บรรยากาศ “อารยะขัดขืน” เสียงต้านรัฐประหารเมียนมา
คุณแม่ในฮ่องกงเตรียมพาลูกย้ายประเทศ หลังระบบการศึกษาถูกจีนครอบงำ
ขบวนการอารยะขัดขืนในเมียนมายังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเกือบ 1 สัปดาห์ โดยล่าสุดวิชาชีพที่ออกมาประท้วงต่อต้านการรัฐประหารคือครูและนักเรียน
เมื่อบ่ายวันศุกร์ (5 ก.พ.) อาจารย์และนักศึกษาหลายร้อยชีวิตรวมตัวกันนอกมหาวิทยาลัยย่างกุ้ง และมหาวิทยาลัยดากอง (Dagon University) ในกรุงย่างกุ้ง โดยพวกเขาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการชูสามนิ้ว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ผู้ประท้วงในแถบเอเชีย เช่น ฮ่องกง ไทย นำมาใช้เพื่อแสดงการต่อต้านการปกครองแบบเผด็จการ
พวกเขาส่งเสียงตะโกนข้อความสนับสนุนผู้นำอองซาน ซูจี ที่ถูกจับกุม พร้อมถือธงและสวมริบบิ้นสีแดงซึ่งเป็นสีประจำพรรคการเมืองของเธอ เป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ว่า พวกเขายืนอยู่ฝั่งอองซาน ซูจี
นเว ธซิน หลาย อาจารย์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า "เราไม่ต้องการให้กองทัพทำรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของเราโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เราจะไม่ทำงานให้พวกเขาอีกต่อไป เราต้องการให้การรัฐประหารของกองทัพล้มเหลว"
"เรามีเป้าหมายที่จะหยุดระบอบการปกครองนี้ เรากำลังหยุดงานเพื่อประท้วงอย่างสันติ" ฮันนี่ ลวิน อาจารย์อีกท่านบอก
"เราจะไม่ปล่อยให้คนรุ่นเราต้องทนทุกข์ภายใต้เผด็จการทหารแบบนี้" มินซิธู นักศึกษาคนหนึ่งกล่าว
ก่อนหน้านี้ทหารเพิ่งควบคุมตัวผู้นำระดับสูงอีกคนจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ไปเพิ่มอีกหนึ่งคน
ด้านอองซาน ซูจี ไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนอีกเลยนับแต่เกิดการรัฐประหารในวันจันทร์ที่ 1 ก.พ. โดยทนายความของเธอบอกว่า ขณะนี้อองซาน ซูจีถูกกักบริเวณในบ้านพัก เขาบอกว่ากำลังหาทางปล่อยตัวเธอและประธานาธิบดีรวมถึงสมาชิกพรรคคนอื่น ๆ ที่ถูกควบคุมตัว
ในขณะเดียวกัน ที่ฮ่องกง ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีข้อพิพาทกับจีนแผ่นดินใหญ่มาอย่างต่อเนื่อง และมีการประท้วงแสดงการต่อต้านการปกครองโดยจีนมาตลอด กลับกำลังสวนทางในแง่ของการให้อิสรภาพในการแสดงออกทางการเมือง
ล่าสุด ส่วนหนึ่งของกฎการศึกษาใหม่ระบุว่า ครูและโรงเรียนในฮ่องกงจะต้องตรวจสอบพฤติกรรมของเด็ก และรายงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากพบว่าเด็กสนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย
กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฮ่องกงบังคับใช้เมื่อเดือนมิถุนายน 2020 ที่ผ่านมาโดยรัฐบาลปักกิ่งโต้แย้งว่าจำเป็นต้องจัดการกับความไม่สงบที่เชื่อมโยงกับการประท้วงเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเด็กรุ่นใหม่หลายพันคนเริ่มมีส่วนร่วมในการประท้วง
นอกจากนี้ สำนักการศึกษาฮ่องกง ได้ออกกฎบังคับให้เด็กอายุ 6 ขวบต้องเรียนรู้เกี่ยวกับอาชญากรรมภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ โดยใช้สื่อวิดีโอแอนิเมชันอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่ากฎหมายความมั่นคงแห่งชาติคืออะไร
เนื้อหาส่วนหนึ่งของวิดีโอดังกล่าวระบุว่า ความพยายามในการแบ่งแยกดินแดน การโค่นล้มรัฐบาล และการสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติ มีโทษจำคุก และสอนเด็กว่า “กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติถูกตราขึ้น เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของฮ่องกงและความเจริญรุ่งเรืองในระยะยาว เราทุกคนต่างรู้ดีว่า ฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเรา”
นักเรียนชั้นประถมยังต้องเรียนวิธีร้องเพลงชาติ และเรียนรู้ว่ากองทัพจีนสามารถปกป้องฮ่องกงได้อย่างไร ส่วนนักเรียนที่โตขึ้นมาจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับขีดจำกัดของสิทธิและเสรีภาพของฮ่องกง
ไม่เพียงเท่านั้น โรงเรียนต้องห้ามไม่ให้นักเรียนและครูร้องเพลงบางเพลงซึ่งใช้ในการประท้วงหรือต่อต้านการปกครองของจีน รวมถึงหนังสือใด ๆ ที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติจะถูกนำออกจากห้องสมุดของโรงเรียนด้วย
ครูคือผู้สร้างอนาคตของชาติ เมื่อครูในชาติหนึ่งส่งเสริมประชาธิปไตย แต่ครูอีกชาติหนึ่งต้องลิดรอนสิทธิเสรีภาพทางความคิด อนาคตทั้งสองชาติจะเป็นเช่นไรต่อไป ต้องติดตาม
บทบาทของครู ในวันที่นักเรียนชูสามนิ้ว
ผอ.ร.ร.สามเสนฯ ชี้ เด็กมีสิทธิแสดงออกทางการเมือง แนะครูดูแลชี้นำให้เข้าใจ ปชต.
“เพื่อไทย” แฉ ครู-อาจารย์ ถูกคาดโทษ หากปล่อยนร.แสดงออกทางการเมือง
ภาพจาก AFP