ตรุษจีนปีนี้ (2564) แตกต่างจากทุกๆ ปี เมื่อชาวจีนแผ่นดินใหญ่และตามเมืองต่างๆ นับล้าน ไม่สามารถเดินทางข้ามเมืองเพื่อกลับไปเยี่ยมเยียนหรือไหว้บรรพบุรุษได้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเป็นการขอความร่วมมือจากรัฐบาลท้องถิ่น โดยการเสนอเงินอั่งเปา บัตรกำนัลสำหรับช้อปปิ้ง ตั๋วชมภาพยนตร์ และของขวัญอื่นๆ
มวลชนแห่เที่ยวล้นกำแพงเมืองจีนในช่วงวันหยุดยาวไม่หวั่นโควิด-19
ประกาศ งดตรุษจีนเยาวราช ป้องกันโควิด-19
“ โบนัส เงินสด บัตรกำนัลช้อปปิ้ง ตั๋วภาพยนตร์ โปรโมชันเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นฟรี ไปจนถึงส่วนลดอาหาร ของประดับตกแต่งถูกนำมาใช้เป็นเครื่องจูงใจเพื่อยับยั้งชาวจีนจากการเดินทางที่จะเกิดขึ้น เพื่อกลับไปอยู่กับครอบครัว ”
เทศกาลตรุษจีนเป็นวันหยุดที่สำคัญที่สุดของประเทศจีน งานเฉลิมฉลองอยู่จัดขึ้นตลอด 16 วัน ซึ่งวันตรุษจีนปีนี้ตรงกับ วันที่ 12 กุมภาพันธ์
ขนส่งมวลชนสาธารณะในปีนี้คาดว่าจะมีการเดินทางโดยรถไฟเพียง 300 ล้านเที่ยวทั่วประเทศจากเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งรวมถึงการเดินทางทางอากาศ รถไฟ และรถประจำทาง
จีน มีความพยายามเพื่อควบคุมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชน 11 ล้านคนในมณฑลเหอเป่ยถูกระงับไม่ให้เดินทางออกจากเมือง เช่นเดียวกับมณฑลเฮยหลงเจียงทางตะวันออกเฉียงเหนือติดชายแดนรัสเซีย ประกาศภาวะฉุกเฉิน โดยเจ้าหน้าที่เรียกร้องให้จัดการเฉลิมฉลองด้วยความระมัดระวัง
รัฐบาลท้องถิ่นเมืองฝอซาน มณฑลกวางตุ้งทางตอนใต้ของจีน ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงผู้อยู่อาศัยซึ่งมีทั้งบัตรกำนัลช้อปปิ้ง ตั๋วเข้าสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่น ตั๋วภาพยนตร์ ส่วนลดอาหาร ของประดับตกแต่งปีใหม่ เพื่อดึงดูดให้ไม่ให้เกิดการเดินทาง
“ เราขอแนะนำจากใจจริงว่าการลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายไวรัส จะปกป้องตัวคุณเองและครอบครัวถือเป็นของขวัญที่ดีที่สุด ที่คุณสามารถมอบให้ตัวเองและเมืองของคุณได้” ข้อความดังกล่าวถูกระบุในจดหมาย “
ขณะที่ในเมืองเซียงเฉิง ในมณฑลเจียงซูทางตะวันตกของเซี่ยงไฮ้ รัฐบาลท้องถิ่นมองเงินอั่งเปาให้กับผู้ที่อยู่บ้านคนละ 500 หยวน (77 ดอลลาร์สหรัฐ) พร้อมลดค่าเช่าแฟลตของรัฐลงครึ่งหนึ่ง
เมืองไห่ชาง มณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน รัฐบาลประกาศให้เงินช่วยเหลือรวมแล้วกว่า 11 ล้านหยวนสำหรับผู้อยู่อาศัยในเมืองระหว่างการเฉลิมฉลอง
“ห่างกันชั่วคราวเพื่อการรวมตัวที่ดีกว่าในอนาคต” ผู้ประกาศข่าว CCTV ของจีนประกาศ "ขอให้เรายืนหยัด อดทนเพื่อชัยชนะที่จะมาถึง"
ที่มา South China Morning Post