เมียนมา หยุดยิง 1 เดือนกับกลุ่มชาติพันธุ์
ก่อนหน้านั้น สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ( เคเอ็นยู ) ซึ่งเป็นกองกำลังชาติพันธุ์เก่าแก่ที่สุด และมีฐานที่มั่นอยู่ทางตะวันออก กองทัพเอกราชกะฉิ่น ( เคไอเอ ) ซึ่งมีเขตอิทธิพลอยู่ทางเหนือ กองทัพอาระกัน ( เอเอ ) ซึ่งเป็นกองกำลังชาวพุทธในรัฐยะไข่ ที่อยู่ทางตะวันตก และสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉานของเจ้ายอดศึก แสดงออกชัดเจน ว่าไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารในกรุงเนปิดอว์
ช่วงหลายวันที่ผ่านมา หลายพื้นที่ของกลุ่มชาติพันธุ์ตกเป็นเป้าของการโจมตีโดยกองทัพเมียนมา จุดเริ่มต้นจากวันเสาร์ที่ผ่านมา หมู่บ้านของชาวกะเหรี่ยงในกองพลน้อย KNU ที่ 5 ถูกโจมตีทางอากาศ ส่งผลให้เกิดคลื่นผู้อพยพจำนวนมาก บ้างหนีเข้าป่า บ้างหนีมายังชายแดนไทย
นับตั้งแต่วันเสาร์เรื่อยมาจนวันนี้ การโจมตียังคงเกิดขึ้น และขยายไปยังหลายพื้นที่ของชาวกะเหรี่ยง รายงานล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ที่เหมืองทอง ในเขตกองพลน้อย KNU ที่ 3 ใกล้ชายแดนไทย
เสียงตะโกนร้อง ด้วยความตื่นตระหนก ตื่นกลัวของคนงาน ดังไปทั่วเหมืองและบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความโกลาหล เมื่อคนที่รอดได้เห็นภาพเพื่อนคนงานเหมืองด้วยกัน ร่างฉีกกระจัดกระจายอยู่ตรงหน้าด้วยแรงระเบิดที่ทหารเมียนมา นำเครื่องบินมาทิ้งระเบิดใส่เหมืองทอง ในหมู่บ้านแม่วาย จ.ผาปูน ตรงข้าม จ.แม่ฮ่องสอน และแนวต่อด้านจังหวัดตาก
ศักยภาพ “กองทัพเมียนมา” ติดอันดับ 38 จาก 139 ประเทศ
ทำให้คนงานในเหมืองทองเสียชีวิตทันที 6 ราย โดยเหตุการณ์นี้เกิดเมื่อวันอังคาร(30 มีนาคม)ที่ผ่านมา ขณะที่คนงานกำลังทำงาน กันอยู่ในเหมือง
นับเป็นการปฏิบัติรอบที่ 2 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ทิ้งระเบิดใส่ ค่ายเคเอ็นยู กองพัน 201 กองพลที่ 3 จ.ผาปูน และหมู่บ้านแม่ปะหว้า เขต อ.บีลีน มีชาวบ้านเสียชีวิต 6 ราย รวม 2 ครั้ง จำนวน 12 คน
เจ้าหน้าที่เคเอ็นยูให้ข้อมูลว่า การปฏิบัติการทางทหารของเมียนมา เพื่อกดดันให้ทหารเคเอ็นยูเปิดทางให้ฝ่ายเมียนมาสามารถไปส่งเสบียงอาหารให้กับทหารเมียนมาที่ริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน เพราะกำลังเดือดร้อนจากการขาดแคลนเสบียงอาหาร ขณะที่ราษฎรชาวกะเหรี่ยงได้หนีออกห่างฐานที่มั่นเคเอ็นยูไปอาศัยอยู่ในป่า และในหมู่บ้านอื่นๆ ที่ห่างจากค่ายทหาร เพราะความหวาดกลัว
จับตา! กองกำลังชาติพันธุ์เมียนมา หลัง CRPH ปลดล็อก ยิงสู้กองทัพได้
บรรยากาศการสู้รบยังคงมี ต่อเรื่อง โดยเมื่อวานนี้ ขณะที่กองทัพไทยส่งกลับผู้ลี้ภัยจากทั้งอ.แม่สะเรียง และอ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอนไปกว่า 600 คน จำนวนมากเป็นผู้หญิงและเด็กนักเรียน ยังมีการโจมตีทางอากาศที่บ้านเดปู่โน่ และพื้นที่เกือบทั้งหมด ของหมู่บ้าน อยู่ในระยะของกระสุนปืนใหญ่ที่สามารถยิงมาจากฐานทัพพม่าที่กระจัดกระจายทั่วจังหวัดกว่า 70 ฐาน
มีรายงานด้วยว่า เมื่อเวลาราวตีสองและตีสี่ ที่ผ่านมา การโจมตีทางอากาศก็ยังคงดำเนินต่อเนื่องที่เขตดเว่โล ด้านใต้ของบ้านเดปู่โน่ และบ่ายวันนี้ ยังมีการส่งเครื่องบินและโดรนสำรวจเหนือบ้านเดปู่โน่และตำบลเดว่โลอยู่ตลอดเวลา
ด้าน จ. เชียงราย กองทัพรัฐฉานก็มีความเคลื่อนไหว หลังจากที่ คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นฝ่ายเมียนมา มีหนังสือถึงประธานคณะกรรมการฯฝ่ายไทย ว่าจะเข้าโจมตีกองกำลัง SSA ที่มีฐานอยู่ตามแนวชายแดน เช่น ฐานดอยก่อวัน ตรงข้ามอำเภอแม่ฟฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ฐานดอยสันจุ๊ ตรงกันข้ามอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ฐานดอยไตแลง ตรงกันข้ามอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่ได้กำชับว่าไม่ให้มีกระสุนตกรุกล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทยนั้น
ในส่วนของกองทัพรัฐฉาน ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหว โดยผู้นำกองทัพรัฐฉานได้มีการระดมกำลังเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบ โดยสังเกตุว่า ตามฐานปฏิบัติการต่างๆ ตลอดแนวชายแดนตรงข้ามกับพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน เช่น ดอยก่อเมืองและดอยก่อวันตรงข้ามบ้านแม่หม้อ อ.แม่ฟ้าหลวงจ.เชียงราย มีการเคลื่อนย้ายกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์ออกสู่แนวรบ เพื่อป้องกันและรักษาฐานที่มั่น โดยมีคำยืนยันจากผู้นำกองทัพรัฐฉานว่า สามารถต่อสู้กับทหารเมียนมาได้อย่างแน่นอน
ชาติพันธุ์กระเหรี่ยง ต่อสู้เพื่อความฝัน “รัฐกะเหรี่ยง”
อีกหนึ่งกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีความเคลื่อนไหวล่าสุด คือ กองกำลังคะฉิ่น กองกำลังนี้มีอาณาเขตทางตอนเหนือของประเทศ กระจายกันอยู่ในรัฐคะฉิ่น ต่างจากกะเหรี่ยงที่มีชายแดนติดกับไทย กองกำลังคะฉิ่นมีชายแดนติดกับจีน โดยล่าสุดมีรายงานว่า เมื่อวานนี้ทหารของคะฉิ่นได้บุกโจมตีฐานทัพของทหารเมียนมาในเมืองผะก่าน
ส่วนในวันเดียวกัน สำนักข่าวอิรวดียังรายงานอีกว่า ทหารคะฉิ่นได้บุกโจมตีสถานีตำรวจของเมืองชเวกู ที่ตั้งอยู่ในรัฐคะฉิ่นเช่นกัน ซึ่งทางกองกำลังคะฉิ่น หรือที่เรียกย่อว่า KIA ให้เหตุผลว่า ตำรวจที่นี่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารผู้ประท้วงที่ออกมตามเมืองใหญ่
ด้านความเสียหายยังไม่ชัดเจน มากกว่านั้นยังมีรายงานว่ามีตำรวจราว 40 คนในรัฐที่กลับใจมายืนฝั่งเดียวกับผู้ประท้วง รวมถึงเข้าร่วมกับกองกำลังชาติพันธุ์คะฉิ่นด้วย
