“โอเลี้ยง เชิญยิ้ม” เผยมรสุมชีวิต หนี้ท่วม อยู่ได้เพราะถุงยังชีพ เคยคิดขายอวัยวะแลกเงิน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ตลกคนดัง “โอเลี้ยง เชิญยิ้ม” เปิดใจยอมรับตกอับ หนี้ท่วม เคยคิดขายอวัยวะแลกเงิน ลั่นชีวิตตอนนี้ที่อยู่ได้ เพราะอาศัยถุงยังชีพ

“ดักแด้ เชิญยิ้ม” สู้ชีวิตจากตัวโจ๊กค่าตัว 5 บาท ส่งลูกจนจบเป็นวิศวกรสาว

เจ็บมาเยอะ!! “เป็ด เชิญยิ้ม” เผยชีวิตที่ ( ไม่ ) “ตลก” เหมือนหน้าเวที

ออกมายอมว่าเป็นตลกตกอับ สำหรับ โอเลี้ยง เชิญยิ้ม ที่เปิดใจผ่านคุยแซ่บshow หลังเจอมรสุมชีวิต พร้อมเคลียร์ประเด็นเกี่ยงงาน เพราะโรคหอบหืดขั้นรุนแรง จนถูกหามส่งโรงพยาบาลหลายครั้ง พ้อชีวิตตอนนี้รอเห็นความสำเร็จของลูกสาวจบปริญญา

มีข่าวเป็นหนี้ ยอมควักดวงตาขายข้างละ 8 ล้าน เกิดอะไรขึ้น?

โอเลี้ยง : “ก็มันไม่มีอะไรเหลือแล้ว คือไม่มีอะไรที่จะขายแล้ว งานการก็ไม่มี เงินก็ไม่มี หมดหนทางแล้ว 2 ปีเต็มๆ ที่เจอสถานการณ์นี้ เราใช้ไปหมดแล้วของเก่า ขายไปหมดแล้ว รถ บ้าน”

 

คิดจริงๆหรือคิดเล่นๆ?

โอเลี้ยง : “ทีแรกคิดอยู่นะ เพราะว่าเคยได้ยินข่าวว่าขายไตข้างนึงขายได้ มันก็ยังเหลืออีกข้าง เราเลยไปถามคนที่รู้จัก ถ้าขายดวงตาจะขายได้ไหม เขาบอกขายได้ งั้นก็ขายไปข้างนึง เรายังเหลืออีกข้าง เราก็ยังเหลืออีกข้าง ข้างนึงเขาจะซื้อหรือเปล่าประมาณนี้ ถ้าเกิดขายได้ก็จะขาย คือผมพูดในไลฟ์สดทางเฟซบุ๊ก แล้วก็พูดคุยว่าถ้าดวงตามันขายได้ ผมจะขาย ใครจะซื้อประมาณนี้ ขาย 8 ล้าน ข้างเดียว

เห็นว่าชีวิตตอนนี้มันหนักเหลือเกิน?

โอเลี้ยง : “ใช่ๆ หลายๆอย่างเลย ทั้งยืมเขามาใช้ ค่าบ้าน ค่าไฟ ค่าเทอมลูกที่จะมาถึงด้วย (เป็นหัวหน้าครอบครัวแค่คนเดียว?) รับผิดชอบคนเดียวทั้งหมดเลย กับภรรยาเลิกไปประมาณ 5 ปีแล้ว แต่ว่าเขายังมาอยู่ด้วย แต่ก่อนเคยหนีจากเรานะ ตอนหลังไปไม่รอด แล้วมาอาศัยอยู่กับเรานะ เป็นพี่ เป็นเพื่อน เป็นน้องกัน เพื่อลูก

ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาเก่าที่เป็นเพื่อนกัน อยู่ด้วยกัน 1 คน แล้วยังมีใครอีก?

โอเลี้ยง : “มีลูกสาวอีกหนึ่งคน คุณพ่อ คุณแม่ อยู่ต่างจังหวัด น้องสาวดูแลอยู่”

พอมันเกิดปัญหาแบบนี้ 2 ปีไม่มีงาน เอาเงินมาจากไหน?

โอเลี้ยง : “เงินที่พอมีอยู่บ้างเล็กๆ น้อยๆ แล้วไปยืมเขามาบ้าง ยืมเขามาใช้ ยืมเขามากิน บางทีก็ไปขอเจ้านายบ้าง ลูกพี่บ้าง แต่ขอบ่อยก็ไม่ไหว อายเขา”

เห็นบอกว่าตอนไปเอ่ยปากหยิบยืมเพื่อน ก็เจอดูถูกกลับมา?

โอเลี้ยง : “ดูถูกกลับมา เล่นตลกมาไม่รู้จักเก็บ เห็นมีงานเยอะแยะ มีงานเยอะแล้วไง ค่าตัวแต่ละครั้งเราไม่ได้เรทสูง เราเรทกลางๆ ถูกๆ ไม่ได้มากมาย ได้มา ใช้ไป เขาบอกว่าเชิญยิ้มทุกคน รวยทุกคนส่วนมาก ทำไมแกแย่กว่าเพื่อน ประมาณนั้นอะ”

เขาพูดแบบนี้แล้ว เขาให้ยืมไหม?

โอเลี้ยง : “ก็บอกว่าไม่เป็นไร ช่วย เสร็จแล้ว แต่ยืมไปๆ มาๆ ก็ไม่เอาหรอก เอาไปใช้”

ตอนที่เป็นตลกอยู่แล้วมีงาน ตอนนั้นรายได้ ถ้าเทียบกับคนอื่นๆเราอยู่ประมาณไหน?

โอเลี้ยง : “ก็ประมาณกลางๆ เพราะส่วนมากตลกเขาจะรับเป็นคณะ มันไม่ใช่คนเดียว คณะนึงบางทีไปงานก็ 4-5 หมื่น ถ้าใกล้ๆก็ 3 หมื่น ก็เฉลี่ยกันหลายๆคน ไม่ได้รับคนเดียว งานคนเดียวก็มีบ้าง แต่ก็ไม่มาก แต่ส่วนมากจะรับเป็นคณะมากกว่า”

เมื่อก่อนงานอู้ฟู่มาก เงินที่ได้จากตรงนั้นไปอยู่ไหนหมด?

โอเลี้ยง : “ได้มาใช้ไป ค่าใช้จ่าย ค่ารถ ต้องผ่อนบ้านอยู่ ค่าเรียนลูก เราก็ดูแลคนเดียว ค่าใช้จิปาถะทุกอย่าง มันก็เลยได้มาใช้ไป”

ณ ตอนนี้เห็นว่ามีหนี้เยอะมาก เกิดจากอะไร?

โอเลี้ยง : “ยืมมาใช้นี่แหละ เพราะว่าตอนหลังเงินไม่มีเก็บ ก็ยืมมาจ่ายค่าบ้าน ค่าไฟ ค่ากินบ้าง หลังๆ ก็ไม่รู้ว่าไปยืมใคร อายเขา

พอไปยืมมาแล้วเราไม่มีคืน ก็ไปยืมอีกเจ้านึงมาใช้อีกเจ้านึง?

โอเลี้ยง : “ใช่ๆหนี้ก็ทบ ส่วนมากเพื่อนยืมเพื่อน ไปขอเจ้านาย ขอลูกพี่บ้าง แต่พอขอบ่อยๆ ก็อายเขา เกรงใจ 

หนี้ตอนนี้จริงๆก็มีค่าบ้าน ค่าไฟ ค่าไฟนี่เรียบร้อยไปแล้ว ค่าใช้จ่ายจิปาถะในบ้านก็ประมาณ 4 หมื่นกว่าบาท มันมีค่าส่วนกลางของหมู่บ้านด้วยที่ยังไม่ได้จ่าย ติดเขามา 2 ปีแล้ว ไม่มีจะจ่าย แล้วเราก็เครียด หนี้มันไม่ได้เยอะมาก แต่ว่าต่อไปเราจะเอาที่ไหนมาใช้เขา เราคิดอย่างนั้น มันไม่มีรายได้เข้ามา คือยืมมาแล้ว

หนักถึงขั้นมีเจ้าหนี้มาทวงด้วย แต่ทวงแล้วไม่มีให้เขา?

โอเลี้ยง : “ไม่มีๆ ขอผลัดไปก่อน โทรมาทวง บอกขอเวลาหน่อย เดี๋ยวก็มีงานเข้ามา รอโควิดหายก่อนแล้วค่อยว่ากัน

พอเจ้าหนี้มาทวง แล้วต้องไปหยิบยืมเขา รู้สึกยังไงกับชีวิตบ้างตอนนี้?

โอเลี้ยง : “ณ ตอนนั้นจุกอกเหมือนกัน มันก็ไม่รู้จะโทษใคร ก็โทษตัวเอง เราต้องยอมรับตัวเอง ยอมรับสภาพว่าเขาดูถูกก็เขาดูถูก ช่างมัน เราเป็นจริงนิ ไปโทษใครได้”

คิดว่ามันเกี่ยวกับการบริหารการเงินที่ผิดพลาดของตัวเราเองด้วยไหม ที่เราได้มาใช้ไป แล้วเราไม่มีเก็บไว้สำหรับอนาคตอาจจะลำบาก?

โอเลี้ยง : “มันมีส่วนว่าเราบริหารจัดการยังไม่เก่ง ยังไม่รู้จะจัดการระบบไหน พอได้มาก็ใช้ไป ไม่รู้จักวางแผนระยะยาว มันก็เป็นแบบนี้”

คำว่าตกอับ ได้ยินคำนี้ รู้สึกยังไง?

โอเลี้ยง : “คิดว่ามันเป็นวาทะกรรมมากกว่า ตลกตกอับ ศิลปินตกอับ เราก็ยอมรับนะ ผมโอเค ผมตกอับ คนจะพูดก็พูดไป ไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว หมดหนทางจริงๆ  ผมจะไปโต้แย้งอะไร ผมก็อับจริงๆ ถ้าเราอับไม่จริงเราเถียงได้ เราเถียงไม่ได้ เรายอมรับ ส่วนเรื่องตาตอนนี้ไม่คิดจะตัดแล้ว เพราะอยากเห็นอนาคตลูกมากกว่า อีกอย่างเรามาคิดว่า คนก็มาดูถูกขายตาไปแล้ว แล้วต่อไปไม่ขายไตเหรอ ไม่ขายตับ คนไม่ใช่หมูจะได้ขายทุกอย่าง (พูดด้วยความน้อยใจโชคชะตา?) ใช่ น้อยใจโชคชะตาชีวิตมากกว่า” 

หลายคนก็มีคำถามว่ามันมีทางอื่นที่หารายได้ได้ ทำไมไม่ไปทำ?

 โอเลี้ยง : .มีคนแนะนำว่าไปขายลูกชิ้นไหม วันนึงก็ได้ 500 กว่าบาท ก็โอเคนะพี่ ไปรับลูกชิ้นมา เราคนเดียว ต้องไปรับลูกชิ้น ตื่นแต่เช้า ไปก่อไฟ ย่าง เข็นรถไป เราไม่สะดวก ด้วยสุขภาพของตัวเองหอบ เหนื่อยง่าย จะทำอะไรคล่องแคล่วไวๆ แค่เดินขึ้นบันได 2 ขั้นก็สภาพนี้แล้ว เพราะ 3 เดือนต้องไปหาหมอที เลยทำอะไรหนักๆ ไม่ได้ เหนื่อยมากๆ เราจะไปทันอะไรกินเขาล่ะ แล้วอดีตภรรยาขายน้ำส้มอยู่หน้าหมู่บ้าน ก็ช่วยค่ากับข้าว ช่วงหลังๆ ก็ขายไม่ค่อยดี ให้เขามาช่วยเขาคงตะไม่เอา เขาจะตามใจเขา เขาชอบขายแบบนี้”

ลูกสาวมีส่วนช่วยอะไรบ้างไหม?

โอเลี้ยง : เขาเรียนอยู่ ไม่อยากให้อะไรมากมาย เขาช่วยในช่วงปิดเทอม มีเวลาว่างแล้วไปรับจ๊อบพิเศษเพื่อหารายได้มาช่วยบ้าง แต่เราก็ไม่อยากให้ลูกหักโหมมาก เพราะเขาเรียนอยู่ เราอยากจะช่วยลูกมากกว่า”

เห็นบอกว่าต้องพกยาฉุกเฉินไว้ในตัวตลอด?

โอเลี้ยง : “พกตลอด (โรคประจำตัวคือหอบหืด?) พอเดินหรือวิ่งไม่ได้ก็ต้องพ่นแล้ว แต่ถ้าไม่ฉุกเฉินจะมีเครื่องพ่น ต้องซื้อเอง 2 พันกว่าบาท ราคาถูกนะ ถ้าแพงๆ ก็ 4-5 พัน แล้วก็ต้องซื้อยามาเอง กล่องก็ 800 ต้องประมาณ 2 โดสถึงจะอยู่ ก็เป็นมานานแล้วครับ พอไปหาหมอเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองหนัก แต่ก่อนไม่เคยไปหาหมอเราไม่รู้ ตอนหลังไปหาหมอ หมอบอกหนัก 4-5 ปีแล้ว สภาพนี้ต้องไปหาหมอทุกๆเดือน”

ถ้าพ่นยาไม่ทันต้องหามส่งโรงพยาบาล?

โอเลี้ยง : “มีครับ มีเข้า ICU ครั้งนึง แรงมาก วันนั้นมันก็เพลีย ก็บอกลูกขับรถไปที่โรงพยาบาล หมอก็เข้าห้องฉุกเฉินเลย เขาใส่อะไรเต็มไปหมด แล้วเขาฉีดยาสะดุ้ง คืนมาได้ มันเกิดจากเพราะหลอดลมมันตีบตัน แล้วอีกอย่างไม่ใช่แค่หอบหืดกระเพาะด้วย จะไปทำงานก็พบยาเป็นถุง ใครจะไปทำงานสะดวกคนเดียว ใครจะไปไหว”

พอมีข่าวมาแบบนี้ มีพี่น้องในวงการ ติดต่อมาช่วยบ้างไหม?

โอเลี้ยง : “ก็มีอยู่หลายๆท่าน ท่านนายกโอบะก็โทรมาให้กำลังใจ แล้วเพื่อนๆตลกรุ่นน้อง รุ่นพี่ โทรมาให้กำลังใจ พี่ถั่วแระ ด้วย ก็ให้กำลังใจ สู้ๆ  บางคนเขาก็แย่เหมือนกัน (แต่ก็มีคนนี้เข้ามาช่วย?) พอรู้เรื่องพี่บิณฑ์กับพี่เอกพันธ์ก็ช่วยทันทีเลย แล้วท่านดร.มนัสด้วย พอพี่บิณฑ์รู้ก็โอนมาเลย คุยผ่านน้องผึ้ง เพราะเขาสนิทกันเราก็ขอบคุณทั้งโพสต์ไปแล้วและฝากขอบคุณไปแล้ว ส่วนตัวก็รู้จักแต่ไม่สนิทกัน เขาก็มาช่วย ได้มาแบ่งเบาภาระเบื้องต้น ค่าไฟก็จ่ายหมดเลย 5 เดือน”

ไลฟ์สดขอรับบริจาค?

โอเลี้ยง : “คือมันไม่มีอะไรทำ ก็เลยมาพูดมาคุย ไปๆมาๆ ก็มีเพื่อนๆ แนะนำมา ลองไปไลฟ์สดร้องเพลง ขอพวงมาลัยออนไลน์ คนอื่นก็มีเยอะแยะ เราก็เอา วันแรกก็เงียบ ไม่มีเลยสักพวงเดียว วันที่2 มีมาพันนึง พอวันที่ 3 ไม่มีสักบาท วันที่4 ก็ไม่มีสักบาท ก็ไม่ทำต่อ รู้สึกละอายใจ”

เหรียญมันมีสองด้าน แต่ก็มีคนบางกลุ่มคิดว่ามีคนที่ลำบากกว่าเรา คิดยังไง?

โอเลี้ยง : “มองอยู่เหมือนกัน รู้สึกละอายใจ ยอมรับว่าตัวเอง มือ เท้า มี แต่ด้วยสุขภาพ และอายุ เราเข้าใจสถานการณ์ว่าคนลำบากกว่าเราเยอะ เราก็ไม่ใช่จะมาขอบริจาค แต่ว่าหากผู้ใหญ่เมตตา แบ่งเบาภาระ ก็โอเค  แต่จริงๆอยากจะมาพูดขอเรื่องงานมากกว่า ไม่ได้เน้นเรื่องบริจาคของ ตอนนี้ก็มีงานเข้ามาแล้ว”

ชีวิตทุกวันนี้อยู่ได้ด้วยถุงยังชีพ?

โอเลี้ยง : “ถุงยังชีพจริงๆ ข้าว น้ำปลา น้ำมันพืช อยู่ในนั้นครบ ซึ่งได้มาจากสมาคมตลก วัดพระบาทน้ำพุก็มาช่วยบ้าง แล้วมูลนิธิต่างๆก็มาช่วยผ่านสมาคมตลก มันก็มีอยู่เรื่อยๆ ก็จะมีปลากระป๋องหมดก็ไม่มีอะไรกินแล้ว ถึงนึงข้าวอยู่ได้นาน แต่อาหารมันมีน้อย ปลากระป๋องมีอยู่ 4-5 กระป๋อง ก็ไม่มีอะไรกินแล้ว เงินจะซื้อไข่ก็ไม่มี”

ตอนนี้เงินในบัญชีมีเท่าไหร่ 

โอเลี้ยง : “ตอนนี้เหลืออยู่ 8,000 ครับ เพราะว่าที่ได้มาก็ไปจ่ายเขา ค่าไฟ ค่าบ้าน ใช้หนี้ ใช้สิน เขาบ้าง ตอนนี้เหลือ 8,000  เพราะว่าเราไม่ได้รับบริจาค มีเพื่อนๆก็โอนมาให้บ้าง ส่วนบ้าน หลุดจำนอง ขายฝาก เป็นของเขาไปแล้ว ตอนนี้อาศัยเช่าบ้านตัวเองอยู่  ช้ำใจไหมละ ทั้งๆ ที่จะเป็นของตัวเองอยู่แล้ว”

เคยคิดไหมว่าวันนึงชีวิตจะมาถึงจุดนี้?

โอเลี้ยง : “ไม่เคยคิดเลย บ้านหลังนี้คิดว่าให้เป็นทรัพย์สมบัติของลูก เราก็มาจากบ้านนอกไม่มีอะไรติดเนื้อ ติดตัวมา มาจากบ้านก็มีลังกระดาษใส่เสื้อผ้า สร้างฐานะตัวเองได้ก็โอเค ตอนนั้นภูมิใจ ผ่อนบ้านจะหมดอยู่แล้ว มันมาเกิดปัญหาลูกจะเข้ามหาลัย สรุปงานการไม่มี ต้องไปขายฟาก พอขายฝาก 7 แสน  ติดธนาคารอยู่ 3.8 แสน ใน 7 แสน ต้องไปใช้ธนาคารให้หมดก่อน แล้วจะไปโอนเป็นของเขาได้ แล้วมาเสียดอกเบี้ย เหลืออยู่แสนกว่าบาท คือขายฝาก ถ้า 6 เดือนคุณไม่ไปเอา ก็เป็นของเขาไปเลย”

แล้วทุกวันนี้เช่าอยู่ราคาเท่าไหร่?

โอเลี้ยง : “พอดีมีผู้ใหญ่ใจดีไถ่มาให้ พี่ก็เลยได้เช่าต่อ 4,500  แล้วก็ค่าส่วนกลางอีก 400 ก็เท่ากับ 5,000 ต่อเดือน รถทุกวันนี้ไม่มีแล้ว”

เคยมีช่วงท้อๆ จนอยากจบชีวิตตัวเองไหม?

โอเลี้ยง : “เคยครับ ชีวิตเรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง มันไปหาที่ไหนไม่ได้ มืดแปดด้านไปหมดเลย คนอื่นยังมีคนหยิบยื่นมาช่วยเหลือ เราไม่มีใครแล้ว แล้วลูกเรากำลังเรียนอยู่ ซึ่งเรารับผิดชอบ ทำไมเราทำเพื่อเขาไม่ได้ บางทีอยากไปๆ ให้มันจบ บางทีมันคิดไปไม่ได้ มันคิดถึงอนาคตเขา อยากเห็นอยาคตลูก อยู่ให้ลูกเรียนให้จบก่อน มันท้อใจนะ ต้องมาเช่าบ้านตัวเองอยู่ มันมาถึงจุดนี้ได้ยังไง ลูกก็ให้กำลังใจ สู้ๆ เขาเข้าใจพ่อ”

โดนอะไรบ้างจากกระแสที่ออกมา?

โอเลี้ยง : “ลูกคนเดียวเลี้ยงไม่ได้ บางคน 4 คนเขายังเลี้ยงได้เลย คือต้นทุนไม่เหมือนกัน”

“ใบปอ รัตติยา” ขอโทษหลังเกิดดราม่า ปมนำเพลงของ “ลิซ่า” มาร้องเวอร์ชั่นรถแห่

ถอดรหัส “Squid Game” สื่อบันเทิงที่ตีแผ่ด้านมืดมนุษย์และสังคมเกาหลีใต้

TOP ข่าวบันเทิง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ