เท่านั้นยังไม่พอ เพราะหลังจากที่ ศิลปินสาววัย 28 ปี ขึ้นรับรางวัล ศิลปินแห่งปี จากเวที อเมริกัน มิวสิก อวอร์ดส์ ประจำปี 2018 (American Music Awards of 2018) เธอก็ยังถือโอกาสเชิญชวนให้ชาวอเมริกันทุกคนไปร่วมกันใช้สิทธิ์เลือกตั้งอย่างพร้อมเพรียงกันอีกด้วย
“ฉันอยากบอกว่ารางวัลนี้และทุก ๆ รางวัลของค่ำคืนนี้ได้มาจากการโหวตของประชาชน รู้มั้ยคะว่ามีอีกอะไรอีกอย่างที่ต้องการแรงโหวตจากประชาชน ก็การเลือกตั้งกลางเทอมในวันที่ 6 พฤศจิกายนยังไงล่ะ ไปใช้สิทธิ์กันนะคะ ฉันรักทุกคนค่ะ”
การเปิดเผยจุดยืนทางการเมืองของ เทย์เลอร์ ในครั้งนี้ ได้สร้างความตกตะลึงไปทั่วทั้งโลก เพราะที่ผ่านมา เธอหลีกเลี่ยงที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองมาโดยตลอด ซึ่งกระแสที่ตามมาก็มีทั้งเสียงชื่นชมจากคนที่มีอุดมการณ์เหมือนกัน และกระแสต่อต้านจากฝ่ายสนับสนุนพรรครีพับลิกัน โดยบางคนถึงขั้นเผาซีดีเพลงของเธอทิ้งและประกาศตัวเลิกเป็นแฟนคลับเลยทีเดียว แม้กระทั่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ เองก็ยังออกอาการไม่ปลื้มนักร้องสาวที่โพสต์โจมตี มาร์ช่า แบล็กเบิร์น (Marsha Blackburn) ผู้ลงสมัครตำแหน่งวุฒิสมาชิกของพรรครีพับลิกัน
Marsha Blackburn ทำหน้าที่ในรัฐเทนเนสซีได้อย่างดีเยี่ยม เธอมีความเป็นผู้นำสูงในแบบที่ควรเป็น และเป็นผู้หญิงที่น่าทึ่ง ผมมั่นใจว่า Taylor Swift ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลยซักนิด เอาเป็นว่า ตอนนี้ผมชอบเพลงของ Taylor น้อยลง 25 เปอร์เซ็นต์แล้ว โอเคมั้ย
ซึ่งดูเหมือนว่าเสียงของนักร้องสาวปากแดงจะมีพลังมากกว่าที่ใคร ๆ คาดคิด เพราะล่าสุดมีรายงานว่า ยอดลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งบนเว็บไซต์ โหวต ด็อท โอ อาร์ จี (Vote.org) ได้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเป็นที่น่าสังเกต โดยภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากที่ เทย์เลอร์ โพสต์อินสตาแกรมดังกล่าว ก็มีคนมาเข้ามาลงทะเบียนสูงถึง 65,000 คน เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ลงทะเบียนของทั้งเดือนส.ค. ซึ่งอยู่ที่ราว ๆ 56,000 คนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การที่ยอดลงทะเบียนพุ่งสูงอย่างรวดเร็วก่อนกำหนดการปิดรับลงทะเบียนถือเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เทย์เลอร์ มีส่วนสร้างแรงกระเพื่อมให้กับบรรดาเสียงโหวตจากคนรุ่นใหม่ไม่น้อยเลยทีเดียว
อ่านเพิ่มเติม : “ทรัมป์” เปิดศึก “เทย์เลอร์ สวิฟต์” หลังอีกฝ่ายหนุนเดโมแครต