นอร์เวย์ เจออีกลิ่มเลือดอุดตัน หลังฉีดวัคซีน “แอสตราเซเนกา”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กระทรวงสาธารณสุขนอร์เวย์ พบบุคลากรทางการแพทย์ 3 คน ที่เพิ่งเข้ารับวัคซีนโควิด-19 ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังมีอาการลิ่มเลือดอุดตัน

9 ประเทศยุโรประงับใช้วัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกา หลังพบเคสลิ่มเลือดอุดตัน

WHO ชี้ไม่มีเหตุระงับใช้วัคซีนแอสตราเซเนกา

สำนักงานยา ร่วมกับสถาบันสาธารณสุขแห่งนอร์เวย์ เปิดแถลงข่าวกรณีพบบุคลากรทางการแพทย์ 3 คน อายุต่ำกว่า 50 ปี มีอาการผิดปกติ หลังเข้ารับวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกาได้ไม่นาน โดยทั้ง 3 คน มีอาการจุดเลือดใต้ผิวหนัง ลิ่มเลือดอุดตัน และเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งทางการกำลังติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับวัคซีน ขณะที่องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) เตรียมเข้ามาร่วมสอบสวนเคสลิ่มเลือดอุดตันทั้ง 3 เคสแล้ว ส่วนบริษัทแอสตราเซเนกายังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นอร์เวย์ และอีกหลายชาติยุโรป รวมถึงไทย ได้ออกมาระงับการฉีดวัคซีนโควิดของบริษัทแอสตราเซเนกา ซึ่งมีทั้งแบบระงับบางล็อต และระงับวัคซีนทั้งหมดของบริษัท อย่างไรก็ตาม องค์การยาของอียู ซึ่งอยู่ระหว่างเปิดการสอบสวนเรื่องภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ยืนยันว่า ทุกประเทศยังสามารถใช้วัคซีนได้ต่อไป เพราะประโยชน์มีมากกว่าความเสี่ยง

ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ออกมายืนยันอีกเสียงว่า ประเทศต่างๆ ไม่จำเป็นจะต้องระงับการใช้งานวัคซีนดังกล่าว เพราะจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีพบหลักฐานที่บ่งชี้ได้ว่าภาวะลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัคซีน

ส่วนอินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานการผลิตวัคซีนให้กับบริษัทแอสตราเซเนกา เตรียมทำการวิเคราะห์ทบทวนผลข้างเคียงของวัคซีนดังกล่าวอย่างละเอียดในสัปดาห์หน้า แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่พบเคสลิ่มเลือดอุดตันในประเทศเลยก็ตาม ปัจจุบัน อินเดียแจกจ่ายวัคซีนโควิดให้ประชาชนไปแล้วกว่า 28 ล้านโดส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกา ที่ผลิตจากสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย

 

ขณะที่นายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี ของอิตาลี แถลงเตือนประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดระลอกใหม่ในประเทศ ส่งผลให้ทางการมีความจำเป็นต้องสั่งปิดร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรม เกือบทุกพื้นที่ของประเทศ ซึ่งรวมถึงกรุงโรม และเมืองมิลาน ประชาชนในพื้นที่จะต้องอยู่แต่ในบ้าน ยกเว้นเมื่อจำเป็นต้องออกไปทำงาน มีธุระจำเป็น หรือมีเหตุผลด้านสุขภาพเท่านั้น คำสั่งล็อกดาวน์รอบใหม่จะเริ่มมีผลบังคับใช้วันจันทร์นี้ ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเทศกาลอีสเตอร์ในเดือนหน้า โดยเฉพาะช่วงเทศกาลอีสเตอร์ 3 วัน คือ 3-5 เม.ย. จะมีการชัตดาวน์ ปิดเมืองแบบเต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ ในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อในอิตาลีพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ทะลุวันละ 25,000 คน ขณะที่โครงการฉีดวัคซีนในประเทศประสบปัญหาส่งมอบล่าช้า

 

ด้านออสเตรเลียเปิดการหารือกับรัฐบาลสิงคโปร์ เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการเปิดโครงการ "ทราเวล บับเบิล" อนุญาตให้พลเมืองของ 2 ประเทศ เดินทางไปมาระหว่างกันได้ โดยไม่ต้องมีมาตรการควบคุมหรือการกักตัว ภายในเดือน ก.ค.นี้

ด้านกระทรวงการต่างประเทศของสิงคโปร์ออกมายืนยันข่าวดังกล่าว พร้อมระบุว่า เนื่องจากสิงคโปร์และออสเตรเลีย สามารถควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศได้ดี อีกทั้งออสเตรเลียยังเป็นหุ้นส่วนสำคัญในภูมิภาคของสิงคโปร์ ทั้ง 2 ประเทศ จึงอยู่ระหว่างหารือรายละเอียดเรื่องการออกหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนสำหรับใช้ระหว่างกัน เพื่อเร่งเปิดการเดินทางให้กับนักศึกษาและนักธุรกิจของทั้ง 2 ประเทศ


Photo : JOEL SAGET / AFP

 

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ