ธนาคารโลกเผย รัฐประหารเมียนมากระทบประชาธิปไตย-การพัฒนาประเทศ
จังหวะเป๊ะ! คลิปสาวเมียนมากำลังแอโรบิคตอนเช้า ขณะเจ้าหน้าที่ก่อการรัฐประหาร
นายแบบเมียนมา "ไป่ ทาคน" โพสต์ถึงรัฐประหาร วอนโลก ช่วยเมียนมา ช่วย "อองซาน ชูจี"
เหตุการณ์รัฐประหารยึดอำนาจในเมียนมาเมื่อวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมาเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งโลก เพราะเป็นสัญญาณการถดถอยของประชาธิปไตยในแผ่นดินลุ่มน้ำอิระวดีแห่งนี้ซึ่งต่อสู้เพื่อผระชาธิปไตยมานานนับสิบปี แต่สุดท้ายกลับกำลังถอยกลับไปที่เดิม
ด้านผู้นำจากหลายประเทศทั่วโลก ได้ออกมาประณามการกระทำครั้งนี้ของกองทัพเมียนมา โดยส่วนมากระบุว่า ต้องการให้เมียนมาปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุม และดำเนินขั้นตอนกระบวนการตามหลักประชาธิปไตย
สหรัฐฯ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่า การเข้ายึดอำนาจและควบคุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนเป็น “การคุกคามโดยตรงต่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม”
ไบเดนกล่าวว่า “เราจะทำงานร่วมกับพันธมิตรของเราทั้งในภูมิภาคและจากทั่วโลก เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม ตลอดจนนำตัวผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบในการล้มล้างการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตยของเมียนมามารับผิดชอบ”
แอนโทนี เจ บลินเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความกังวลอย่างยิ่ง “เราขอเรียกร้องให้ผู้นำทหารปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้นำฝ่ายพลเรือนทั้งหมด และเคารพเจตจำนงของประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย สหรัฐฯ จะยืนหยัดร่วมกับประชาชนในเมียนมาซึ่งปรารถนาที่จะมีประชาธิปไตยและเสรีภาพ สันติภาพและการพัฒนา”
“ไบเดน” ขู่ฟื้นมาตรการคว่ำบาตรเมียนมา
จีน
หวังเหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แสดงความคิดเห็นว่า “หวังว่าทุกฝ่ายในเมียนมาจะสามารถจัดการความแตกต่างของพวกเขาได้ภายในกรอบรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และการรักษาเสถียรภาพ”
ออสเตรเลีย
มารีส เพน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียแสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “มีรายงานว่า กองทัพเมียนมาพยายามที่จะยึดอำนาจอีกครั้ง และได้ควบคุมตัวนางอองซานซูจีที่ปรึกษาแห่งรัฐและประธานาธิบดีอูวินมินต์ ... เราขอเรียกร้องให้ทหารเคารพหลักนิติธรรมเพื่อยุติข้อพิพาทผ่านกลไกที่ชอบด้วยกฎหมายและปล่อยตัวผู้นำพลเรือนและคนอื่น ๆ ที่ถูกควบคุมตัวโดยมิชอบในทันที”
FM @MarisePayne: "We are deeply concerned about the events in Myanmar today - a good friend of Australia, an important member of our very close neighbours in ASEAN - and a country which has been on an important democratic transition for over a decade now." @SBSNews #auspol pic.twitter.com/mcKBOIS2pC
— Pablo Viñales (@pablovinales) February 1, 2021
อินเดีย
กระทรวงต่างประเทศของอินเดียกล่าวว่า “กำลังเฝ้ามองพัฒนาการในเมียนมาด้วยความกังวลอย่างยิ่ง ... อินเดียมีความแน่วแน่ในการสนับสนุนกระบวนการเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตยในเมียนมามาโดยตลอด เราเชื่อว่าประเทศต้องต้องยึดถือหลักนิติธรรมและกระบวนการประชาธิปไตย เรากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด”
สหราชอาณาจักร
บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษประณามการรัฐประหาร “การลงคะแนนเสียงของประชาชนต้องได้รับความเคารพ และผู้นำฝ่ายพลเรือนจะต้องได้รับการปล่อยตัว”
I condemn the coup and unlawful imprisonment of civilians, including Aung San Suu Kyi, in Myanmar. The vote of the people must be respected and civilian leaders released.
— Boris Johnson (@BorisJohnson) February 1, 2021
ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นกล่าวว่า สนับสนุนประชาธิปไตยในเมียนมาอย่างมาก และเรียกร้องให้ปล่อยตัวอองซานซูจีและคนอื่น ๆ ที่ถูกควบคุมตัว
“ขณะนี้รัฐบาลญี่ปุ่นได้ให้การสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยในเมียนมาอย่างมาก และคัดค้านการย้อนกลับกระบวนการดังกล่าว”
แคนาดา
นายกฯ จัสติน ทรูโด ทวีตข้อความว่า "การกระทำล่าสุดของทหารเมียนมาเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และแคนาดาขอประณามพวกเขาอย่างรุนแรง เราเรียกร้องให้กองทัพปล่อยตัวทุกคนที่ถูกควบคุมตัวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการนี้ทันที กระบวนการประชาธิปไตยต้องได้รับการเคารพ"
The recent actions of the Myanmar military are unacceptable, and Canada strongly condemns them. We call for the immediate release of everyone who has been detained as part of this operation. The democratic process must be respected. https://t.co/xfnkkEMGKs
— Justin Trudeau (@JustinTrudeau) February 1, 2021
ตุรกี
ตุรกีเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประวัติการยึดอำนาจทางทหาร และรัฐบาลเพิ่งรอดพ้นจากการพยายามก่อรัฐประหารเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยประณามการกระทำของกองทัพเมียนมาอย่างรุนแรงและแสดงความกังวลอย่างสุดซึ้ง
“ตุรกีไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารและการแทรกแซงทางทหารทุกรูปแบบ” พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง บุคคลสำคัญทางการเมือง และพลเรือนทั้งหมดในทันที และให้รัฐสภาของประเทศประชุมโดยเร็วที่สุด
สหภาพยุโรป
ชาร์ลส มิเชล ประธานสภายุโรปประณามการยึดอำนาจของทหารในเมียนมาและเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมด
“ผลลัพธ์ของการเลือกตั้งต้องได้รับการเคารพและกระบวนการประชาธิปไตยจะต้องได้รับการฟื้นฟู” มิเชลเขียนในทวิตเตอร์ของตนเอง
I strongly condemn the coup in #Myanmar and call on the military to release all who have been unlawfully detained in raids across the country.
— Charles Michel (@eucopresident) February 1, 2021
The outcome of the elections has to be respected and democratic process needs to be restored.
สหประชาชาติ
สเตฟาน ดูจาริค โฆษกเลขาธิการสหประชาชาติ (UN) กล่าวในแถลงการณ์ว่า “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลกระทบที่ร้ายแรงต่อการปฏิรูประบอบประชาธิปไตยในเมียนมา”
แถลงการณ์ของ UN ระบุว่า “ผลการเลือกตั้งทั่วไปสะท้อนถึงความปรารถนาที่ชัดเจนของประชาชนเมียนมาในการธำรงไว้ซึ่งเส้นทางสู่การปฏิรูปประชาธิปไตยอันยากเข็ญ”
สหประชาชาติ ประณามรัฐประหารในเมียนมา
อาเซียน
ประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งในปีนี้คือบรูไน เรียกร้องให้เมียนมา “กลับคืนสู่สภาวะปกติ” โดยเร็วที่สุด
“เราระลึกถึงวัตถุประสงค์และหลักการที่ปรากฏในกฎบัตรอาเซียน ซึ่งรวมถึงการยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย หลักนิติธรรม และธรรมาภิบาล การเคารพและปกป้องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน”
“เราขอย้ำว่าเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศสมาชิกอาเซียนมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการบรรลุประชาคมอาเซียนที่สงบสุขมั่นคงและมั่งคั่ง เราสนับสนุนให้ดำเนินการเจรจาการปรองดองและการกลับคืนสู่สภาวะปกติตามเจตจำนงและผลประโยชน์ของประชาชนเมียนมา”
ด้านเพื่อนบ้านในอาเซียนอย่าง ฟิลิปปินส์ กัมพูชา ไทย ตัดสินใจไม่ออกความเห็น โดยระบุว่าเป็นเรื่องของกิจการภายในประเทศที่ไม่ควรเข้าไปแทรกแซง และวางจุดยืนเช่นเดียวกับที่ประธานอาเซียนประกาศ
สำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีชาวเมียนมาเดินทางเข้ามาทำงานเป็นจำนวนมาก เมื่อวานนี้ (1 ม.ค.) ได้รวมตัวกันประท้วงที่บริเวณหน้าสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย เป็นผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์ และปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาแสดงท่าทีประท้วงต่อต้านการรัฐประหารในเมียนมา
จากเหตุดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 2 คน จากผู้ชุมนุมอย่างน้อย 200 คนทั้งชาวไทยและชาวเมียนมา และจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 3 คน ฐานร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกันหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย, ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9 ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (โควิด-19), กระทำการหรือดำเนินการใด ๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 34(6)
ตร.จับ 3 ผู้ชุมนุมหน้าสถานทูตเมียนมา แจ้งข้อหาฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
"ประยุทธ์"แจงจุดยืนไทยปมรัฐประหารเมียนมา
สภาธุรกิจไทย-เมียนมา เตือนอย่าตื่นตระหนก
เรียบเรียงจาก Aljazeera