ชาวเมียนมาต่อสู้กับกองทัพด้วยเทคโนโลยีและความเชื่อ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




รายงานยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดจากการออกมาประท้วงต่อต้านรัฐประหารมีอย่างน้อย 50 รายแล้ว เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ผู้คนก็ยังคงออกมาประท้วงทุกวัน จนเรียกได้ว่าแทบจะเป็นกิจวัตรประจำวัน ผู้ประท้วงเหล่านี้มีเพียงมือเปล่าในการต่อสู้กับทหารติดอาวุธ พวกเขาจึงต้องคิดค้นยุทธวิธีต่างๆ ในการรับมือ ทั้งใช้ข้าวของบ้านๆ ไปจนถึงเล่นกับความเชื่อทางใจ ด้วยความหวังว่าอย่างน้อยจะสั่นสะเทือนกองทัพได้บ้าง

กระสุนของกองทัพ กับการลุกฮือของชาวเมียนมา

ผู้ประท้วงเมียนมา ใช้กลยุทธ์ใหม่ รับมือการถูกปราบปราม

หนึ่งเดือนแล้วหลังเกิดรัฐประหารในเมียนมา และเป็นหนึ่งเดือนที่โลกได้เห็นการต่อสู้เพื่อทวงคืนประชาธิปไตย

ประชาชนมือเปล่าสู้รบกับทหารติดอาวุธได้อย่างไร พวกเขาคิดค้นกลยุทธ์แบบบ้านๆ ขึ้นมารับมือ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ถังดับเพลิงฉีดพ่นสร้างม่านหมอก การใช้จานดาวเทียมมาเป็นโล่ หรือการวางอิฐบนท้องถนน เพื่อไม่ให้รถของกองทัพเคลื่อนเข้ามาได้

ส่วนบนพื้นถนนก็มีการวางกับดักไว้ โดยใช้กะลามะพร้าวที่ด้านในตอกตะปูแหลมบางครั้งกลยุทธ์ไม่ใช่แค่อุปกรณ์ แต่ยังรวมถึงการจัดการระบบ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในนครย่างกุ้งเกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อผู้ประท้วงถูกระดมยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่

พวกเขาเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ด้วยการเรียงถุงพลาสติกบรรจุน้ำไว้ที่พื้น ทันทีที่เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตามา ผู้ชุมนุมจะขว้างถุงใส่น้ำไปยังจุดนั้นทันที เพื่อลดความรุนแรงของสารเคมี ในขณะที่บางคนก็พรมน้ำให้ตัวเปียกไว้เลย พร้อมรับมือกับสถานการณ์ล่วงหน้า

แต่กลยุทธ์ที่กำลังได้รับความสนใจและเป็นที่พูดถึงมากที่สุดคือการใช้ของธรรมดาๆ อย่าง “ผ้าถุง”

ที่เห็นอยู่นี้คือแนวเครื่องกีดขวางใหม่ ผู้ประท้วงขึงราวตากผ้าไว้กลางถนน พร้อมนำภาพสมาชิกครอบครัวของทหารมาแปะประจานไว้บนผ้าถุงที่แขวนอยู่ด้วย ทำแบบนี้ด้วยความเชื่อว่าทหารเมียนมาจะไม่กล้าเดินลอดผ่าน และพวกเขาจะต้องเสียเวลาปลดราวตากผ้า ซึ่งจะช่วยถ่วงเวลาให้ผู้ประท้วงหนีได้ทัน

ผ้าถุงของผู้หญิงมีชื่อเรียกว่า “ทาเมี่ยน” ส่วนโสร่งที่ผู้ชายเมียนมาสวมเรียกว่า “ลองยี” เมียนมาคือสังคมชายเป็นใหญ่ที่ผ้าถุงคือเครื่องมือในการแสดงออกที่ชัดเจนที่สุดถึงวัฒนธรรมการกดทับผู้หญิงมานานหลายชั่วรุ่น

ทาเมี่ยนถูกมองว่าเป็นของต่ำ ดังนั้นคนเมียนมาจะไม่ซักรวมกับเสื้อผ้าของผู้ชาย ส่วนบ้านที่เคร่งมากๆ แม้แต่เตารีดก็ต้องใช้แยกกัน รวมถึงการพับเก็บในตู้ ลองยีต้องอยู่ในชั้นที่สูงกว่าทาเมี่ยน

อย่างไรก็ตาม แม้ทาเมี่ยนจะถูกมองว่าสกปรก แต่ข้าวของนี้กลับมีพลังในการลดทอนอำนาจของผู้ชาย ดังนั้นคนเมียนมาจึงเชื่อกันว่า หากผู้ชายเดินลอดใต้ทาเมี่ยนที่ตากอยู่ จะส่งผลให้ชายผู้นั้นโชคร้าย เสื่อมมนต์ขลัง ไปจนถึงสูญเสียอำนาจ

คนเมียนมารุ่นใหม่ไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่พวกเขารู้ดีว่ากองทัพเมียนมายังคงยึดโยงกับความเชื่อโหราศาสตร์ การแขวนผ้าถุงแบบนี้จึงเป็นกลยุทธ์โต้กลับที่เจ็บแสบ

พวกเขาต่อสู้กับกองทัพควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนบนโลกออนไลน์ TikTok คือแพลตฟอร์มหลักที่คนรุ่นใหม่เมียนมาใช้เคลื่อนไหว แฮชแทกใหญ่ยังคงเป็น #SaveMyanmar แบบเดียวกับทวิตเตอร์ ด้วยจำนวนผู้เข้าชมมากถึง 826 ล้านครั้ง

ภายในมีชาวเมียนมามากมายออกมาแสดงจุดยืน และบันทึกเหตุการณ์ประท้วงบนท้องถนน รวมไปถึงบอกเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อช่วยให้คนต่างชาติเข้าใจ

มากกว่านั้นคนรุ่นใหม่ยังยั่วล้อกับความน่ากลัวของกองทัพ อย่างวิดีโอนี้ที่นำภาพของมิน อ่อง หล่าย หัวหน้าคณะรัฐประหารมาต่อยหน้าเล่น หรืออย่างบัญชีนี้ที่เปิดขึ้นโดยใช้ชื่อมิน อ่อง หล่าย และนำรูปของผู้นำเผด็จการมาล้อเลียน โดยล่าสุดวิดีโอที่มิน อ่อง หล่าย ออกแถลงการณ์ว่าจะนำพาประเทศไปสู่ประชาชิปไตย บัญชีนี้ก็นำภาพฟิลเตอร์กอริลลามาสวมทับกับหน้าของผู้นำ

อย่างไรก็ตาม กองทัพเองก็เข้าถึงโลกออนไลน์ได้เช่นกัน ส่งผลให้ขณะนี้การข่มขู่คุกคามประชาชนไม่ได้เกิดขึ้นแค่บนท้องถนน

รายงานจาก เมียนมาไอซีทีเพื่อการพัฒนา หรือที่เรียกว่า MIDO ระบุว่า  พวกเขาพบวิดีโอของทหาร หรือกลุ่มที่สนับสนุนทหารมากกว่า 800 วิดีโอ เผยแพร่บน TikTok บางวิดีโอมียอดเข้าชมมากถึงหลักหมื่น และในจำนวนนี้บางวิดีโอพบว่า ทหารที่ออกมาสื่อสารถืออาวุธปืนมาด้วย

เช่น ทหารเมียนมาในเครื่องแบบรายนี้ที่จ่อปากกระบอกปืนมายังกล้อง พร้อมทำท่าทางเหมือนจะลั่นกระสุน หรือทหารนายนี้ที่บอกว่า ในปี 1988 ซึ่งเป็นปีที่ชาวเมียนมาออกมาประท้วงใหญ่ ตอนนั้นหลังจากยิงคนๆ หนึ่งแล้วต้องโหลดกระสุนใหม่ แต่ปืนในปัจุบันโหลดกระสุนครั้งเดียวสามารถยิงคนได้ถึง 30 คน

การแพร่กระจายของวิดีโอเหล่านี้บนโลกออนไลน์กำลังสร้างความกังวล จนทางซีอีโอของ TikTok ต้องออกมาระบุว่า กำลังจับตาดูคอนเท้นทำนองนี้อย่างใกล้ชิด

จากการเคาะหม้อไหกะละมังสู่การแขวนผ้าถุงกลางถนน ความเชื่อกำลังกลายมาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของคนรุ่นใหม่ ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีกระจายข่าวสาร

ดูราวกับคนละโลกแต่กลับลงตัว ทั้งยังสอดรับเสริมส่งกัน เพราะจะสู้กับเผด็จการทหารที่มีอาวุธครบมือ ชาวเมียนมาจำต้องใช้ทุกวิถีทาง

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ