ทรัมป์แย้งสายลับสหรัฐฯ อ้างมีหลักฐานว่า โควิด-19 มาจากแล็บจีน
WHO เตรียมส่งทีมไปจีน สืบหาต้นตอของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่า จีนไม่อนุญาตให้ทีมสืบสวนหาต้นตอของไวรัสโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลกเข้าประเทศ โดยให้เหตุผลว่าวีซ่าของผู้เชี่ยวชาญยังไม่ได้รับการอนุมัติ โดยขณะนี้มีผู้เชี่ยวชาญ 2 คนจากทั้งหมด 10 คน อยู่ระหว่างการเดินทางไปยังประเทศจีน แต่กลับได้รับแจ้งในนาทีสุดท้ายว่า พวกเขาไม่สามารถเดินทางถึงจุดหมายปลายทางได้
ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกระบุว่า เขาผิดหวังอย่างมากที่จีนไม่อนุญาตให้ทีมผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งขณะนี้ทางองค์การอนามัยโลกได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน เพื่อเร่งภารกิจครั้งนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะภารกิจครั้งนี้สำคัญมากสำหรับองค์การอนามัยโลก
ด้านไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารโครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลกหวังว่า นี่เป็นเพียงปัญหาด้านการขนส่งและระเบียบทางราชการเท่านั้น ที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว
ด้านไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารโครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลกหวังว่า นี่เป็นเพียงปัญหาด้านการขนส่งและระเบียบทางราชการเท่านั้น ที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2020 องค์การอนามัยโลกได้ว่าประกาศว่า จะส่งทีมผู้เชี่ยวชาญไปสืบหาต้นตอของไวรัสโควิด-19 ที่เมืองอู่ฮั่นของประเทศจีน และจริงๆ แล้วตามกำหนดการเดิม ทีมผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกจะต้องลงพื้นที่ในช่วงต้นเดือนมกราคมปี 2021
ทีมสืบหาต้นตอไวรัสโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลกประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติ 10 ราย ที่มีทั้งแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ และนักระบาดวิทยา พวกเขาตั้งใจลงพื้นที่ที่เมืองอู่ฮั่นของประเทศจีนเพื่อสอบสวนหาต้นตอของการระบาด เนื่องจากเมืองอู่ฮั่น ถือเป็นศูนย์กลางการระบาดแห่งแรกของโลก หลังผู้ติดเชื้อรายแรกหรือ Patient Zero ถูกพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับตลาดอาหารทะเลในเมืองอู่ฮั่น
ภารกิจของทีมผู้เชี่ยวชาญคือ การทำงานใกล้ชิดกับนักวิทยาศาสตร์ชาวจีน เพื่อศึกษาว่าไวรัสโควิด-19 อุบัติขึ้นอย่างไร และเชื้อไวรัสชนิดนี้แพร่เชื้อมายังมนุษย์ได้อย่างไรเพราะหากมนุษย์ไม่เข้าใจแหล่งกำเนิดของเชื้อไวรัส อาจเป็นการเปิดโอกาสให้ไวรัสอุบัติซ้ำในอนาคตได้
อย่างไรก็ตาม ภารกิจสืบหาต้นตอของไวรัสโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลกครั้งนี้ถูกโจมตีจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐอเมริกา
เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นายการ์เร็ต กริกส์บี (Garrett Grigsby) ผู้อำนวยการสำนักบริหารกิจการระหว่างประเทศ กระทรวงสุขภาพและบริการสาธารณสุขสหรัฐฯ ระบุว่า ภารกิจสืบสวนหาต้นตอของโควิด-19 ครั้งนี้ไม่สอดคล้องกับข้อตกลงระหว่างองค์การอนามัยโลกและประเทศสมาชิก เนื่องจากองค์การอนามัยโลกไม่ได้เจรจาขอบเขตของภารกิจครั้งนี้ร่วมกับประเทศสมาชิกอย่างโปร่งใส
ความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐฯ ทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลก โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำของสหรัฐฯ มักโทษว่าจีนคือสาเหตุที่ทำให้ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลกซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ยังกล่าวหาว่าองค์การอนามัยโลกว่าเป็นหุ่นเชิดของประเทศจีน ที่ช่วยจีนปกปิดข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19
ความขัดแย้งดังกล่าวส่งผลให้สหรัฐฯ ประกาศถอนตัวออกจากการเป็นประเทศสมาชิกขององค์การอนามัยโลกอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งกระทบต่อภารกิจขององค์การอนามัยโลกในช่วงเวลาของวิกฤตโรคระบาดเป็นอย่างมาก เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นผู้บริจาครายใหญ่ขององค์การอนามัยโลก
ด้านรัฐบาลจีนได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ หลายครั้ง และย้ำว่าจีนไม่ได้จงใจปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19
และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หัว ซุน หยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้แถลงการณ์ยืนยันว่า ประเทศจีนยินดีต้อนรับทีมผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก เพื่อมาสืบสวนหาต้นตอของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่น