"ทรัมป์" ประกาศภาวะฉุกเฉินวอชิงตันดีซี


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงวอชิงตันดีซี สกัดภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในช่วงพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน

ม็อบหนุนทรัมป์ บุกรัฐสภาสหรัฐฯ เสียชีวิต 1

ไทม์ไลน์ ผู้สนับสนุน “ทรัมป์” บุกยึดรัฐสภาสหรัฐฯ

แถลงการณ์ของทำเนียบขาว ระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ อนุมัติคำสั่งประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย หรือกรุงวอชิงตันดีซี เมืองหลวงของประเทศ มีผลบังคับใช้ทันที ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 24 ม.ค.นี้

โดยจะให้อำนาจกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และสำนักจัดการภาวะฉุกเฉินกลาง ดูแลให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นและสนับสนุนภารกิจของกรุงวอชิงตันดีซี ในการรักษาความสงบเรียบร้อย รวมถึงปกป้องทรัพย์สินและความปลอดภัยของประชาชนในช่วงนี้

ขณะที่ แลร์รี โฮแกน ผู้ว่าการรัฐแมรีแลนด์ ที่มีอาณาเขตติดกับกรุงวอชิงตันดีซี เตรียมส่งเจ้าหน้าที่จากกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิเข้าไปช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นสถานที่จัดพิธีสาบานตน

รวมถึงยังสั่งยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยที่สภาประจำรัฐ ในเมืองแอนนาโพลิสด้วย หลังสำนักงานสอบสวนกลาง หรือ FBI ออกหนังสือเตือนว่า ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ต่อเนื่องจนถึงพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง มีโอกาสจะมีการก่อเหตุประท้วงแบบติดอาวุธและบุกสถานที่ราชการใน 50 รัฐ

ส่วนความพยายามในการถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่ง สืบเนื่องจากเหตุกลุ่มผู้สนับสนุนบุกป่วนรัฐสภา เมื่อสัปดาห์ก่อน

ล่าสุด สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก เปิดการประชุมเพื่อเสนอญัตติว่าด้วยการถอดถอนทรัมป์ ด้วยข้อกล่าวหา ปลุกระดมให้เกิดการก่อจลาจล

โดยญัตติดังกล่าวจะถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณา และลงมติในวันพุธนี้ หากรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ปฏิเสธที่จะใช้อำนาจตามบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ปลดทรัมป์จากตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าทรัมป์ และเพนซ์ ได้พบหารือกันที่ทำเนียบขาวเมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ที่ผ่านมา จึงมีความเป็นไปได้สูงที่เพนซ์จะไม่ทำตามข้อเรียกร้องของพรรคเดโมแครต

 นั่นหมายความว่า ขั้นตอนจะกลับไปสู่สภาผู้แทนราษฎรตามวิธีปกติ ซึ่งหากเสียงส่วนใหญ่สนับสนุน   สภาล่างจะก็พิจารณายื่นเรื่องต่อให้สภาสูง หรือ วุฒิสภา เปิดการไต่สวนต่อไป แต่กว่าวุฒิสภา ซึ่งปัจจุบันรีพับลิกันยังครองเสียงข้างมากอยู่ จะรับเรื่องไปพิจารณา อย่างเร็วที่สุดคงต้องรอจนถึงวันที่ 19 ม.ค. และต้องใช้เสียงถึง 2 ใน 3 จึงจะปลดทรัมป์จากตำแหน่งได้

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ