ในสถานการณ์ที่โควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้หลายอาชีพได้รับผลกระทบอย่างหนัก รวมไปถึงอดีตดาราและนายแบบชื่อดังยุค90 เบิร์ด - พิทยา ณ ระนอง ที่เคยโด่งดังจากละครหลายเรื่องอาทิ วังน้ำวน, ศีรษะมาร, รักสุดท้ายที่ปลายฟ้า, ดอกโศก, รักลอยลม ฯลฯ ก่อนจะค่อยๆเฟดตัวไปทำงานนอกวงการและหายเงียบไปนานพักใหญ่
ล่าสุดก็เจอพิษโควิดเล่นงาน ต้องออกจากบริษัททัวร์ที่ทำมานานกว่า 10 ปี และผันตัวมาขายของออนไลน์และขับแกร็บเพื่อหารายได้เสริม
ซุปตาร์ไทย ส่งน้ำใจสู้โควิดต่อเนื่อง
“แอม เสาวลักษณ์” เผยอาชีพใหม่ช่วงโควิด แม้เงินน้อยหากเทียบร้องเพลง แต่มีความสุขมาก
โดย เบิร์ด พิทยา เปิดใจกับ “วันบันเทิง” ถึงชีวิตที่ผกผันให้ฟังว่า “ตัวเขานั้นเพิ่งขับแกร็บได้ไม่กี่วัน ยอมรับว่าการขับแกร็บเป็นเรื่องใหม่สำหรับตนเอง ซึ่งเริ่มหาดูจากในโซเชียลและศึกษามาก่อน ส่วนตัวมองว่าเป็นอาชีพที่อิสระ ตอนนี้วิ่งถึงสามทุ่ม ต้องสู้ ยังมีอาชีพอื่นที่ลำบากกว่านี้เยอะ”
อดีตดาราดังเล่าอีกว่า “ก่อนหน้านี้ตนเองเคยทำงานที่บริษัททัวร์แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ทำมานาน 10 ปี แต่ช่วงโควิดไม่มีนักเที่ยว พอออกงานจากงานก็เลยต้องหาอะไรทำเพื่อหารายได้ เริ่มจากขายของออนไลน์ก่อน และหันมาขับแกร็บเพื่อหารายได้รายวัน เพราะไม่รู้ว่าโควิดจะซาลาเมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ธุรกิจท่องเที่ยวจะกลับมาเหมือนเดิม
ปัจจุบันอาศัยอาศัยอยู่ที่บ้านพี่สาวที่เชียงใหม่คนเดียว ตอนเช้าทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็จะออกไปวิ่งแกร็บจนถึงบ่ายๆแล้วกลับเข้ามาพัก และออกไปอีกครั้งช่วงเย็นจนถึงประมาณ 3 ทุ่ม ส่วนของออนไลน์ก็ยังขายอยู่ ก็ขายได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ส่วนตัวยังไม่เก่งเรื่องโซเชียล
ถามว่าทำยังไงไม่ให้ท้อ ส่วนตัวใช้ชีวิตแบบนี้มาตลอด อยู่ง่าย กินง่าย เวลาท้อ ก็นึกถึงอีกหลายคนที่บากกว่าตนเอง หลายคนที่มีภาระ ส่วนตนเองอยู่คนเดียว ยังพอดูแลตัวเองได้
เมื่อถามว่าคิดถึงงานในวงการบันเทิงหรือไม่ เขาบอกว่า “ก็มีคิดถึงงานในวงการบันเทิงบ้าง คิดถึงละครที่เคยเล่น จำได้ว่าละครเรื่องล่าสุดที่เล่นไว้ก็เมื่อ 25 ปีก่อน ส่วนตัวไม่คิดว่าชีวิตตัวเองพลิกผันอะไรมากนัก อาจจะมีบ้างที่คนอื่นอาจจะมองว่าเคยเป็นดาราแล้วมาขับแกร็บ จริงๆก็เป็นคนปกติทั่วไป เพียงแต่ที่ผ่านมามีโอกาสได้เข้าไปทำงานในวงการและเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป แต่หากมีโอกาสก็อยากจะกลับเข้ามาทำงานในวงการอีกครั้ง
ตอนนี้คงจะยึดการขับแกร็บเป็นอาชีพหลักไปก่อน มองว่าทุกอย่างคือบททดสอบ ที่เราจะอดทนได้มากแค่ไหน ไม่คิดมาก ทำในสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับตัวเอง ขอบคุณแฟนๆทุกคนที่เป็นห่วงและขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้เช่นกัน”
