ความหวังใหม่! “ไฟเซอร์” พัฒนายาเม็ดรักษาโควิด-19 โดยเฉพาะ
จีนส่งวัคซีนโควิด-19 ให้ลาว ฟรี 3 ครั้ง รวม 1.4 ล้านโดส
การปะทะกันเกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.40 น.ของเช้าที่ผ่านมา ทหารกะเหรี่ยง KNU ได้บุกเข้าโจมตีฐานที่มั่นทหารพม่าซอแลท่า ซึ่งเป็น 1 ใน 14 ฐาน ของทหารพม่า ที่อยู่ริมแม่น้ำสาละวิน ฝั่งตรงกันข้ามกับหมู่บ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน
ชาวบ้านฝั่งไทย เปิดเผยว่าได้ยินเสียงปืนใหญ่ ปืนกลเล็ก และเสียงระเบิดของการสู้รบกันอย่างต่อเนื่องราว 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นได้เกิดไฟไหม้ขึ้นที่ฐานทหารพม่าหลายจุด
กองทัพเมียนมา ทิ้งระเบิด เหมืองทอง KNU ชาวบ้านเสียชีวิต 6 คน
มีรายงานเบื้องต้นว่าทหารกะเหรี่ยงบาดเจ็บ 2 นาย แต่สามารถยึดฐานพม่าได้ การสู้รบส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในฝั่งไทย เนื่องจากฐานทหารพม่าซอแลท่า อยู่บนดอยสูงกว่าบ้านแม่สามแลบ
สำนักข่าวชายขอบ รายงานว่าชาวบ้านแม่สามแลบประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ผู้หญิง และคนแก่ ได้อพยพออกจากพื้นที่มาอยู่ที่โรงเรียนบ้านห้วยกองก้าด ที่อยู่ห่างราว 7 กิโลเมตร อีกจุดหนึ่งที่มีรายงานการปะทะกันคือบริเวณฐานพม่า ดา-กวิน ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง อ.แม่สะเรียง โดยขณะนี้ชาวบ้านและเด็กได้รวมกันอยู่ที่โรงเรียนบ้านท่าตาฝั่ง
มีรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 12.10 น. มีเครื่องบินทิ้งระเบิดลงหมู่บ้านของชาวบ้านในรัฐกะเหรี่ยง บ้านบวาเดอ เขตกองพล 5 ไม่ห่างจากพรมแดนไทยพม่าบริเวณบ้านแม่สามแลบมากนัก
ช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ออกมาแถลงว่า มีพลเรือนในพื้นที่บ้านแม่สามแลบได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนเล็ก 1 ราย โดยกระสุนฝังเหนือหัวเข่าด้านซ้าย ล่าสุดได้รับการผ่าตัดเอากระสุนออกเรียบร้อยแล้ว ส่วนชาวบ้านประมาณ 450 คนได้อพยพ ไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย
โดยได้สั่งการให้งดการเดินเรือในแม่น้ำสาละวินตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปกรณีที่มีผู้หนีภัยยการรสู้รบข้ามมายังฝั่งไทย จะดำเนินการให้พักรอ ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของทหารบริเวณชายแดน โดยมีการคัดกรองโควิด19 ตามมาตรการควบคุมโรคของสาธารณสุข และในกรณีที่เหตุการณ์รุนแรงหรือยืดเยื้อ ทางจังหวัดมีแผนเคลื่อนย้ายผู้หนีภัยสงคราม เข้าไปพักรอในพื้นที่พักรอห่างจากชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร
รู้จักกะเหรี่ยง KNLA กองพลน้อยที่ 5 เปิดศึกกองทัพเมียนมา ต้านรัฐประหาร
เหตุโจมตีฐานทัพเมียนมาแห่งนี้ เกิดขึ้น หลังจากมีรายงานว่า ทหารเมียนมายิงเรือไทยที่แล่นในแม่น้ำสาละวิน รวมทั้งเรือของเจ้าหน้าที่ ตชด.ร้อย.337 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยต้องนำเรือไปรับทหารเมียนมาเพื่อหารือและได้ข้อสรุปว่า เรือของราษฎรทุกคันในบ้านแม่สามแลบ สามารถวิ่งได้และเมียนมาจะไม่ยิงเรือชาวบ้านอีกต่อไป แต่มีข้อแม้ว่าต้องส่งเสบียงให้ทหารเมียนมา ตามที่ทหารเมียนมาต้องการ
หลายฝ่ายจับตาเหตุโจมตีครั้งนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันหลังอาเซียนจัดการประชุมระดับผู้นำชาติสมาชิกเพื่อหารือสถานการณ์ในเมียนมาโดยเฉพาะ จนออกมาเป็นมติ 5 ข้อ เรียกร้องให้เมียนมายุติการใช้ความรุนแรง และเสนอเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยและหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง