“พาวเวอร์แพท” น้ำตาไหล ชมเอ็มวีเพลงแรก หลังหวนรวมวงในรอบ 20 ปี


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เรียกว่าเป็นการคัมแบคสมการรอคอย สำหรับ “POWER PAT” นำโดย “แพท - วรยศ บุญทองนุ่ม” (ร้องนำ) , “ฟ้า - ปัณณวิช สุวัฒนานันท์” (กีตาร์) , “เปรม - วริทธิ์ธร ธนาวัฒน์ศิริ” (เบส) และ “เจี๊ยบ - กมลชัย เข็มทอง” (กลอง) กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในรอบ 20 ปี หลังก่อนหน้านี้สมาชิกในวงได้แยกย้ายกันไปตามเส้นทางของตัวเอง แต่ในวันนี้พวกเขาทั้ง 4 คน กลับมาสร้างความสุขผ่านบทเพลงให้กับแฟนๆ อีกครั้ง ภายใต้สังกัดค่าย Khaosan Entertainment

“พาวเวอร์แพท” รวมตัวอีกครั้ง หลังทิ้งไมค์นาน 20 ปี

ล้วง! อดีต ปัจจุบัน อนาคต “แพท พาวเวอร์แพท”

บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่น 4 หนุ่ม วง POWER PAT พูดคุยถึงความรู้สึกที่ได้กลับมารวมตัวกัน พร้อมขนเอาเพลงเพราะๆ มาโชว์ให้ฟังกันแบบเต็มอิ่ม อาทิ อย่าเขย่า , โรงภาพยนตร์ , หลุดปากใช่ไหม  และได้โชว์เปิดตัวซิงเกิลใหม่ ต้องคำสาป เพลงช้าจากปลายปากกาของ แพท วรยศ ที่บรรจงถ่ายทอดเรื่องราวของการรอคอย ก่อนจะปิดท้ายงานให้แฟนๆ รับชมมิวสิควิโอพร้อมกันเป็นครั้งแรก เรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นจากเหล่าบรรดาแฟนคลับที่มาให้กำลังใจ

ซึ่งระหว่างชมเอ็มวี วง POWER PAT ก็ถึงกลับกลั้นน้ำตาแห่งความดีใจไว้ไม่อยู่ และเปิดใจกับสื้อมวลชนว่า

วันนี้เป็นยังไงบ้าง

แพท: “โอ้โห วันนี้มันเต็มอิ่ม มันตื้นตัน มันมีความสุข หลากหลายอารมณ์มากเลยครับ เหมือนภาพความฝันที่เราฝันมาตลอด 20 ปี แล้วมันเกิดขึ้นจริงคือทุกคนมาร่วมบรรยากาศในวันนี้ด้วยกันคือมันเป็นอะไรที่พิเศษสุดๆเลยครับ”

เปรม: “เหมือนได้ย้อน ไวกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้วโดยความรู้สึกและไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง”

ฟ้า: “ก็เหมือนได้กลับมาร่วมเล่นดนตรีกับเพื่อนอีกครั้งหนึ่ง มีความสุขมากอย่างที่พี่แพทบอกเลยครับ”

เจี๊ยบ: “ผมก็รู้สึกดีมากครับคิดถึงเพื่อนๆ”

วันนี้เป็นการได้โชว์ร้องครั้งแรกด้วย

แพท: “ใช่ครับ เป็นมินิคอนเสิร์ตครั้งแรกในการรวมตัวของเรา มีความสุขที่เราได้กลับมาเล่นดนตรีด้วยกัน และแน่นอนว่าได้เล่นต่อหน้าพี่ๆสื่อมวลชน และต่อหน้าแฟนคลับ รวมถึงแฟนคลับที่อยู่ทางบ้านที่ชมไลฟ์ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ในหน้าประวัติศาสตร์ของพวกเรา ที่ทุกคนมาร่วมกันในวันนี้ ก็รู้สึกว่าเป็นเกียรติมากครับที่มาร่วมงาน รวมถึงติดตามดูไลฟ์ในการเล่นดนตรีของเราในวันนี้”

ตอนที่ทางค่ายติดต่อไปรู้สึกยังไงบ้าง

แพท: “คือก่อนหน้านี้ผมได้ดูงานทางค่ายข้าวสารเอ็นเตอร์เทนเม้นท์มาพอสมควร ได้เห็นศิลปินที่ออกมาก่อนหน้านี้ ผมก็รู้สึกว่าเป็นค่ายน้องใหม่ที่มีคุณภาพ แล้วก็ศิลปินแต่ละท่านก็เป็นศิลปินที่มีความสามารถ และโปรเจ็กต์ ขอบคุณที่กลับมา ผมว่ามันทำให้แฟนๆทุกคนที่โหยหาบรรยากาศในยุคเก่าๆได้กลับมาฟังเพลงในแบบที่ตัวเองคิดถึง ได้ดูศิลปินที่ตัวเองรักที่ตัวเองชอบอีกครั้งนึง ผมว่ามันเป็นความสุขนะครับ ไม่ว่าจะเป็นในตัวของศิลปินเองหรือจากแฟนเพลง ผมว่าโปรเจ็กต์เป็นโปรเจกต์ตั้งใจที่จะมอบความสุขให้กับทุกๆคนอย่างเต็มที่”

มันเป็นเหตุผลที่ทำให้เซ็นสัญญาด้วยไหม

แพท: “ผมว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องทีหลังมากกว่าครับ ผมได้คุยกับทางค่ายข้าวสารแล้วผมรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น ความเป็นครอบครัว ผมถึงตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับทางข้าวสารเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ครับ เราคุยกันไว้สองปีครับ”

ก่อนหน้านี้มีค่ายติดต่อเข้ามาเยอะไหมครับ

แพท: “เยอะมากครับ เรื่องค่ายเพลงต่างๆแต่ว่าสุดท้ายแล้วเรามาลงเอยที่นี่ครับ”

วันนี้แฟนคลับมาค่อนข้างเยอะ

แพท: “อบอุ่นมาก เราทราบกันดีในเรื่องของสถานการณ์ โควิด-19 ก็มีความจำเป็นที่จะต้องจำกัดในเรื่องของคนที่เข้างานผมว่าถ้าในสถานการณ์ปกติน่าจะมากันแน่นหนามากกว่านี้อีกเยอะ ยังไงก็อย่าพึ่งน้อยใจนะครับ ต่อไปในอนาคตหากสถานการณ์ปกติ ผมว่ายังมีโอกาสที่เราจะจัดมีตติ้งหรือกิจกรรมดีๆให้แฟนคลับได้มาพบกับพวกเราในเร็วๆ ยังไงก็อดใจรอครับ ถ้าช่วงนี้ถ้ายังคิดถึงกันอยู่ก็ช่วยติดตามกดไลก์กดแชร์มิวสิควิดีโอของเราด้วยนะครับ”

ดูเอ็มวีแล้วร้องไห้

แพท: “ผมได้ดูมิวสิควิดีโอตัวนี้ตั้งแต่ตอนที่เราตัดกันแรกๆ และทุกครั้งผมก็เสียอาการทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมเป็นหนักมาก เพราะว่ามิวสิควิดีโอที่ได้ถูกคัดกรองแล้ว ก็ตัดในแบบที่เราคิดว่ามันสมบูรณ์ที่สุดแล้ว แล้วก็สื่ออารมณ์ในเรื่องราวตามชีวิตของเราถ่ายทอดอารมณ์ได้ตามที่เราตั้งใจที่จะแสดงไว้ที่สุดแล้ว บวกกับบรรยากาศของความอบอุ่นในวันนี้ บวกกับแฟนคลับพี่น้องน้องที่มารวมกัน บรรยากาศแบบนี้มันเป็นการส่งอารมณ์ให้ยิ่งรู้สึกตื่นตันและสะเทือนใจมากขึ้นกว่าทุกครั้ง”

ก็คือน้อยมากที่จะเห็น “แพท” พรั่งพรู

แพท: “น้อยมากครับ น้อยมาก คือมันเป็นเรื่องเศร้าที่เราเฝ้าฝันอยู่ตลอดเวล าแล้วในเรื่องของมิวสิควิดีโอมันเป็นเรื่องของชีวิตของเราเองอยู่แล้ว ในเรื่องราวที่ผ่านมามันเข้ามาในหัวอีกครั้งหนึ่งมันก็เลยเป็นอย่างที่เห็น”

ทำไมถึงเลือกที่จะถ่ายทอดเรื่องราวแบบนี้ออกมา

แพท: “คือมันเป็นเรื่องของชีวิตจริงมันเป็นเนื้อหาของเพลงเพลงนี้ ที่เราได้ตั้งใจที่จะเขียนจริงๆ เรื่องของการรอคอยคนที่เรารักด้วยความหวัง มันเป็นเรื่องที่ผ่านเข้ามาแล้วเรารู้สึกว่า มันไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องของตัวเราเอง คนที่ได้ฟังความหมายของเพลงเพลงนี้น่าจะอินไปในเรื่องของตัวเองได้ไม่ยาก คนที่อาจจะไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่ตัวเองรักด้วยจำเป็นหรือเหตุจำเป็น อาจจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่จะต้องมาทำงานในกรุงเทพฯ หาเงินส่งเสียไปให้ลูกที่ต่างจังหวัด อาจจะไม่ได้กลับไปดูแลลูก แต่ก็ยังคิดถึงเขาตลอดคืออะไรต่างๆเหล่าเนี่ยมันสามารถทัชความรู้สึกของคนได้ไม่ยากกับเพลงนี้ 'ต้องคำสาป'

ส่วนการขีดกระดานนับวันเวลา มันเป็นเรื่องของเทคนิคในการเล่าเรื่องมากกว่า จริงๆเราไม่ถึงขั้นมานั่งขีดผนังหรอก ในเรือนจำเนี่ยเราไปขีดอะไรเขาจะฟ้องเรา ข้อหาทำข้าวของราชการเสียหาย (หัวเราะ) เขาห้ามขีดเขียนใดๆทั้งสิ้นนะ แต่ว่ามันจะมีแค่คล้ายกันคือคือเรื่องของการขีดฆ่าปฏิทิน มันจะมีลักษณะนี้เกิดขึ้น แล้วเราจะนับวันนับคืนเฝ้ารอวันที่เราจะออกมาตลอด มันเป็นในส่วนของตัวแทนความรู้สึก

ในส่วนของนางเอกเอ็มวีก็คือพลิกล็อกไปเลย

แพท: “คือทำให้มันรู้สึก อยากให้ทุกคนเดาว่านางเอกเอ็มวีคือใคร สุดท้ายมันก็คือคุณแม่ของเรา ที่ดูแลเราแล้ว เราก็คิดถึงอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายเราก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนทุกวันนี้”

ในเนื้อหาของเอ็มวี “แพท” มีส่วนร่วมไหม

แพท: “เนื้อหาของเอ็มวีมันเป็นเรื่องของเรา ก็ได้มีการพูดคุยกับทีมทางมิวสิควิดีโอ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพมาก คือเขาได้ทำมิวสิควิดีโอหลายตัวที่มียอดวิวเป็นร้อยๆล้านวิว ซึ่งผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานกับทีมมิวสิควิดีโอนี้ แล้วก็เรื่องของการคิดภาพต่างๆ เขาค่อนข้างที่จะละเอียดมาก คือมันมีผลต่อการส่งต่อการแสดงของผมด้วย คือการแสดงออกมาแล้วมันกลมกลืนเนื้อหา กลมกลืนกับฉากต่างๆ ผมว่ามันเป็นส่วนประกอบที่สำคัญครับ ส่วนร่วมก็มีมากมาย ทั้งเรื่องการแสดง การออกความคิดเห็น รวมถึงเรื่องของการตัดต่อด้วยครับ”

เมื่อกี้เห็นเพื่อนร้องไห้รู้สึกยังไงบ้าง

เปรม: “คือโดยส่วนตัวผมดูหนังที่สร้างจากชีวิตจริงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นตัวเอ็มวีมันถ่ายทอดออกมาจากชีวิตจริง เราสามารถที่จะอินกับเนื้อเรื่องได้ไม่ยากเลย เปิดดูกี่ครั้งก็คือก็คือเป็นฟิวนี้ทุกครั้งเลยนี่พูดจริงๆ”

ก่อนที่จะทำเอ็มวีมีหลายตัวเลือกไหมก่อนจะลงเอยเป็นเรื่องราวจริงๆของเรา

แพท: “เราเคยมีการคุยกันหลายครั้งนะครับว่า เอ๊ะ หรือจะเป็นเรื่องของทหารที่ไปรบอยู่ชายแดนภาคใต้แล้วก็ห่างไกลจากบ้านหรือเปล่า สุดท้ายมันก็ไม่อินเท่ากับสิ่งที่มันกำเนิดมาจากเพลงนี้ นั่นก็คือเรื่องของตัวตนเรา มันก็เลยมาจบลงที่ว่า มันน่าจะเป็นเรื่องของชีวิตเราที่ถ่ายทอดมาในมิวสิควิดีโอมากกว่า”

กลัวดราม่าไหมว่าหยิบเอาเรื่องหลังกำแพงมาเล่า

แพท: “ผมว่าไม่ครับ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง มันเป็นความรู้สึกดีๆในการรอคอย แน่นอนว่าการเข้าไปอยู่ในเรือนจำมันเป็นเรื่องของการรับโทษทางกฏหมาย แต่ในขณะนึงมันเป็นสถานที่ๆเราได้รู้จักพัฒนา แล้วก็ปรับทัศนะคติบางอย่างในตัวเราเองด้วย ผมว่าสิ่งที่ดีมันเกิดขึ้นได้ทุกที่ มันไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องเป็นเรื่องในเรือนจำหรอกครับผม แล้วเรื่องที่เราถ่ายทอดมันเป็นเรื่องในมุมดีดีที่เรารอคอยอย่างมีความหวังครับ”

คาดหวังยอดวิวไหม

แพท : “เรื่องของการคาดหวังในงานชิ้นนี้ ผมบอกได้เลยว่าการที่ผมได้นำชีวิตออกมาจากเรือนจำ ได้มาเจอเพื่อน ได้มาเล่นดนตรี แล้วยิ่งได้นำเพลงที่ผมเขียนข้างในออกมาเป็นตัวเพลงจริงๆและมีมิวสิควิดีโออีก ก็เกินสิ่งที่ผมคาดคิดและคาดหวังมากแล้ว ส่วนต่อจากนี้จะได้รับการสนับสนุนจากแฟนคลับหรือจากคนไทยทั่วประเทศ ได้ยอดวิวอะไรเท่าไหร่ ยังไงต่างๆ หรือวงนี้จะเดินต่อได้ดังขนาดไหน มันเป็นเรื่องของกำไรแล้ว ผมไม่ได้ตั้งความหวังหรือคาดหวังกับสิ่งนี้เท่าไหร่ แต่ถ้าได้ก็ดี ถ้าถามถึงตัวเลขในใจเท่าไหร่ก็ได้ แค่ขอให้ทุกคนได้ดูและได้อะไรกลับไปจากมิวสิควิดีโอนี้ และทำให้มีความรู้สึกดีๆเกิดขึ้น ได้ข้อคิดดีๆ ตรงนี้เป็นความภูมิใจของผมในงานชิ้นนี้แล้ว”

ฟ้า : “ยอดวิวก็หวังอยู่ครับ อยากให้เรื่องราวของแพท คนรู้สึกอินเข้ามาดูกันเยอะๆ ถ้าได้หลายล้านวิวก็ดีครับ ถ้าได้ร้อยล้าน เดี๋ยววิ่งร้อยกิโลเลยครับ”

เจี๊ยบ : “ก็คาดหวังบ้างครับ ได้เล่นกับพวกพี่ๆเขาก็ดีกว่าครับ ให้พี่ฟ้าเขาวิ่งแก้บนครับ”  

แพท : ผมปั่นจักรยานครับ ผมมีความสุขกับการปั่นจักรยาน (หัวเราะ)

ถามถึงคิวงานของ “แพท” หน่อย เห็นว่าแน่นมาก

แพท : “ผมไม่อยากมานั่งจำแล้วว่าวันๆผมต้องไปไหนบ้าง คือแล้วแต่ทางทีมงานเขาจะพาผมไปไหน ผมจำไม่ไหวจริงๆครับ รู้สึกว่าตอนนี้คิวงานวงจะยาวถึงมิถุนายนแล้ว คอนเสิร์ตเดือนหน้าคิวเต็มแล้ว ความรู้สึกตอนนี้ที่แฟนๆต้อนรับ มันเป็นความอบอุ่น ความตื้นตัน ทุกคนอ้าแขนรับเราที่ทุกคนอยากเจอ อยากฟังเพลงของพวกเรา มันที่สุดในชีวิตแล้วครับ”

เพื่อนๆต้องเคลียร์งานประจำยังไง

เจี๊ยบ : “ก็ต้องลาสอนบ้าง ต้องเคลียร์กับทางโรงเรียนที่สอนอยู่”

ฟ้า : “จริงๆช่วงนี้ผมว่างอยู่แล้วส่วนหนึ่ง เพราะโควิดไปไหนไม่ได้ มันเป็นจังหวะที่พอเหมาะ เหมือนที่แพทบอกว่ามันเป็นพรหมลิขิต เป็นโชคชะตาที่ทำให้เรากลับมา ถ้าเป็นช่วงปกติก็ไม่น่าจะได้อยู่เมืองไทย เพราะผมทำพวกทัวร์ปืนเขา ก็ไม่ค่อยได้อยู่เมืองไทย ช่วงนี้เป็นช่วงเดียวที่อยู่”

เปรม : “ลักษณะงานผมค่อนข้างจะเป็นฟรีแลนซ์อยู่แล้ว เลยจะเมเนจเวลาได้เองอยู่แล้ว สบายมากครับ”

แพท : “เราไม่รู้เลยว่าจะมีวันนี้ เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายมากๆ ผมว่าแค่นี้มันก็เต็มที่แล้วครับ เรื่องคอนเสิร์ตเราเตรียมพร้อมอย่างมาก เราซ้อมกันบ่อย เตรียมโชว์ให้มันสุดๆไปเลย การแสดงสดเราก็ได้เตรียมพร้อมเรื่องอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมในการเล่นด้วย พวกเราอายุ 40 แล้วก็ยังเป๊ะปังครับ ฝากติดตามเพลงด้วยนะครับ ”

 

 

 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ข่าวบันเทิง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

ขณะนี้ มีรายการกำลังถ่ายทอดสด คุณสนใจหรือไม่?

POP NEWS

POP NEWS

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ