ไบเดนสั่งถอนกำลังทหารในอัฟกานิสถาน หวังยุติสงครามที่ยาวนาน 20 ปี


โดย PPTV Online

เผยแพร่




โจ ไบเดน และพันธมิตร สั่งถอนกำลังทหาร “ทั้งหมด” รวมเกือบ 10,000 นายออกจากอัฟกานิสถาน หวังยุติสงครามที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2001

ครั้งแรก! อัฟกานิสถาน - ตาลีบัน เปิดฉากเจรจาสันติภาพ

“กลุ่มตาลีบัน” กร้าวกลับมาโจมตีกองกำลังรัฐบาลอัฟกันฯ อีก

สหรัฐฯ-ตาลีบัน ลงนามสันติภาพครั้งประวัติศาสตร์

เมื่อวันพุธ (14 เม.ย.) ประธานาธิบดี โจ ไบเดน กล่าวว่า เขาจะสั่งถอนกำลังทหารสหรัฐฯ ทั้งหมดออกจากพื้นที่ “สงครามที่ไม่มีวันจบ” ในอัฟกานิสถาน โดยบอกว่า กองกำลังอเมริกันยังคงเสียชีวิตในสงครามที่ยาวนานที่สุดของประเทศ

แผนของเขาคือ ถอนกองกำลังอเมริกันทั้งหมดซึ่งมีจำนวนประมาณ 2,500 คนออกจากพื้นที่สงครามภายในวันที่ 11 ก.ย. นี้ ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 20 ปีโศกนาฏกรรม “9/11” ที่ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ การโจมตีโดยกลุ่มอัลกออิดะห์ ซึ่งขณะนั้นเชื่อกันว่าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลตาลีบัน

ไม่นานหลังการประกาศของไบเดน เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก หัวหน้าองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO ออกมากล่าวว่า พันธมิตรได้ตกลงที่จะถอนกองกำลังประมาณ 7,000 นายออกจากอัฟกานิสถานเช่นกัน โดยจะเริ่มถอนกำลังภายในวันที่ 1 พ.ค.

ไบเดนกล่าวว่า สหรัฐฯ ไม่สามารถเททรัพยากรไปกับสงครามได้อีกต่อไป และคาดหวังผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไป

การกำลังถอนจะเริ่มขึ้นภายในวันที่ 1 พฤษภาคมซึ่งเป็นเส้นตายสำหรับการถอนตัวเต็มรูปแบบภายใต้ข้อตกลงสันติภาพที่ฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้บรรลุกับกลุ่มตาลีบันเมื่อปีที่แล้ว เมื่อเดือน มี.ค. 2020 ซึ่งสหรัฐฯ ลงนามร่วมกับกลุ่มตาลีบัน ยินยอมถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานภายใน 14 เดือน

“มันถึงเวลายุติสงครามที่ยาวนานที่สุดของอเมริกาแล้ว” ไบเดนกล่าวจากห้องสนธิสัญญาทำเนียบขาว ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ประกาศเริ่มสงครามเมื่อปี 2001

“ตอนนี้ผมเป็นประธานาธิบดีคนที่ 4 ของสหรัฐอเมริกาที่เป็นประธานในการดำเนินงานของกองทหารอเมริกันในอัฟกานิสถาน รีพับลิกันสองคน เดโมแครตสองคน ผมจะไม่ส่งต่อความรับผิดชอบนี้ให้กับประธานาธิบดีคนที่ห้า” ไบเดนเสริม

การประกาศของไบเดนอาจเป็นการตัดสินใจด้านนโยบายต่างประเทศที่สำคัญที่สุดในช่วงแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา

ในสมัยที่เขาเป็นรองประธานาธิบดีของ บารัค โอบามา ไบเดนแทบจะเป็นเสียงเดียวในฝ่ายบริหารที่แนะนำให้ลดความรุนแรงในการต่อต้านการก่อการร้าย ในขณะที่ที่ปรึกษาทางทหารกำลังเรียกร้องให้มีการสร้างกองกำลังเพิ่มขึ้นเพื่อต่อต้านกลุ่มตาลีบัน

การถอนกำลังทหารสหรัฐฯ ทั้งหมดจากอัฟกานิสถานมาพร้อมกับความเสี่ยงที่ชัดเจน มันสามารถกระตุ้นความพยายามของตาลีบันในการยึดอำนาจกลับคืนมา และยกเลิกการได้รับประชาธิปไตยและสิทธิสตรีในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา

ที่ผ่านมา สงครามซึ่งยาวนานเกือบ 20 ปีนี้ได้คร่าชีวิตทหารสหรัฐฯ ไปมากกว่า 2,300 นาย ได้รับบาดเจ็บ 20,000 นาย และมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 31 ล้านล้านบาท)

ทำเนียบขาวระบุว่า ก่อนการประกาศนี้ ไบเดนได้พูดคุยกับประธานาธิบดี อัชราฟ กานี ของอัฟกานิสถาน โดยในการพูดคุยไบเดนบอกว่า สหรัฐฯ จะยังคงให้การสนับสนุนชาวอัฟกานิสถานผ่านความช่วยเหลือด้านการพัฒนาประเทศ ด้านมนุษยธรรม และด้านความมั่นคง

“สาธารณรัฐอิสลามอัฟกานิสถานเคารพการตัดสินใจของสหรัฐฯ และเราจะทำงานร่วมกับพันธมิตรในสหรัฐฯ เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่น” กานีกล่าวผ่านทวิตเตอร์

ไบเดนยังได้พูดคุยกับอดีตประธานาธิบดีบุช ประเทศพันธมิตร ผู้นำทางทหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส เพื่อช่วยในการตัดสินใจครั้งนี้

ไบเดนย้ำว่าฝ่ายบริหารของเขาจะยังคงสนับสนุนการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลอัฟกานิสถานและกลุ่มตาลีบัน และช่วยเหลือความพยายามของนานาชาติในการฝึกทหารอัฟกานิสถาน

อย่างไรก็ตาม ประชาชนชาวอัฟกานิสถานบางส่วนไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ เพราะปัจจุบัน ตาลีบันยังคงปฏิบัติการความรุนแรงในอัฟกานิสถานและปากีสถานตะวันออกเฉียงเหนือ

บาซิเรห์ เฮย์ดารี นักศึกษามหาวิทยาลัยเฮรัตกล่าวว่า “กองทัพอเมริกันกำลังจะจากไป เรามีวันที่เลวร้ายจากกลุ่มตาลีบันรออยู่ข้างหน้า ฉันกังวลว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยให้ฉันได้ออกจากบ้าน หรือได้ออกมาเรียนหนังสือ”

ชาวอัฟกานิสถานกลัวว่า การต่อสู้ระหว่างรัฐบาลอัฟกานิสถานและกลุ่มตาลีบัน ซึ่งถูกขับไล่โดยการแทรกแซงจากสหรัฐฯ เมื่อสองทศวรรษก่อน จะทวีความรุนแรงขึ้น

การกลับไปสู่การปกครองแบบอิสลามสุดโต่งของตาลีบันอาจหมายถึงการย้อนกลับของความสำเร็จในบางด้าน เช่น การยกเลิกคำสั่งของตาลีบันที่ห้ามสตรีได้รับการศึกษา

“ฉันมีความปรารถนาเพียงอย่างเดียว นั่นคือการเรียนให้จบและได้ทำงาน แต่เมื่อกลุ่มตาลีบันกำลังจะกลับมา ฉันก็ไม่คิดว่านั่นจะเป็นไปได้” เธอกล่าว

อตีฟา อลิซาเดห์ นักข่าวชาวอัฟกานิสถานกล่าวว่า ประชาชนบางส่วนในพื้นที่ที่ตาลีบันควบคุมบอกว่า การรักษาความปลอดภัยที่เริ่มแย่ลงได้นำไปสู่การลดทอนเสรีภาพของพวกเขาแล้ว “สำนักข่าวของฉันเริ่มจำกัดการเคลื่อนไหวของเพื่อนร่วมงาน เนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัย และพ่อของฉันเพิ่งขอให้ฉันหยุดงานสักระยะหนึ่ง”

ยังไม่มีใครทราบได้ว่า นโยบายถอนกำลังทหารสหรัฐฯ จากอัฟกานิสถานของไบเดน (ซึ่งดำเนินงานต่อมาจากทรัมป์) ครั้งนี้จะส่งผลอย่างไร แต่ไบเดนก็เน้นย้ำว่า “ผมรู้ว่ามีหลายคนที่จะยืนกรานว่า การทูตไม่สามารถประสบความสำเร็จได้หากไม่มีกองทัพสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง เราทะเลาะกันมาสิบปีแล้ว มันไม่เคยพิสูจน์ได้ว่าได้ผล แม้แต่ตอนที่เรามีทหาร 98,000 นายในอัฟกานิสถาน หรือตอนนี้ที่เราเหลือทหารเพียงไม่กี่พันนายประจำการอยู่ที่นั่น การทูตของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้ความรุนแรง เราต้องเปลี่ยนความคิดนั้น”

เรียบเรียงจาก AP / CNN / The Guardian

ภาพจาก AFP

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ