วิกฤตซ้ำอินเดีย ไฟไหม้ ICU คร่าผู้ป่วยโควิด 13 ศพ
อินเดียวิกฤตหนักยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง 3.4 แสนรายต่อวัน
โฆษกของบริษัททวิตเตอร์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดนิยม ระบุว่า รัฐบาลอินเดียได้ส่งคำร้องทางกฎหมาย เพื่อขอความร่วมมือให้บริษัทลบทวีตจำนวนหนึ่งที่มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การรับมือโควิดของทางการ โดยอ้างอิงกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ ปี 2000
โดยในจำนวน 21 ข้อความที่ถูกสั่งลบ มีข้อความของสมาชิกสภานิติบัญญัติ เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่น และเหล่าคนดังรวมอยู่ด้วย ซึ่งบริษัททวิตเตอร์ก็เริ่มดำเนินการตามคำขอแล้ว โดยทำการจำกัดการเข้าถึงของผู้ใช้งานในอินเดีย แต่ไม่ได้ลบออกจากแพลตฟอร์มเป็นการถาวร เนื่องจากไม่เข้าเกณฑ์ละเมิดนโยบายของทวิตเตอร์
เบื้องต้น ทางทวิตเตอร์ได้แจ้งเจ้าของบัญชีโดยตรง เพื่อชี้แจงสาเหตุที่ต้องระงับเนื้อหาของผู้ใช้งานเหล่านี้แล้ว
ความเคลื่อนไหวของทางการอินเดียมีขึ้น ท่ามกลางวิกฤตโควิดระลอก 2 ที่ถาโถมจนคุมไม่อยู่ จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 340,000 คน ทุบสถิติโลกเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่ระบบสาธารณสุขส่อเค้าล่มสลาย เนื่องจากผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล จนต้องจำใจปฏิเสธคนไข้ นอกจากนี้ ยังมีปัญหาขาดแคลนออกซิเจน ทำให้บรรดาผู้ป่วยและญาติๆ รวมถึงโรงพยาบาลท้องถิ่น แห่ร้องขอความช่วยเหลือผ่านโซเชียลมีเดีย
ขณะที่โรงงานออกซิเจนหลายแห่งเร่งเพิ่มกำลังการผลิตออกซิเจนทางการแพทย์ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ และล่าสุด มีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังหารือกับรัฐบาลอินเดีย เพื่อเตรียมจัดส่งความช่วยเหลือ อาทิ บุคลากรทางการแพทย์ และวัตถุดิบจำเป็นในการผลิตวัคซีนให้ เช่นเดียวกับทางการจีน ที่ระบุว่าพร้อมให้ความช่วยเหลือรัฐบาลอินเดียในการรับมือกับการระบาดรุนแรงครั้งนี้
ส่วนความคืบหน้าเรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ล่าสุด มีรายงานว่าทั่วโลกแจกจ่ายวัคซีนได้เกิน 1 พันล้านโดสแล้ว โดยกระจายอยู่ใน 207 ประเทศและเขตการปกครอง ภายในเวลาไม่ถึง 5 เดือน
เฉพาะในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จำนวนการฉีดวัคซีนทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า แต่ยังคงมีปัญหาเรื่องความไม่เท่าเทียมในการกระจายวัคซีน โดยวัคซีนที่แจกจ่ายไปแล้วเกือบครึ่งหนึ่ง อยู่ในประเทศรายได้สูง ที่มีประชากรคิดเป็นเพียง 16% ของประชากรโลก และส่วนใหญ่กระจุกอยู่ใน 3 ประเทศ คือ สหรัฐฯ จีน และอินเดีย ส่วนจำนวนวัคซีนที่แจกจ่ายให้ประเทศยากจน ผ่านโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลก คิดเป็นเพียง 0.2% ของโลกเท่านั้น
หากพิจารณาตามการใช้งานวัคซีนแต่ละชนิด จะพบว่า วัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกา มีการใช้งานในวงกว้างที่สุด แม้จะมีข้อกังขาเรื่องลิ่มเลือดอุดตัน โดยขณะนี้ วัคซีนดังกล่าวถูกแจกจ่ายใน 156 ประเทศ จากทั้งหมด 207 ประเทศทั่วโลก ตามด้วยวัคซีนของไฟเซอร์ ไบโอเอ็นเทค แจกจ่ายใน 91 ประเทศทั่วโลก ตามด้วยวัคซีนของโมเดอร์นา, ซิโนฟาร์ม, สปุตนิก, และซิโนแวค ตามลำดับ