ด่วน!! เลื่อน ฉีดวัคซีนโควิด "นายกฯ"
5 ประเทศยุโรประงับใช้วัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาล็อต ABV5300
เกาหลีใต้ ยันไม่พบหลักฐาน วัคซีน “แอสตราเซเนกา” โยงผู้เสียชีวิต 8 ราย
สำนักงานยายุโรป (EMA) กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วยุโรปมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาให้ประชากรแล้วกว่า 5 ล้านคน แต่มีรายงานว่า 30 คนในนี้เกิดภาวะเลือดแข็งตัว เกิดลิ่มเลือดอุดตันหลังฉีดวัคซีน และหนึ่งในนั้นเสียชีวิต
เมื่อมีรายงานดังกล่าวเกิดขึ้น ทำให้หลายประเทศในยุโรปได้ระงับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกา เริ่มจากออสเตรียที่มีหญิงวัย 49 ปีเสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ (7 มี.ค.) จากภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกา และประกาศระงับใช้วัคซีนเฉพาะล็อต ABV5300 ในวันจันทร์ (8 มี.ค.) ซึ่งมีจำนวน 1 ล้านโดสแจกจ่ายไปใน 17 ประเทศสหภาพยุโรป
หลังจากนั้นยังพบผู้ที่มีภาวะเลือดแข็งตัวเพิ่มขึ้นอีก 3 รายจากวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาล็อตดังกล่าว ทำให้มีอีก 4 ประเทศประกาศระงับใช้วัคซีนโควิด-19 ล็อตดังกล่าว คือ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก และลัตเวีย
ต่อมาในวันพฤหัสบดี (11 มี.ค.) อิตาลีประกาศระงับใช้วัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาชั่วคราว จากความกังวลเรื่องภาวะลิ่มเลือดหลังฉีด แต่เฉพาะล็อต ABV2856 เท่านั้น จากนั้น เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ และนอร์เวย์ ก็ประกาศระงับการใช้ในวันเดียวกัน แต่เป็นการระงับใช้วัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาทั้งหมด
นอกจากนี้ มีข่าวที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า ที่อิตาลีมีชายวัย 50 เสียชีวิตจากภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังเข้ารับวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาเช่นกัน
จาก 9 ประเทศข้างต้นที่ประกาศระงับการใช้วัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกา มีเพียงเดนมาร์กเท่านั้นที่ระบุระยะเวลาการระงับใช้ 2 สัปดาห์ ประเทศอื่นที่เหลือไม่ระบุว่าจะกลับมาใช้วัคซีนดังกล่าวเมื่อใด
ทั้งนี้ บางประเทศเลือกระงับการใช้จากความกังวลถึงรายงานพบผู้รับวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาเกิดลิ่มเลือดอุดตัน แต่บางประเทศก็ตัดสินใจเพราะพบกรณีดังกล่าวด้วยตนเอง
ตัวอย่างเช่น สถาบันสาธารณสุขนอร์เวย์ออกแถลงการณ์ว่า เลือกระงับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาชั่วคราว หลังจากมีรายงานการเสียชีวิตในเดนมาร์ก และนอร์เวย์เองก็พบผู้เข้ารับวัคซีนมีภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่ส่วนใหญ่เกิดในผู้สูงอายุซึ่งมักจะมีโรคประจำตัวอื่น
ขณะที่บางประเทศยังไม่พบเคสที่เกิดลิ่มเลือดอุดตันหลังฉีดวัคซีนแต่รอดูสถานการณ์ก่อน เช่น คณะกรรมการด้านสาธารณสุขสเปนประกาศว่า ได้ชะลอการฉีดวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาให้กับผู้ที่มีอายุระหว่าง 55-65 ปี จนกว่าจะมีการตรวจสอบและสรุปผลข้างเคียงทั้งหมดโดย EMA
โดยทั่วไป ผลข้างเคียงวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาที่เคยพบ และหน่วยงานสาธารณสุขทั่วโลกเคยรายงาน ได้แก่ มีไข้ ปวดหัว ปวดบริเวณที่ฉีด อาเจียน ท้องร่วง วิงเวียน ไม่อยากอาหาร ปวดท้อง ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นขึ้น ฯลฯ แต่ไม่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
ขณะนี้ คณะกรรมการประเมินความเสี่ยงด้านเภสัชวิทยา (PRAC) ของ EMA กำลังดำเนินการตรวจสอบสาเหตุที่แน่ชัดว่าภาวะลิ่มเลือดอุดตันเกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาหรือไม่
ด้านบริษัทแอสตราเซเนกาออกมาชี้แจงว่า บริษัทเห็นความปลอดภัยของผู้รับวัคซีนเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
“หน่วยงานกำกับดูแลมีมาตรฐานด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ชัดเจนและเข้มงวดสำหรับการอนุมัติยาใหม่ ๆ และรวมถึงวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาด้วย ความปลอดภัยของวัคซีนเราได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวางในการทดลองทางคลินิกเฟสที่ 3 และข้อมูลที่ได้รับการตรวจสอบโดยผู้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียยืนยันว่าวัคซีนนี้เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป” บริษัทกล่าวในแถลงการณ์
ด้าน EMA กล่าวว่า ประเทศต่าง ๆ ยังสามารถใช้วัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาต่อไปได้ในระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุภาวะลิ่มเลือดอุดตัน “ประโยชน์ของวัคซีนดังกล่าวยังคงมีมากกว่าความเสี่ยง”
EMA เสริมว่า “ขณะนี้ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าการฉีดวัคซีนทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งไม่เคยถูกระบุว่าเป็นผลข้างเคียงจากวัคซีนนี้”
สำหรับประเทศไทยซึ่งสั่งจองวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาไว้ ล่าสุด เช้าวันนี้ (12 มี.ค.) ผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุข ประชุมด่วน มีมติเลื่อนกำหนดการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรก ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ที่เดิมกำหนดไว้ 09.00 น. วันนี้ ที่สถาบันบำราศนราดูร เพื่อประเมินวัคซีนแอสตราเซเนกา หลังหลายประเทศในยุโรปพบปัญหาผลข้างเคียง
เรียบเรียงจาก BBC / CNN / The Guardian
ภาพจาก AFP