกต้องอยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งใช่ไหม
ทนายผู้ชาย : “อันนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งประเด็นหลักครับ แล้วก็อีกฝ่ายจะติดต่อกันแบบไหน อะไรยังไง มันก็เยอะครับ (น้องยังต้องอยู่กับซาร่าเหมือนเดิม?) เบื้องต้นที่ที่คุยกันวันนี้ก็แนวๆนั้น เพราะทางไมค์ก็ไม่ได้ติดใจ แต่ว่าก็ไม่ได้ปิดประเด็นที่ว่าไมค์อยากรับไปดูหรือเปล่า ก็มีการพูดขึ้นบ้าง แต่ประเด็นนี้มันพูดนิดหน่อย”
ทางเรายังย้ำข้อเสนอ 4 ข้อที่เคยพูดไปแล้วหรือเปล่า
ทนายกิ่ง : “อย่างที่เคยแจ้ง 4 ข้อนั้นมันไม่ใช่ข้อเสนอ มันเป็นข้อความเห็นของเราว่าทำไมน้องควรอยู่กับเรา กระบวนการไกล่เกลี่ยมันไม่ใช่กระบวนการของศาล ความจริงเราต้องถ่ายคนละก้าว แล้วเราก็หันหน้าเข้าหากัน เพราะฉะนั้นเราไม่ยึดติดกับสิ่งที่เราเคยพูดไปแล้ว หรือไม่ยึดติดกับสิ่งที่มันอยู่บนกระดาษ เราเปิดโอเพ่น สามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง”
วันนี้มีการยื่นข้อเสนออะไรออกไปไหม
ทนายธากฤช : “มันไม่มีการยื่นข้อเสนอกันไปเป็นข้อๆหรอก เหมือนกับว่า ณ วันนี้สถานะของลูกเป็นแบบไหน แล้วเพื่อให้ลูกของเรา ประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นอย่างไร ถ้าเราเอาเรื่องเก่ามาพูด มันไม่จบไม่สิ้น ท่านผู้พิพากษาก็บอกอยู่ว่าปัจจุบันเป็นอย่างไร แล้ว 2 ฝ่ายในเมื่อได้มาคุยกันแล้ว จะตกลงดูแลบุตรร่วมกันอย่างไรมากกว่า”
ความต้องการของ “ซาร่า” ที่เขาต้องการคืออะไร
ทนายกิ่ง : “ฝั่งซาร่าต้องถาม คือไม่ใช่ว่าเราต้องการ ถามว่าฝั่งนู้นเขาจะซัพพอร์ตให้น้องมากแค่ไหนมากกว่า มันเป็นประเด็นอย่างนั้นมากว่า (เรื่องค่าใช้จ่ายซัพพอร์ต?) ก็ทุกอย่างค่ะ ทุกอย่างในคดีครอบครัวมันจะมีหลายๆส่วน ไม่ว่าจะเป็นการอุปการะเลี้ยงดู น้องจะอยู่กับใคร อำนาจปกครอง การเยี่ยมเยียน คือต้องมานั่งคุยกนทุกอย่าง ถ้าถามว่าซาร่าต้องการอะไร มันคืออะไรเหรอค่ะ มันก็คือคุณอยากจะให้ลูกของคุณแบบไหน มีชีวิตแบบไหน เรียนที่ไหนมากกว่า”
การไกล่เกลี่ยวันนี้อะไรเซนซิทีฟที่สุด
ทนายกิ่ง : “ทุกเรื่องค่ะ (มีเรื่องไหนที่สามารถสรุปได้แล้ว?) เรื่องของการรับรองบุตร ที่ไม่ได้ติดใจทั้งสองฝ่าย”
สรุป “ไมค์” ได้เซ็นต์รับรองบุตร
ทนายกิ่ง : “ยังไม่มีค่ะ ยังเซ็นต์กันไม่ได้ ยังเหมือนเดิม”
ข้อเสนออื่นต้องคุยกันให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาเซ็นต์รับรองบุตรใช่ไหม
ทนายกิ่ง : “ถ้ากระบวนการมันไปเรื่อยๆ สามารถตกลงกันตามรายละเอียดได้ ก็อาจจะมีคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของเด็ก เพื่อจะให้ทางฝ่ายพ่อไปจดทะเบียน เป็นไปได้ ต้องมารอดูสรุปว่าทั้งสองคนจะดูแลลูกอย่างไร
มีถอยเพื่อประโยชน์ของลูกเป็นหลักไหม
ทนายกิ่ง : “คือทั้ง 2 ฝ่ายก็ต้องถอยแหละ แต่ว่าคำถามสูงสุดอย่างที่แจ้ง มันคือผลประโยชน์ของลูก คุณอยากให้ลูกเรียนที่ไหน ชีวิตเป็นแบบไหน ก็ต้องมานั่งคุยกัน อยู่ที่ไหน”
ทนายธากฤช : “เราไม่อยากจะลงรายละเอียดว่าใครเสนออะไร ยังไง มันยังมีคุยกันอีกนัดหนึ่ง มันยังไม่ยุติ ถ้ามันไปได้ดีมันก็จบ ซึ่งมันก็ดีกับครอบครัวเขา แต่ถ้าพูดโดยรวมมันก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นนะ”
นัดหน้าวันที่เท่าไหร่
ทนายธากฤช : “วันที่ 12 เดือนมกราคม 2564 ต่างฝ่ายก็ต้องไปทำการบ้านกันมา
มีการโต้เถีงกันไหม
ทนายธากฤช : “ก็ไม่นะครับ ก็พยายามคุมสถานการณ์ให้มันดี (ซาร่ามีเครียดไหม?) ก็มีเครียดบ้างทั้ง 2 ฝ่าย”
ทนายกิ่ง : เครียดทั้ง 2 ฝ่ายเครียดค่อนข้างเยอะ เพราะกระทบต่อการใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ทั้งสองฝ่ายค่อนข้างเยอะ
จากนั้นทางฝั่ง ไมค์ พร้อมด้วยทนายความ ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า
การไกล่เกลี่ยวันนี้วันยังไงบ้าง
ทนายเจมส์ : “ก็ไปในทิศทางที่ดี รับฟังเหตุผลกันมากขึ้นทั้งสองฝ่าย ถามว่าอะไรที่ยังไม่ลงตัว ก็มีอยู่หลายเป็นหลักๆ เอาประเด็นหลักๆก่อน คือ เรื่องของการรับรองบุตรทางไมค์ไม่ติด เรื่องที่ยังไม่ลงตัวก็คือเรื่อง อำนาจปกครองบุตร ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร ค่าเทอม ซึ่งมันเป็นรายละเอียดของเด็กคนนึง ถ้าเกิดมันมีอะไรที่เปลี่ยนแปลง มันค่อนข้างศึกษารายละเอียดเยอะมาก เพราะว่าเด็กคนนึงอาจจะต้องดูรายละเอียดให้ชัดเจน(ทางนั้นเรียกเยอะ?) เรื่องของตัวเลขใช่ไหม อันนี้มันเป็นรายละเอียดที่อยู่ในสำนวน ทางท่าน(ศาล) ขอเอาไว้ว่าอยากจะให้เกิดความชัดเจนก่อนแล้วค่อยคุยอีกทีนึงครับ”
เป็นส่วนนึงที่ตกลงแล้วไม่ลงตัวใช่ไหม
ทนายเจมส์ : มีหลายประเด็นครับ ไม่ใช่แค่เรื่องเงินอย่างเดียว
ทางเรามีการเรียกร้องมากขึ้นจากเดิมไหม
ทนายเจมส์ : “ไม่น่าจะมีครับ ฝั่งไมค์ไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไรอยู่แล้วครับ”
ฝั่งเขามีเรียกร้องเพิ่มเติมไหม
ทนายเจมส์ : “ก็เป็นประเด็นเดิมๆที่รู้ๆกันอยู่ครับ แต่ก็เกี่ยวข้องกับเด็กแหละครับ เราก็เข้าใจฝั่งเขาว่าต้องการที่จะให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด แต่ทางฝั่งของไมค์ก็ดูตามศักยภาพครับ”
“ไมค์” สภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง
ไมค์ : ก็โอเคครับ (เจอหน้ากันเป็นครั้งแรก รู้สึกยังไงบ้าง?) เอาตรงๆผมไม่อยากตอบอะไรมาก คือผมไม่รู้ว่าใครจะรู้สึกยังไง เอาตรงๆผมเบื่อกับเรื่องนี้แล้ว ไม่รู้ว่าสังคมจะคิดยังไงตอนนี้ อยากให้เรื่องนี้รีบๆจบ แค่นี้เลยที่ผมรู้สึกตอนนี้
“ไมค์” ยังมีความคิดจะถอนฟ้อง เหมือนที่เคยตั้งใจว่าจะเก็บเงินให้ลูกเองไหม
ไมค์ : “มันเป็นรายละเอียดในสำนวน ผมไม่สามารถพูดได้”
ขอถามทางทนาย ถ้าทางเราจะถอนฟ้องอย่างที่เคยยื่นไปแล้วครั้งนึง ยังทำได้ไหม
ทนายเจมส์ : “มันต้องได้รับความยินยอมจากอีกฝ่ายนึงครับ พูดถึงเคสทั่วไปนะครับ ศาลจะมองดูประโยชน์ของเด็กเป็นหลักว่าจะให้ถอนหรือไม่ให้ถอน”
คิดว่าแนวโน้มในรอบหน้าจะไปในทิศทางไหน
ทนายเจมส์ : “ผมว่าน่าจะจบในรูปแบบที่ดี เพราะว่าศาลค่อนข้างกำชับให้จบให้เร็วที่สุด แต่พอดีมันมีเงื่อนไขอะไรบางอย่างที่เราไม่ได้เตรียมตัวมา แล้วมาโผล่ในรอบนี้ เลยขอให้ไปศึกษารายละเอียดก่อน อย่างที่ผมบอกมันไปกระทบกับเด็กเป็นสำคัญ เลยตัดสินใจเลยไม่ได้ในตอนนี้”
จริงๆความตั้งใจคิดว่าวันนี้จะจบใช่ไหม
ไมค์ : “ก็...คาดหวังว่ามันจะจบ”
การที่มีครั้งหน้ากระทบกับการกลับจีนไปทำงานไหม
ไมค์ : “จริงๆตอนแรกคิดว่าไฟล์บินน่าจะเป็นวันที่ 27 ธันวาคมนี้ ก็...ดูกันต่อไปว่าจะไปได้เมื่อไหร่ ตอนนี้มันก็มีโควิด-19 ด้วยอะไรด้วย หลายอย่าง”
ณ ตอนนี้ยังได้คุยกับ “แม็กซ์เวลล์” อยู่ไหม
ไมค์ : “ได้คุยบ้าง ผ่านนาฬิกา แต่ก็ไม่เหมือนได้เจอ แต่จริงๆก็...นั่นแหละครับ ขอโทษทีผมเบลอ”
ด้วยเงื่อนไข เรื่องเลี้ยงดูมันติดอยู่ตรงไหน
ทนายเจมส์ : “มันก็ติดครับ ก็อย่างที่ผมบอก มันกระทบถึงเด็ก มันเป็นรายละเอียดที่ค่อนข้างเป็นพระเอกของงานนี้ ยังไม่สามารถจะตอบได้ทันที ขอไปศึกษารายละเอียดแล้วก็วางแผนให้รัดกุมที่สุด แล้วเกิดประโยชน์กับเด็กมากที่สุด ถึงจะตัดสินใจ”
ศาลมีคำแนะนำอะไรบ้างไหม
ทนายเจมส์ : “ศาลท่านแนะนำได้แค่หลักการ แต่ในรายละเอียดลงลึกไม่ได้ เพราะว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคน ที่สำคัญก็คือเป็นเรื่องของเด็ก ท่านอยากให้มองประโยชน์ของเด็กเป็นหลัก”
จะมีการนัดไกล่เกลี่ยกันนอกรอบไหม
ทนายเจมส์ : “ถ้ามีอะไรเร่งด่วนก็จะคุย ตอนนี้ยังไม่มี แต่ถามว่าหารือ มันมีการหารือกันนอกรอบอยู่แล้ว”
“ไมค์” เองซีเรียสที่จะให้ “แม็กซ์เวลล์” มาอยู่ในการปกครองของเราหรืออยู่กับเราเลยไหม
ไมค์ : “ไม่ได้ซีเรียสนะครับ ผมขอแค่ได้เจอลูกแบบ...นั่นแหละครับ”
