จีนเล็งยกเครื่องระบบเลือกตั้งฮ่องกง “ให้คนรักชาติเข้ามาปกครอง”
ในภาวะประชาธิปไตยถูกคุกคาม ครูเมียนมา-ครูฮ่องกง หนึ่งเรียกร้อง หนึ่งลิดรอน
อังกฤษ เปิดให้ชาวฮ่องกงขอวีซ่าพิเศษ ชี้ จีน ละเมิดสนธิสัญญาคืนเกาะ
เมื่อวันพฤหัสบดี (11 มี.ค.) ที่ผ่านมา รัฐสภาจีนได้ให้การรับรองข้อเสนอเรื่อง “การปรับปรุงระบบเลือกตั้งของฮ่องกง” ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น โดยจะมุ่งจำกัดความสามารถของชาวฮ่องกงในการเลือกตั้งผู้นำของตนได้อย่างเสรี
สมาชิกสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ในกรุงปักกิ่ง ลงคะแนนเสียงเห็นด้วย 2,895 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง
การเสนอ “ร่างคำตัดสิน” ถือเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศแผนการที่จะปรับปรุงระบบเลือกตั้งของฮ่องกงเมื่อต้นเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม การลงคะแนนเสียงของสภาประชาชนแห่งชาติส่วนใหญ่เป็นการออกเสียง “พอเป็นพิธี” เท่านั้น เนื่องจากไม่ค่อยปรากฏภาพการลงคะแนนเสียงไม่เห็นด้วยกับกฎหมายที่ผู้นำประเทศเป็นผู้นำเสนอ จนถึงกับมีคำเรียกชื่อเล่นของรัฐสภาลักษณะนี้ว่า “รัฐสภาของเล่น”
เป้าหมายที่ระบุไว้ของแผนการปรับปรุงดังกล่าวคือ เพื่อให้แน่ใจว่ามีเพียง “ผู้ที่รักชาติ” เท่านั้นที่จะได้ปกครองฮ่องกง ซึ่งคำจำกัดความที่เจ้าหน้าที่จีนระบุไว้ไม่เพียงแต่หมายถึงต้องภักดีต่อประเทศเท่านั้น แต่ยังต้องจงรักภักดีต่อ “พรรคคอมมิวนิสต์” ด้วย
ซ่งหรูอาน รองอธิบดีกระทรวงการต่างประเทศจีนในฮ่องกงกล่าวว่า “เมื่อเราพูดถึงความรักชาติ เราไม่ได้พูดถึงสิ่งที่เป็นนามธรรมอย่างการรักวัฒนธรรมหรือประวัติศาสตร์ของจีน แต่เป็นการรักสาธารณรัฐประชาชนจีนที่มีอยู่ในปัจจุบันภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน”
การตัดสินใจดังกล่าวรวมถึงแผนการปรับเปลี่ยนขนาดและองค์ประกอบของสภานิติบัญญัติของฮ่องกง โดยจะเพิ่มจำนวนที่นั่งในสภาจาก 70 เป็น 90 ที่นั่ง ดังนั้นจึงลดสัดส่วนโดยรวมของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
ด้านคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการคัดเลือกผู้บริหารระดับสูงของฮ่องกงจะขยายจาก 1,200 คนเป็น 1,500 คน และได้รับอำนาจในการเสนอชื่อผู้สมัครสมาชิกสภานิติบัญญัติรวมถึงอำนาจในการแต่งตั้งประมาณ 1 ใน 3 ของที่นั่งทั้งหมดในสภา และที่นั่งอีก 1 ใน 3 ที่เหลือจะดำเนินการโดยหน่วยงานซึ่งได้รับการคัดเลือกจากหน่วยงานการค้าและอุตสาหกรรม
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จางเย่ซุ่ย โฆษกของ NPC กล่าวว่า เหตุการณ์ความไม่สงบในปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงที่ฮ่องกงเกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างรุนแรง “แสดงให้เห็นว่าระบบการเลือกตั้งต้องได้รับการปรับปรุงเพื่อให้แน่ใจว่า ผู้รักชาติได้ปกครองฮ่องกง”
ด้าน แคร์รี แลม ผู้นำฮ่องกงตนปัจจุบันกล่าวว่า “ไม่มีสิ่งที่เรียกว่ามาตรฐานสากลของประชาธิปไตย ทุกประเทศต้องพิจารณาบริบทที่เหมาะสมของประเทศนั้น ๆ หรือสถานที่นั้น ๆ เรากำลังปรับปรุงระบบการเลือกตั้งโดยทำให้แน่ใจว่าใครก็ตามที่จะมาปกครองและบริหารฮ่องกงในอนาคตคือคนที่รักประเทศ คือคนที่รักฮ่องกง”
เรียบเรียงจาก CNN
ภาพจาก AFP