เป็นคู่รักที่คอยเป็นกำลังใจและอยู่เคียงข้างกันเสมอ สำหรับคู่ของนักร้องชื่อดัง ปู แบล็คเฮด และ นุ๊กซี่ - อัญพัชญ์ วัฒนาตันติรัตน์ ที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิงตรวจพบว่าป่วยมะเร็งเต้านม และได้ทำการรักษาตามขั้นตอน ซึ่งก็มีหวานใจคอยดูแลไม่ห่าง
และล่าสุดวันนี้ (11 มิ.ย.64) ทั้งคู่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เพื่ออัปเดตอาการป่วยของสาว นุ๊กซี่ และชีวิตในช่วงนี้ว่า
“ปู แบล็คเฮด” ดูแลแฟนสาวไม่ห่าง “นุ๊กซี่” ผ่าตัดมะเร็งเต้านม ผ่านพ้นไปด้วยดี
“นุ๊กซี่” เผยความในใจถึง “ปู แบล็คเฮด” ครบรอบรัก 5 ปี มั่นใจเลือกคนไม่ผิด
ถามถึงวันเกิด “ปู” ที่ผ่านมา
ปู : “ก็วันเกิด 2 ปีแล้วนะครับ ที่ไม่ได้พบเจอเพื่อน ไม่ได้จัดฉลองอะไรยิ่งใหญ่ ก็อยู่กับครอบครัวครับ เซอร์ไพรส์ก็ไม่มีเลยนะ ยิ่งหลังๆ เนี่ยเซอร์ไพรส์ไม่มีเลย พอโควิดมาเซอร์ไพรส์ กุอย่างหายหมดเลย”
นุ๊กชี่ : “ก็อวยพรให้เขามีความสุขในทุกวัน จริงๆ เขาก็มีความสุขมา 51 ปีแล้ว (หัวเราะ) ของขวัญก็คือมีทำอาหารให้นิดหน่อยค่ะ ง่ายๆ เรียบง่ายมากๆ ปีนี้”
ปู : “แล้วก็ไปทำบุญกัน ซื้อปลาหน้าเขียงไปปล่อยกัน”
สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ฟิตอยู่ที่บ้าน
ปู : “ปกติผมเข้ายิม แต่ 2 ปีที่ผ่านมานี้ ไม่ได้ไปเลย ก็เลยจัดอุปกรณ์เข้าบ้านหมดเลยทุกอย่าง ก็เล่นอยู่ที่บ้าน ก็ยังฟิตอยู่เหมือนเดิมครับ”
คนแซวดูเป็นโอปป้า
ปู : “คือออกไปทำผมข้างนอกก็ไม่ได้ พอทำมาแล้วผมดำขึ้น นี่เขาก็ต้องจัดอุปกรณ์มาทำให้แล้ว ก็กลายเป็นเหมือนแต่งตัวให้ตุ๊กตา (หัวเราะ) ถามว่าเขินไหม มันมีหลายกระแสมาอยู่แล้ว เรื่องแค่นี้ไม่มีปัญหาเลย สบายมากครับ”
คอยดูแล “นุ๊กซี่” อย่างดี
ปู : “ระยะนี้ก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะว่ามีหลายเรื่องราว ถ้าสมมติว่าเราออกไปข้างนอกที กลับมาทีก็ต้องตรวจเช็คสภาพ เรื่องเสื้อผ้าถ้ามันติดอะไรมา เพราะว่าตอนนี้เขาภูมิตกอยู่”
นุ๊กซี่ : “ตลอดเวลาที่นุ๊กรักษาอยู่ ก็มีผ่าตัดแล้ว คีโมมา 3 รอบแล้ว ก็ยังคงต้องไปโรงพยาบาลอยู่เกือบทุกอาทิตย์ค่ะ แต่ว่าช่วงสัปดาห์นี้จะเป็นช่วงวันหยุด ได้พัก 2 สัปดาห์ ก็เลยรีแลกซ์ขึ้นมากหน่อย ถามว่าตอนให้คีโมเครียดไหม คือตอนรู้ผลเครียดค่ะ แต่หลังจากที่เรารักษาเนี่ย มันไม่มีเวลาเครียดแล้ว มันคือช่วงเวลารักษา จริงๆ นุ๊กจะบอกว่า พอได้เป็นผู้ป่วยมะเร็งแล้ว รู้สึกว่าการเป็นมะเร็งมันไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่เรามอง การแพทย์เดี๋ยวนี้มันดีขึ้นมาก คือไม่มีผลข้างเคียงเลย นุ๊กยังออกมาใช้ชีวิตได้ปกติ ก็เลยรู้สึกว่า เราก็อยากเป็นเจเนอเรชั่นใหม่ ให้คนหายกลัวในเรื่องตรงนี้ แล้วก็อยากให้คนมองคนที่เป็นผู้ป่วยมะเร็งแบบไม่ต้องห่วงเขามาก เพราะว่ามันจะกลายเป็นทำให้คนป่วยรู้สึกจิตตกไปด้วย
ตอนแรกเราก็กังวลเรื่องผมร่วงด้วย แต่ว่าตอนนี้ตัดผมสั้นรอแล้วค่ะ นี่ถ้าหยิบมานิดหนึ่งก็จะมีผมติดอยู่บ้างนิดหน่อย เพราะเริ่มร่วงแล้วค่ะ แต่เราได้กำลังใจดีจากคนรอบตัว เขาได้ไม่เครียด เราก็เลยไม่เครียดไปด้วย จริงๆมันมีวิธีการรับมือเยอะมาก
อย่างเรื่องหน้าอก สมมติใครที่เป็นมะเร็งเต้านม มันสามารถที่จะผ่าตัดออกไป แล้วมีซิลิโคนเข้ามาทดแทนได้ ซึ่งมันเป็นการรักษาทางการแพทย์ที่มันมีอยู่แล้ว เป็นมาตราฐาน หรือเรื่องผมร่วงเนี่ย จริงๆ เตรียมวิกเอาไว้เกิน 7 ทรงแล้ว (หัวเราะ) 7 วัน 7 ทรง แล้วก็เตรียมเรฟเฟอร์เรนซ์แบบหัวโล้นสายฝอรับมือเอาไว้แล้วค่ะ ตอนนี้กังวลแค่ว่าขออย่าให้มันมีอะไรแทรกซ้อนขึ้นมา ตอนที่เรารักษาแค่นั้นเองค่ะ”
ตอนนี้ให้คีโมไป 3 ครั้งแล้ว
นุ๊กซี่ : “6 ไซเคิลจะเป็นทั้งหมด 16 ครั้ง ใน 6 เดือน คือ 3 ครั้งเท่ากับ 1 เข็ม ตอนนี้เราก็ผ่านไป 3 ครั้งแล้ว ตอนนี้ไม่มีเอฟเฟกต์อะไรเลยค่ะ เขาบอกว่าจะทานไม่ได้ นี่ก็ทานได้เยอะมาก (หัวเราะ) ที่ห่วงคือยาตัวนี้ จะถูกกับเซลล์หรือเปล่า ไม่งั้นต้องมาเริ่มกันใหม่ ใช้เวลายาวนาน และทรมานร่างกาย
ปู : “คือเอาสภาพจิตใจเป็นหลัก เพราะว่าสภาพร่างกายเราไม่รู้หรอก ว่าเขาเป็นอะไรบ้างในวันๆ หนึ่ง แต่เราจะสามารถรู้ได้ด้วยสีหน้า ว่าวันนี้มีการวิตกเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้างหรือเปล่า เราก็ดูตามเหตุการณ์ ตามสภาพว่าแต่ละวันเราต้องรับรอง รองรับในเรื่องไหน บางวันก็อาจจะมีอาเจียนบ้าง มีไมเกรนขึ้นบ้าง
ถ้าเป็นห่วงก็คงเป็นห่วงในเรื่องที่ว่า กับตัวยานี้จะถูกกับตัวเซลล์เขาไหม ถ้าเราครบไป 6 เดือนแล้วมาเช็คดู แล้วตัวยามันไม่ถูกกัน มันก็น่าเป็นห่วง ก็ต้องมาเริ่มใหม่อีก อันนี้ก็ต้องใช้เวลายาวมากๆ ไปอีก ก็ทรมานร่างกายครับ แต่นุ๊กเขาก็จะมีอาจารย์หมอที่สนิทกันอยู่แล้ว ก็จะคุ้นเคยกับทีมของเขาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเขาจะแนะนำในสิ่งที่ แม้กระทั่งอาหารเสริม เขาก็จะแนะนำอันที่ คนปกติกินอาหารโภชนาการดีเท่าไหร่ก็แล้วแต่ ก็ไม่ได้คุณค่าเท่ากับทานอาหารเสริมอันนี้ นุ๊กเขาก็จะกินสม่ำเสมอครับ”
ต้องรักษาอีกนานไหม
นุ๊กซี่ : “จริงๆ เรื่องนี้คุณหมอบอกไม่ได้ เพราะเราต้องดูตามทีละสเต็ป พอเราคีโมปุ๊บ เราก็ต้องเข้าไปสแกนร่างกายอีกทีนึงว่าตัวเชื้อมะเร็ง มันยังอยู่ในร่างกายเราอีกมากน้อยแค่ไหน เราก็รักษาไปเรื่อยๆ สเตปบายสเต็ป โฟกัสแค่ปัจจุบัน นุ๊กจะไม่มองไปไกลมาก เขาบอกกันว่ามะเร็งไม่เท่ามโน จริงๆ ด้วยความคิดเราเนี่ย มันจะทำให้เรายิ่งทรุดหนัก เลยโฟกัสแค่วันนี้ก็พอค่ะ มันทำให้รู้สึกว่าคนข้างๆ สำคัญขนาดไหน จะบอกว่าไม่ใช่แค่คนรอบตัวค่ะ อย่างนุ๊กเล่นโซเชียลทุกวัน แค่คำว่า “สู้ๆนะ” มันสั้น แต่มันมีค่ามาก เวลาที่เราถึงจุดที่เรารู้สึกว่า เฮ้ย! วันหนึ่งเราเป็นผู้ป่วย เรารู้สึกว่าแค่คำเล็กๆ จากคนรอบตัว มันมีค่ามากจริงๆ ทำให้เราเข้มแข็ง”