ศาลฮ่องกง จำคุก “โจชัว หว่อง” 13 เดือนครึ่ง ข้อหาปลุกระดม - ชุมนุมผิด กม.


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ศาลฮ่องกงอ่านคำพิพากษา สั่งจำคุก “โจชัว หว่อง” พร้อมแกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยอีก 2 คน ในความผิดฐานจัดการชุมนุมโดยไม่รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่เมื่อปีที่แล้ว

“โจชัว หว่อง” เจอแยกขังเดี่ยว หลังตรวจพบสิ่งแปลกปลอม

ตร.ฮ่องกงรวบ "โจชัว หว่อง" ฐานร่วมชุมนุมผิดกฎหมาย

นายโจชัว หว่อง และเพื่อนแกนนำ เดินทางมาฟังคำตัดสินใจที่ศาลมาจีสเตรท เขตเกาลูนตะวันตก (West Kowloon Magistrates Court) ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ทั้ง 3 คน ยอมให้การรับสภาพผิดในข้อหาปลุกระดมและจัดการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ใกล้กับสำนักงานตำรวจ เมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว

นอกจากนี้ หว่องยังโดนตั้งข้อหาเข้าร่วมการชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ในเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว รวมถึงวันที่ 4 มิ.ย.ปีนี้ ซึ่งเป็นกิจกรรมจุดเทียนรำลึกในวันครบรอบเหตุนองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ในกรุงปักกิ่ง โดย ศาลตัดสินให้หว่องรับโทษจำคุก 13 เดือนครึ่ง ส่วนแอกเนส โจว และอีวาน แลม รับโทษ 10 เดือน และ 7 เดือน ตามลำดับ

ผู้พิพากษาระบุว่า จำเลยทั้งสามคนยุยงปลุกปั่นให้ผู้ประท้วงก่อเหตุยึดสำนักงานตำรวจ และยังตะโกนด่าทอเจ้าพนักงาน จึงสมควรได้รับโทษจำคุกโดยทันที

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า แอกเนส โจว ฟังคำพิพากษา และร่ำไห้ออกมาด้วยความเสียใจ ขณะที่หว่องตะโกนว่า จากนี้ไปคงจะหนัก แต่เราจะอดทน ก่อนถูกเจ้าพนักงานนำตัวออกไปจากห้องพิจารณาคดี

ทั้งนี้ หว่อง และเพื่อนแกนนำ ถูกควบคุมตัวในเรือนจำตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อรอศาลอ่านคำพิพากษากำหนดโทษในวันนี้ โดยหว่องถูกแยกขังเดี่ยวในห้องที่เปิดไฟตลอดเวลา หลังเจ้าหน้าที่อ้างว่า เอ็กซเรย์พบวัตถุต้องสงสัยอยู่ภายในร่างกาย ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลฮ่องกงเดินหน้าจัดการกับกลุ่มนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่จีนผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ โดยมีการกำหนดโทษผู้กระทำความผิดไว้ถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต แต่จะไม่มีการลงโทษย้อนหลังสำหรับความผิดที่เกิดขึ้นก่อนหน้า

สำหรับหว่อง เริ่มออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองตั้งแต่อายุยังน้อย โดยในปี 2014 หว่องได้ก้าวขึ้นมาเป็นแกนนำขบวนการปฏิวัติร่ม ด้วยวัยเพียง 17 ปี โดยเน้นเรียกร้องให้ชาวฮ่องกงมีสิทธิ์เลือกผู้นำและสมาชิกสภานิติบัญญัติอย่างแท้จริง ไม่ให้อำนาจชี้ขาดไปอยู่ที่รัฐบาลปักกิ่ง

แม้การประท้วงในปี 2019 จะไม่มีแกนนำที่ชัดเจน แต่หว่องและเพื่อนแกนนำ ก็ยังมาเข้าร่วมการประท้วงเป็นครั้งคราว แต่ภายหลังจากที่จีนผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติได้ไม่นาน หว่องก็ประกาศยุบพรรคเดโมซิสโตที่เขาร่วมก่อตั้งขึ้นในทันที และการชุมนุมก็มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ