วัยรุ่นที่ถ่ายคลิป “จอร์จ ฟลอยด์” เผย “ขอโทษที่ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านี้”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




วัยรุ่นที่บันทึกคลิปวิดีโอวันที่ “จอร์จ ฟลอยด์” ถูกจับกุมจนเสียชีวิต กล่าวขอโทษจอร์จ ฟลอยด์ “ที่ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านี้”

36ข่าวแห่งปี : “เหยียดผิวสี” สู่คดี “จอร์จ ฟลอยด์” จุดประกาย “Black Lives Matter” ทั่วโลก

เข่ากดคอ วิธีจับกุมสุดโหดของตำรวจสหรัฐฯ

เมื่อวานนี้ (30 มี.ค.) ดาร์เนลลา วัย 18 ปี หนึ่งในพยาน 4 คนที่เข้าให้การต่อศาลในวันที่สองของการพิจารณาคดีความผิด เดเร็ก ชอวิน นายตำรวจที่กดคอ จอร์จ ฟลอยด์ ไว้ด้วยเข่าขณะจับกุมจนเสียชีวิต กล่าวต่อศาลว่า ในวันเกิดเหตุ เธอเห็นฟลอยด์ “ร้องขอชีวิต” ขณะถูกจับกุม

เมื่อวันจันทร์ (30 มี.ค.) ที่ผ่านมา เป็นวันแรกของการเปิดการพิจารณาคดีของชอวิน อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กดเข่าบนคอของฟลอยด์เป็นเวลานานกว่า 9 นาทีขณะจับกุมตัวเขาในมินนีอาโพลิส ซึ่งอัยการระบุว่า เป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การเสียชีวิต

ทนายความฝ่ายจำเลยระบุว่า ฟลอยด์เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดต่างหาก ขณะที่ชอวินปฏิเสธข้อหาฆ่าคนตาย ส่วนเจ้าหน้าที่อีก 3 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ คือ เถา เต้า, เจ. อเล็กซานเดอร์ คูเอง และ โทมัส เค. เลน (Thomas K. Lane) จะเข้ารับการพิจารณาคดีในปีต่อไป

วัยรุ่น 4 คนที่อายุต่ำกว่า 18 ปีในขณะเกิดเหตุ เข้าให้การกับศาลในวันนี้ แต่กล้องถูกปิดเพื่อให้คณะลูกขุนมองไม่เห็นพวกเขา และพวกเขาถูกระบุด้วยชื่อเท่านั้น เพื่อเป็นการปกป้องพยาน

ดาร์เนลลาเล่าว่า ในวันเกิดเหตุ ซึ่งเธอยังมีอายุเพียง 17 ปี กำลังเดินไปที่ร้าน Cup Foods กับลูกพี่ลูกน้องวัย 9 ขวบของเธอ และเจอเหตุการณ์จับกุม จอร์จ ฟลอยด์ ที่ถนนด้านนอกร้าน

เธอบอกกับศาลว่า เธอเริ่มถ่ายคลิปด้วยโทรศัพท์เพราะ “ฉันเห็นชายคนหนึ่งกำลังหวาดกลัวร้องขอชีวิต มันไม่ถูกต้อง เขากำลังเจ็บปวด”

เธอเล่าว่า “ฉันได้ยินฟลอยด์พูดว่า ‘ผมหายใจไม่ออก’ เขากลัวมากเขากำลังเรียกหาแม่ของเขา”

ดาร์เนลลากล่าวว่า การเห็นความตายของฟลอยด์เขาทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป

“เมื่อฉันมองไปที่จอร์จ ฟลอยด์ ฉันก็มองกลับมาที่พ่อของฉัน ฉันมองไปที่พี่ชายของฉัน ลูกพี่ลูกน้องของฉัน ลุงของฉัน เพราะพวกเขาเป็นคนผิวดำทั้งหมด และมองว่าวันหนึ่งอาจเกิดเรื่องแบบนี้กับพวกเขา ... ฉันขอโทษต่อจอร์จ ฟลอยด์ ที่ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านี้” เธอกล่าวพร้อมร้องไห้

เพื่อนของเธออีก 2 คนคือ อลิสซา อายุ 18 ปีและ คาเลน อายุ 17 ปี เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ ได้ขับรถมาที่ร้านและเจอกับการจับกุม ทั้งคู่อธิบายว่า รู้สึกหมดหนทางขณะดูช่วงเวลาสุดท้ายของฟลอยด์ จนกระทั่ง “เขานอนแน่นิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่ต่อสู้หรือขัดขืนอีกต่อไป”

พยานคนสุดท้ายของเมื่อวานคือ เจเนวีฟ ฮานเซน นักดับเพลิง กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ห้ามไม่ให้เธอให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์เบื้องต้นแก่ฟลอยด์

คดีนี้ยังไม่มีคำตัดสินสุดท้ายออกมาซึ่งยังคงต้องติดตามกันต่อไป แต่คำตัดสินของคดีนี้จะเป็นสัญลักษณ์ที่บอกต่อทั้งโลกว่า ระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ปฏิบัติต่อคดีการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นในขณะตำรวจเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยอย่างไร

 

เรียบเรียงจาก BBC

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ