กระสุนของกองทัพ กับการลุกฮือของชาวเมียนมา


โดย PPTV Online

เผยแพร่




การประท้วงใหญ่ที่เกิดขึ้นในวันนี้ มีชนวนมาจากการปราบปรามผู้ประท้วงอย่างรุนแรงในเมืองมัณฑะเลย์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กองทัพใช้ทั้งแก๊สน้ำตา กระสุนยาง และกระสุนจริง ที่ตอนนี้เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย และบาดเจ็บกว่า 100 ราย นองเลือดที่สุด นับตั้งแต่เกิดรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์

ผู้นำรัฐประหารเมียนมา ขอข้าราชการกลับเข้าทำงาน อ้างเห็นแก่ประโยชน์ของชาติ

ชาวเมียนมา แห่ถอนเงินจากธนาคารของกองทัพ-บอยคอตต์ธุรกิจ

ในช่วงเย็นของวันที่ 20 กุมภาพันธ์ หรือวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่เมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของเมียนมา ชาวเมียนมาหลายร้อยคนกำลังออกมาประท้วงบนท้องถนน รถฉีดน้ำขนาดใหญ่หลายคันได้ทยอยเคลื่อนเข้ามากลางฝูงชน จากนั้นก็เริ่มฉีดน้ำใส่ผู้ประท้วง ที่ครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงน้ำเปล่า แต่มีแก๊สน้ำตาด้วย

ภาพวีดีโอนี้เผยให้เห็นว่า ผู้ประท้วงได้พากันวิ่งหนีอย่างอุตลุต แต่รถฉีดแก๊สน้ำตายังคงรุดหน้าเข้าไปในตรอกซอกซอยของเมืองมัณฑะเลย์ เพื่อไล่ฉีดแก๊สน้ำตาใส่ชาวมัณฑะเลย์

จากนั้นท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวาย มีเสียงปืนดังขึ้นติดต่อกันหลายนัด ผู้ประท้วงพากันวิ่ง หรือขี่มอเตอร์ไซค์หลบหนี

 

ในวันนั้นมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ใช้ทั้งกระสุนยาง กระสุนดิน และกระสุนจริงในการยิงปราบผู้ชุมนุม ผู้ประท้วงรายหนึ่งได้โชว์กระสุนให้สำนักข่าว AFP ดู ซึ่งพบว่าเป็นกระสุนดินลูกกลม ด้านผู้ประท้วงในมัณฑะเลย์รายอื่นๆ ได้แต่นำไม้มาตีถังเพื่อให้เกิดเสียงดัง

ขณะที่ภาพมุมสูงนี้เผยให้เห็นว่าตำรวจยิงใส่ผู้ชุมนุมหลายนัด จนผู้ประท้วงบริเวณนั้นพากันวิ่งหนีกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว จนถนนที่เต็มไปด้วยผู้ประท้วงโล่งภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที

 

ด้านคลิปวีดีโอนี้ที่ชาวมัณฑะเลย์อัดไว้ เผยให้เห็นเจ้าหน้าที่หลายรายถือปืนยาวและเดินไล่ยิงใส่ผู้ชุมนุมหลายนัด โดยผู้อัดคลิปได้พูดบรรยายขณะอัดวีดีโอว่า Police หรือตำรวจ ด้วยน้ำเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว

ต่อมามีรายงานว่า มีประชาชน 2 รายถูกยิงเสียชีวิต ตามข้อมูลของญาติผู้เสียชีวิต หมออาสาสมัคร และสำนักข่าวท้องถิ่นระบุว่า รายแรกเป็นช่างทาสี อายุ 36 ปี โดยเขาถูกยิงเข้าที่หน้าอก รายที่สอง เป็นชายอายุ 18 ปี ที่ถูกยิงเข้าที่หัว เบิ้องต้นมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 20 ราย โดยผู้ประท้วงได้ถือปลอกกระสุนที่หล่นตามพื้นเพื่อแสดงให้เห็นอาวุธที่เจ้าหน้าที่ใช้

 

การปราบปรามผู้ประท้วงในเมืองมัณฑะเลย์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นการปราบปรามที่รุนแรงที่สุด ตั้งแต่มีการประท้วงติดต่อกันมา 2 สัปดาห์  พบเลือดของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บได้บนท้องถนน ขณะที่รถพยาบาลหลายคันได้รีบพากันนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแต่กระสุนปืน และแก๊สน้ำตา ไม่สามารถหยุดคนได้ ความรุนแรงกลับยิ่งทำให้ผู้คนพากันหลั่งไหลออกมาประท้วงบนท้องถนนมากกว่าเดิม

เช้าวันถัดมาคือวันอาทิตย์ ที่เมืองมัณฑะเลย์ ชาวเมียนมาทุกรุ่นทุกวัย ทุกอาชีพ ต่างพากันออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐประหารและการใช้ความรุนแรง พวกเขาต่างพากันใส่ชุดเครื่องแบบทำงาน และเรียกร้องให้เพื่อนร่วมอาชีพออกมาร่วมกันทำอารยขัดขืนต่อต้านกองทัพให้หนักกว่านี้อีก

 

ตั้งแต่กองทัพเมียนมา ก่อรัฐประหารยึดอำนาจในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปฏิกิริยาของชาวเมียนมาเริ่มจากเคาะหม้อ เคาะไห เริ่มทำอารยขัดขืน และสุดท้ายประชาชนจำนวนมากตัดสินใจลงท้องถนน พวกเขาไม่อยากให้เมียนมาต้องกลับไปสู่จุดเดิมของการอยู่ภายใต้รัฐบาลทหารอีก แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็เรียนรู้ว่า การใช้ความรุนแรงตอบโต้จะยิ่งนำไปสู่การเสียเลือดเนื้อของประชาชน ซึ่งพวกเขาไม่อยากให้เกิดดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในการปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างรุนแรงในปี 1988

อารยขัดขืนได้ผล เพราะดูเหมือนว่าทหารไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับการหยุดงานของครู  หมอ พยาบาล จนถึงเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง

คลื่นของชาวเมียนมาในเมืองย่างกุ้งเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากเกิดการสลายการชุมนุมอย่างรุนแรงคือคำตอบที่ชัดเจนว่า ชาวเมียนมาไม่ยอมแพ้แม้จะถูกใช้อาวุธขู่ให้หยุด ชูป้ายเรียกร้องให้ประชาชนด้วยกันออกมาร่วมกันทำอารยขัดขืนให้มากกว่าเดิมไปอีก ชูป้ายเรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติช่วยเหลือพวกเขา ทั้งพระสงฆ์ และแม่ชีของศาสนาคริสต์ต่างลงถนนร่วมขบวนประท้วงด้วยเช่นกัน ความโกรธของประชาชนต่อกองทัพได้ลุกลามเหมือนไฟลามทุ่งไปยังประชาชนทุกหย่อมหญ้า

 

การประท้วงต่อต้านกองทัพเมียนมาครั้งนี้ นับว่าเป็นการประท้วงที่ใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 10 ปีตั้งแต่การประท้วงต่อต้านกองทัพในปี 2007 แต่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในมัณฑาเลย์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้ดึงผู้ประท้วงจำนวนมากลงท้องถนน โดยเฉพาะในวันนี้ที่ผู้ชุมนุมพยายามชูให้วันที่ 22 เดือนสอง (กุมภาพันธ์) เป็นวันชุมนุมใหญ่เพื่อล้อไปกับวันที่ 8 เดือน 8 (สิงหาคม) เมื่อปี 1988 ซึ่งเป็นวันชุมนุมต่อต้านกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เมียนมา ในครั้งนั้นมีประชาชนเรือนแสนลงท้องถนนเพื่อขับไล่กองทัพ และครั้งนี้ชาวเมียนมาต้องการเรียกร้องให้เพื่อร่วมชาติร่วมกันต่อต้านกองทัพให้มากที่สุดอีกครั้ง

 

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ