เส้นทางความรักที่เกิดจากรสชาติอาหารของ เชฟเคน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เมื่อกล่าวถึงชื่อของ “เชฟเคน–วัชรวีร์ วิเสทโภชนาทิพย์” นอกจากเรื่องฝีไม้ลายมือในการทำอาหารที่รับประกันความอร่อยระดับเชื่อขนมกินได้แล้ว ภาพของเชฟจอมเฮี้ยบระเบียบจัดและเต็มที่กับทุกเมนูหรือทุกงานที่ทำก็ถือเป็นอีกหนึ่งภาพจำของเชฟมืออาชีพดีกรีมาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ผู้นี้

แต่คงมีน้อยคนนักที่จะได้เห็นในด้านมุมอื่นๆ ของตัว “เชฟเคน” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของหัวใจ จวบกระทั่งล่าสุด “เชฟเคน” ก็ได้ควงภรรยามาให้สัมภาษณ์ในรายการ “บางกอกซิตี้ เลขที่36” เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนพีพีทีวีแล้ว แม้จะมีช่วงวัยที่ห่างกันมากถึง 15 ปี แต่สำหรับทั้งคู่แล้ว นั่นมิใช่อุปสรรคในการคบหาหรือว่าร่วมชีวิตเป็นครอบครัวเดียวกันแต่อย่างใด


“เขามีความเป็นผู้ใหญ่ แล้วก็เขาได้ให้คำแนะนำได้ ขณะเดียวกันช่วงนั้นมีปัญหาเยอะก็ได้เขานี่แหละที่มาช่วย” แยม ภรรยาคนสวยของเชฟเคน รำลึก หลังจากที่ความรักสุกงอม เส้นทางรักของทั้งคู่ก็ดำเนินไปด้วยแนวทางที่แตกต่างไปจากคนรักคู่อื่นๆ นั่นคือ พวกเขาเริ่มต้นจากการมีลูกก่อนหน้าที่จะมีพิธีแต่งงานไปเมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมา

“ผมคุยกับน้องแยมว่าเราอยากมีลูกก่อนแล้วใช้ชีวิตไปด้วยกัน แล้วหลังจากนั้นพอลูกโตเราก็คุยว่าเราแต่งงานนะเพราะว่า ตอนนี้ลูกสามขวบกว่าแล้วครับก็ได้แต่งงาน” เชฟเคน อธิบายแนวคิดของเขา 

“คือด้วยตัวผมเอง คุณแม่เป็นเชื้อสายฮอลแลนด์เป็นดัตช์ ผมเป็นลูกครึ่งผสมอิสลาม ซึ่งโดยปกติอิสลามจะแต่งงานก่อนแล้ว ที่นี้ด้วยผมโตเมืองนอกแล้วผมใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศเยอะมาก ผมเลยมีความรู้สึกว่าครั้งหนึ่งเรามีครอบครัวที่เป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ ขอใช้ชีวิตร่วมกัน แล้วอยู่ร่วมกันไปก่อน แล้วหลังจากนั้นเมื่อถึงเวลา เราแน่ใจแล้วว่าคนนี้จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ก็คงต้องแต่งงาน หลังจากที่ได้มาอยู่ด้วยกันมาสักระยะหนึ่งก็มีความรู้สึกว่า น้องเขารับเราได้ กับความเป็นคนเจ้าระเบียบของเรา ที่รถต้องสะอาด มีไรฝุ่นไม่ได้ รถต้องล้างต้องเงาตลอดเวลา ผ้าปูเตียงผ้าปูที่นอนสีอื่นผมไม่ใช้ ต้องสีขาวอย่างเดียว คือด้วยตัวผมเอง ผมทำอาชีพอาหาร แล้วเราทำอาหารเราทำให้คนทาน แล้วเราอยู่กับสีขาวอยู่กับเครื่องแบบมาตลอดเวลา ถ้วยจานภาชนะทุกอย่างเราปลูกฝังมาว่าเมื่อไหร่ถ้าเราไม่สะอาด ถ้าคนเขามากินอาหารเราแล้ว มาดูเราแต่งตัวเราไม่สะอาดเล็บมือเราไม่สะอาดไม่อะไรต่างๆ เขาจะมองเราเป็นคนที่สกปรก แล้วด้วยผมมีตำแหน่งเป็นเชฟประมุขของประเทศ ก็คือเป็นเชฟจัดเลี้ยงในรัชกาลที่เก้า ก็เป็นหนึ่งในยี่สิบของโลกด้วยก็เลยมีความรู้สึกว่าเราเป็นตัวแทนของประเทศ เป็นตัวแทนของหลายๆอย่าง แล้วเราเวลาไปที่ไหนคนทุกคนก็จะมองเราก็เลยติดไปด้วย ลูกชายเวลาถ้าแต่งตัวสีเสือผ้าไม่แมตซ์ไปไหนอะไรต่างๆไม่ได้ ผมยาวเกินไปผมก็รีบพาไปตัดอะไรแบบนี้ หรือยกันเวลาพาภรรยาไปข้างนอก รองเท้าใส่ไม่เข้ากับชุดอะไรแบบนี้ นาฬิกาไม่เข้ากระเป๋าไม่เข้าเราก็ต้องดูครับเราต้องดูทุกอย่าง”  

แม้ว่าด้วยความเจ้าระเบียบของมาสเตอร์เชฟไทยแลนด์คนนี้ดูจะเป็นประเด็นสุ่มเสี่ยงที่จะกระทบสำหรับความสัมพันธ์ได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ในที่สุดทั้งคู่ก็ผ่านจุดนั้นมาได้ด้วยวิธีของฝ่ายหญิงที่ว่า “ปล่อยเขาไป”

“เมื่อก่อนก็เคยทะเลาะเรื่องนี้ค่ะ แต่สุดท้ายก็รู้สึกว่าก็ปล่อยเขาไปเพราะเขาก็มีอายุแล้ว” ฝ่ายภรรยา กล่าว ก่อนที่จะยืนยันถึงความเปลี่ยนแปลงของสามีสุดที่รักว่าปัจจุบันได้คลายความเฮี้ยบลงบ้าง พร้อมกับมอบตำแหน่งผู้นำสูงสุดประจำครอบครัวให้สาวแยมโดยดุษฎี
“รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้เขาเกรงใจเราค่ะ ซึ่งก็ดีแล้วเพราะแต่ก่อนก็จะไม่ยอมเลย จะเถียงตลอดเวลา” แยม กล่าว ก่อนฝ่ายสามีจะเสริม ว่า “ตอนนี้ตังค์ตัวเองได้มาเท่าไหร่ให้เมียหมดครับ หรืออย่างเวลาจะซื้อนาฬิกา เมียก็คอยบอกว่าหักค่าขนมรายเดือนนะผ่อนเอา คำพูดที่ได้ยินเข้าหูทุกวันคืออย่าใช้เงินเยอะนะ วันหนึ่งแก่ตัวไปจะได้ไม่ลำบาก”

เรียกได้ว่างานนี้...มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ของเราได้พับเก็บความเฮี้ยบเอาไว้บนหิ้งชั่วคราวแบบเต็มอกเต็มใจ พร้อมกับบรรจงหยอดความรักลงไปในหัวใจของทั้งคู่อยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ก็เพื่อสานสัมพันธ์ให้ทอดยาวออกไปไกลมากที่สุด ไม่ต่างอะไรจากอาหารจานอร่อยที่ทำจากวัตถุดิบที่ดี มีการจัดวางอย่างสวยงามลงตัว ควรค่าแก่การรับประทานได้ในมื้อแล้วมื้อเล่าโดยที่ไม่รู้สึกเบื่อหน่าย

ติดตามความบันเทิงแบบอัพเดตในรายการ "บางกอก Cityเลขที่ 36" ทุกวันจันทร์ -ศุกร์ เวลา 09.20 น. ทาง PPTV HD ช่อง 36

 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ข่าวบันเทิง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ