จีนเตือนไต้หวัน “เอกราชเท่ากับสงคราม”
สหรัฐฯ พร้อมเคียงข้างประเทศเอเชียตอ.เฉียงใต้ รับมืออิทธิพลจีน
จีนส่งเครื่องบินรบยั่วยุไต้หวัน ไม่พอใจสานสัมพันธ์สหรัฐฯ
พลเรือเอกฟิลิป เดวิดสัน นายทหารระดับสูงของสหรัฐฯ ซึ่งประจำการอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า ภายใน 6 ปีข้างหน้า มีโอกาสที่จีนจะบุกไต้หวัน เนื่องจากรัฐบาลปักกิ่งกำลังเร่งเดินหน้าเพื่อเข้ามาแทนที่อำนาจทางทหารของสหรัฐฯ ในเอเชีย
เกาะไต้หวันเป็นพื้นที่ปกครองตนเองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยประชาธิปไตยซึ่งอยู่ภายใต้การคุกคามจากการรุกรานของจีนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้นำจีนมองว่าเกาะไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่ และได้สาบานว่าจะยึดไต้หวันคืนกลับเป็นของในสักวันหนึ่ง
“ผมกังวลว่าพวกเขา (จีน) กำลังทะเยอทะยานจะมาแทนที่สหรัฐฯ และไต้หวันเป็นหนึ่งในความทะเยอทะยานของพวกเขาอย่างชัดเจน และผมคิดว่าภัยคุกคามกำลังปรากฏให้เห็นในช่วงทศวรรษนี้ อันที่จริงคือในอีก 6 ปีข้างหน้า” เดวิดสันบอกกับคณะกรรมาธิการกองกำลังติดอาวุธของวุฒิสภาสหรัฐ
เกาะไต้หวันแยกตัวออกจากการปกครองของจีนเมื่อสิ้นสุดสงครามกลางเมืองในปี 1949 แม้สหรัฐฯ เปลี่ยนการรับรองทางการทูตจากไต้หวันเป็นจีนในปี 1979 แต่สหรัฐฯ ยังคงวางตัวเป็นพันธมิตรอย่างไม่เป็นทางการและเป็นผู้สนับสนุนทางการทหารที่สำคัญที่สุดขอไต้หวัน
ในสมัยที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดี ก็มีความพยายามกระชับความสัมพันธ์ที่อบอุ่นกับไต้หวัน ในขณะที่เขาแสดงบาดหมางกับจีนในประเด็นต่าง ๆ เช่น ประเด็นการค้า ประเด็นความมั่นคงของชาติ
เดวิดสันเสริมว่า จีนยังอ้างสิทธิ์ในอาณาเขตในทะเลจีนใต้ที่อุดมด้วยทรัพยากร และยังคุกคามเกาะกวมของสหรัฐฯ อีกด้วย และเตือนว่า ก่อนหน้านี้กองทัพจีนได้เผยแพร่วิดีโอจำลองการโจมตีฐานทัพบนเกาะที่มีลักษณะคล้ายกับฐานทัพของสหรัฐฯ ในดิเอโกการ์เซีย และกวม
เขาเรียกร้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติอนุมัติการติดตั้งอาวุธต่อต้านขีปนาวุธ “Aegis Ashore” บนเกาะกวม เชื่อว่าสามารถสกัดกั้นขีปนาวุธของจีนได้
“กวมจำเป็นต้องได้รับการปกป้อง และจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นในอนาคต” เดวิดสันกล่าว
นอกเหนือจากระบบป้องกันขีปนาวุธ Aegis อื่น ๆ ที่กำหนดไว้สำหรับออสเตรเลียและญี่ปุ่นแล้วเดวิดสันยังเรียกร้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติจัดงบประมาณสำหรับอาวุธระยะไกลมากขึ้น “เพื่อให้จีนรู้ว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการทำมีต้นทุนราคาแพงที่ต้องจ่าย”
เดวิดสันยังกล่าวว่า “ฐานยิงระยะไกลที่แม่นยำมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาเสถียรภาพของสภาพแวดล้อมที่ไม่เสถียรในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก”
ในขณะที่เพนตากอนกล่าวว่าสนับสนุนการติดตั้งขีปนาวุธดังกล่าวในภูมิภาคนี้ แต่พันธมิตรในเอเชียก็ดูเหมือนจะไม่เห็นด้วยนัก
อย่างไรก็ตามเดวิดสันกล่าวว่า การป้องกันตัวจากขีปนาวุธไม่เพียงพอที่จะยับยั้งศัตรู “การป้องกันตัวเองจากขีปนาวุธเป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่ต้องทำ และถ้าผมเป็นผู้จัดการทีมเบสบอล แม้ผมป้องกันเกมได้เก่งที่สุดในโลก แต่ถ้าไม่สามารถทำประตูได้ ผมก็ไม่สามารถชนะเกมได้”
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP