เดนมาร์กระงับใช้วัคซีนโควิด-19 “แอสตราเซเนกา” เป็นการถาวร


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เดนมาร์กสั่งระงับใช้งานวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาถาวร พบความเสี่ยงเกิดลิ่มเลือดอุดตันสูงกว่าที่คาด

สรุปประเด็น “วัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกา” กับ “ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน”

ฮ่องกงระงับการสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 “แอสตราเซเนกา”

อียู ยันวัคซีนโควิด “แอสตราเซเนกา” มีผลดีมากกว่าเสีย แม้พบลิ่มเลือดอุดตัน 86 ราย

ซอเรน บรอสตรอม ผู้อำนวยการหน่วยงานด้านสุขภาพของเดนมาร์ก แถลงว่า หลังจากนี้ เดนมาร์กจะไม่ใช้วัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาอีกต่อไป ซึ่งวัคซีนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนสร้างภูมิคุ้มกันต้านไวรัสโควิด-19 ของเดนมาร์ก

เดนมาร์กตัดสินใจเลิกใช้วัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาเนื่องจากผลข้างเคียงภาวะเลือดแข็งตัวที่หายากแต่ร้ายแรง การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นแม้จะมีคำแนะนำที่ชัดเจนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และสำนักงานยายุโรป (EMA) ให้ฉีดวัคซีนดังกล่าวต่อไป เพราะประโยชน์ที่ได้รับนั้นมีมากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

“แผนฉีดวัคซีนโควิด-19 ของเดนมาร์กจะดำเนินต่อไปโดยไม่ต้องฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา” บรอสตรอมกล่าว อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจนี้คาดว่าจะทำให้อัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของเดนมาร์กล่าช้าลงพอสมควร

เดนมาร์กกล่าวว่าวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาทั้งหมด 2.4 ล้านโดสจะถูกนำออกจากแผนดำเนินการฉีดวัคซีนจนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป

หน่วยงานด้านสุขภาพของเดนมาร์กกล่าวว่า การศึกษาแสดงให้เห็นโอกาสของการเกิดลิ่มเลือดสูงกว่าที่คาดไว้ โดยมีความเสี่ยงอยู่ที่ประมาณ 1 ใน 40,000 คน

เอเอฟพีรายงานว่า มีผู้ป่วยภาวะลิ่มเลือดอุดตัน 2 รายในเดนมาร์กเชื่อมโยงกับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา หนึ่งในนั้นเป็นหญิงอายุ 60 ปี ซึ่งได้รับอันตรายจนถึงแก่ชีวิต

บรอสตรอมกล่าวว่า นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่เดนมาร์กมีวัคซีนอื่น ๆ ให้บริการ และการแพร่ระบาดอยู่ภายใต้การควบคุม กระนั้นเขาระบุว่า ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ที่จะนำวัคซีนแอสตราเซเนกากลับมาใช้ หากมีเวลาและโอกาสที่เหมาะสมก็อาจนำกลับมาใช้อีก

ปัจจุบันเดนมาร์กมีประชากรได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้วราว 1 ล้านคน ในจำนวนนี้มี 150,000 คนได้รับวัคซีนของแอสตราเซเนกา ที่เหลือรับวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์และโมเดอร์นา

ภายหลังการตัดสินใจของเดนมาร์ก หลายประเทศใกล้เคียงก็ออกมาแสดงท่าทีแตกต่างกันออกไป

ฝรั่งเศสมองว่า วัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาเป็นตัวช่วยที่จำเป็นและจะยังคงใช้ต่อไปแบบมีข้อจำกัดทางอายุ ด้านประเทศเพื่อนบ้านอย่างฟินแลนด์ประกาศว่า จะยังคงฉีดวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาต่อไป แต่จำกัดอายุผู้เข้ารับไว้ที่ 65 ปีขึ้นไป โดยเสริมว่า มีความเป็นไปได้ที่จะให้วัคซีนโดสที่สองเป็นวัคซีนของเจ้าอื่น

ขณะที่ ยาน ฮามาเซ็ก นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเช็กบอกว่า จะติดต่อขอซื้อวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาของเดนมาร์กที่เหลือทั้ง 2.4 ล้านโดสเพื่อมาใช้ภายในประเทศ

นอกจากแอสตราเซเนกาแล้ว วัคซีนโควิด-19 จอห์นสันแอนด์จอห์นสันเองก็พบผู้เข้ารับวัคซีนเกิดผลข้างเคียงมีภาวะเลือดแข็งตัวเช่นกัน โดยเกิดขึ้น 6 รายในสหรัฐฯ ซึ่งสั่งระงับการฉีดทันทีเพื่อทำการศึกษาเพิ่มเติม ทั้งนี้วัคซีนโควิด-19 ของทั้งสองบริษัทเป็นวัคซีนชนิดอะดีโนไวรัสเวกเตอร์ แต่ยังไม่มีการศึกษาอธิบายว่า ชนิดของวัคซีนสัมพันธ์กับการเกิดภาวะเลือดแข็งตัวหรือไม่

 

เรียบเรียงจาก BBC / The Guardian

ภาพจาก AFP

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ