ความหวังมวลมนุษยชาติ วัคซีนโควิด-19 “BNT162”
คู่รักนักวิจัย เบื้องหลังความสำเร็จวัคซีนโควิด-19 ของ Pzifer และ BioNTech
รัสเซีย เผยวัคซีนโควิด "Sputnik V" ได้ผล 90% เหมือนไฟเซอร์
กลายเป็นข่าวดีของทั้งโลก เมื่อ Pfizer และ BioNTech ประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ชื่อ “BNT162” โดยในการทดสอบทางคลินิกเฟส 3 พบว่า จากอาสาสมัครกว่า 4 หมื่นคน พบว่าวัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพมากกว่า 90%
ข่าวดีนี้ทำให้หลายฝ่ายเริ่มออกมาอ้างความดีความชอบของตน รวมถึงทีมงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วย
โดย ไมค์ เพนซ์ (Mike Pence) รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตข้อความเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2020 วันเดียวกับที่มีข่าวเรื่องความสำเร็จวัคซีนโควิด-19 ว่า “ข่าวใหญ่: ด้วยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่จัดตั้งโดยท่านประธานาธิบดี @realDonaldTrump @pfizer ประกาศว่า การทดลองวัคซีนโควิด-19 มีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อในอาสาสมัครถึง 90%" ไมค์เพนซ์รองประธานทวีต
อย่างไรก็ตาม ดร.แคธริน แจนเซน (Kathrin Jansen) รองประธานอาวุโส และหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาวัคซีน Pfizer บอกว่า บริษัทฯ ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ Operation Warp Speed ของทีมงานทรัมป์
แจนเซนบอกว่า “เราไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของ Warp Speed เราไม่เคยเอาเงินจากรัฐบาลสหรัฐฯ หรือจากใคร”
สื่อเจ้าดังอย่าง CNN ออกมานำเสนอข้อเท็จจริง ดังนี้
ข้อเท็จจริงประการแรก: ความคืบหน้าของวัคซีนของ Pfizer ไม่ได้เกิดจากโครงการความร่วมมือภาครัฐและเอกชน Operation Warp Speed ของฝ่ายบริหารทรัมป์เพียงฝ่ายเดียว นี่เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ก็เป็นเรื่องไม่ถูกต้องเช่นกันที่ Pfizer ออกมาบอกว่าตนไม่เกี่ยวข้องกับ Operation Warp Speed โดยบริษัทฯ มีข้อตกลงที่สำคัญในการขายวัคซีนอย่างน้อย 100 ล้านโดสให้กับรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และ Pfizer รับทราบอยู่แล้วว่าบริษัทฯ "มีส่วนร่วม" ใน Operation Warp Speed ผ่านข้อตกลงดังกล่าวนี้ นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญอิสระบางคนกล่าวว่า ฝ่ายบริหารของทรัมป์สมควรได้รับเครดิตบางส่วนสำหรับความก้าวหน้าของ Pfizer
ที่ผ่านมา Pfizer ไม่ยอมรับเงินของรัฐบาลกลางในการวิจัยวัคซีนโควิด-19 และแม้จะมีข้อตกลงส่งมอบวัคซีนให้กับรัฐบาลประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ ญี่ปุ่น แคนาดา แต่ Pfizer ไม่ขอรับค่าวัคซีนจนกว่าผลการทดลองจะออกมาเป้นที่แน่ชัดว่ามีประสิทธิภาพและปลอดภัยจริง
ทั้งนี้ การที่ฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้ตกลงที่จะซื้อวัคซีนจาก Pfizer อย่างน้อย 100 ล้านโดส มูลค่าราว 1.95 พันล้านดอลลาร์ (ราว 6 หมื่นล้านบาท) นั้น ผู้เชี่ยวชาญ 3 คนบอกกับ CNN ว่า สัญญาการซื้อนี้อาจเป็นส่วนสำคัญในการเร่งกระบวนการพัฒนาวัคซีนของ Pfizer ดังนั้นการที่บริษัทฯ บอกว่า ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของ Operation Warp Speed นั้นจึงไม่น่าจะถูกต้อง
ด้าน ชารอน คาสทิลโล (Sharon Castillo) โฆษกของ Pfizer กล่าวว่า บริษัทฯ นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Operation Warp Speed
"ไฟเซอร์เป็นหนึ่งในผู้ผลิตวัคซีนหลายรายที่เข้าร่วม Operation Warp Speed ในฐานะผู้พัฒนาวัคซีนโควิด-19 ที่มีศักยภาพ ... ในขณะที่ Pfizer บรรลุข้อตกลงการซื้อกับรัฐบาลสหรัฐฯ จริง แต่บริษัทฯ ไม่ได้รับเงินทุนจากหน่วยงานวิจัยและพัฒนาขั้นสูงทางชีวการแพทย์ (BARDA) สำหรับใช้ในกระบวนการวิจัยและพัฒนาการลงทุนทั้งหมด การวิจัยและพัฒนาทั้งหมดเกิดขึ้นโดย Pfizer เป้นผู้รับความเสี่ยงเอง ดร.แจนเซนเพียงต้องการเน้นย้ำประเด็นสุดท้ายเท่านั้น"
เรียบเรียงจาก CNN
ภาพจาก Getty Image