“โจ ไบเดน” ทำตามสัญญา ฉีดวัคซีนโควิดครบ 200 ล้านโดส ใน 100 วัน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




สหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นปีเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงถึงวันละสองแสนราย แต่ขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้นมากจนชาวอเมริกันที่ฉีดวัคซีนครบได้รับการยกเว้นให้ไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ส่วนสำคัญของชัยชนะเหนือโควิดมาจากความมุ่งมั่นของผู้นำ โจ ไบเดน เคยให้สัญญาว่าจะฉีดวัคซีนให้ได้ 200 ล้านโดสในช่วง 100 วันแรกที่ดำรงตำแหน่ง ซึ่งสามารถทำได้จริง ทั้งยังทำได้ก่อนถึงเส้นตายที่ตั้งให้ตัวเอง นี่คือผลงานที่โดดเด่นที่สุดของผู้นำคนใหม่

“โจ ไบเดน” ตั้งเป้า ฉีดวัคซีนโควิด-19 ชาวอเมริกัน 100 ล้านคน ช่วง 100 วันแรกที่เข้าทำงาน

“สิงคโปร์” ครองแชมป์โลก ประเทศน่าอยู่ช่วงโควิดระบาด “ไทย” หล่นอันดับ 13

21 เมษายน ที่ผ่านมา โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศชัยชนะ หลังโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ชาวอเมริกัน โดยมียอดผู้ได้รับวัคซีนสูงถึง 200 ล้านโดส เรียกได้ว่าเป็นการประสบความสำเร็จล่วงหน้าถึง 1 สัปดาห์ เพราะในตอนแรก ไบเดน เคยระบุว่า ตัวเขาจะผลักดันให้สหรัฐอเมริกา ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ได้ 200 ล้านโดส ในช่วง 100 วันแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

วันที่ 29 เมษายนที่จะถึงนี้ถือเป็นวันที่ 100 ของการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ และตลอด 100 วันที่ผ่านมา ไบเดนพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า โควิด-19 ควบคุมได้  แม้สหรัฐฯ จะยังคงเป็นประเทศอันดับหนึ่งที่มียอดผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดในโลก แต่หากย้อนกลับไปในสมัยของโดนัลด์ ทรัมป์ ในตอนนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่สูงกว่านี้

โดยในช่วงเดือนสุดท้ายของทรัมป์ ยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันทะยานขึ้นถึงวันละสองแสนราย ทรัมป์ ไม่เชื่อหมอพยาบาล ทั้งยังเผยแพร่แนวคิดว่าโควิดไม่อันตรายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ชาวอเมริกันแตกเป็นสองฝั่ง คือฝั่งที่เชื่อและไม่เชื่อในโควิด  การ์ดที่ตก ประกอบกับการมาถึงของไวรัสกลายพันธุ์ และความล่าช้าของการฉีดวัคซีน เหล่านี้คือปัจจัย

เมื่อไบเดนขึ้นสู่ตำแหน่ง ผู้นำคนใหม่เริ่มมาตรการควบคุมเข้มงวดทันที เพื่อยับยั้งเชื้อ  ประชาชนถูกบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ รวมถึงในระบบขนส่งมวลชน ศูนย์ฉีดวัคซีนจำนวนมากถูกจัดตั้งขึ้น พร้อม ๆ กับศูนย์ตรวจที่ผุดขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็เร่งแก้ปัญหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ขาดแคลน  ซึ่งทั้งหมดนี้ทีมงานของไบเดนเคยระบุว่า แผนงานเหล่านี้ไม่มีสิ่งใดที่สานต่อมาจากนโยบายของทรัมป์ เพราะอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 45 ไม่ได้ทิ้งสิ่งใดไว้ให้

กระนั้นการตั้งไข่แก้ปัญหาโควิด-19 ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับไบเดน และหลายฝ่ายเชื่อว่าที่สหรัฐฯ ก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ส่วนหนึ่งเพราะความเชื่อพื้นฐานของไบเดนเองที่ตั้งอยู่บนหลักวิทยาศาสตร์ ไม่เหมือนกับทรัมป์ ความเชื่อนี้ยังสะท้อนผ่านนโยบายอื่นๆ ที่ไบเดนเข้ามาสะสางในช่วงแรกหลังดำรงตำแหน่ง อย่างการพาสหรัฐฯ กลับเข้าสู่ข้อตกลงปารีสและสมาชิกองค์การอนามัยโลก.

 

ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันลดลงเรื่อยๆ จำนวนชาวอเมริกันที่ได้รับวัคซีนก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน  เพียง 58 วันหลังดำรงตำแหน่ง สหรัฐฯ ก็บรรลุเป้าหมายฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดส เป้าหมายใหม่จึงสูงขึ้นเป็น 200 ล้านโดส ส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่เกิดขึ้น นักวิเคราะห์มองว่าเพราะไบเดนไม่ได้สัญญาเกินตัว

ข้อมูลจาก CDC ปัจจุบันสหรัฐฯ ฉีดวัคซีนไปแล้ว 229 ล้านโดส ในจำนวนนี้แบ่งเป็นได้รับแล้วโดสเดียวราว 139 ล้านคน หรือเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรสหรัฐฯ ส่วนคนที่ได้รับครบสองโดสแล้วมีราว 94 ล้านคน

ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ในฐานะกลุ่มเสี่ยงที่ต้องได้รับวัคซีนก่อน โดยผู้สูงวัยคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 80 และร้อยละ 68 ของผู้ที่ได้รับวัคซีนหนึ่งโดสและสองโดสตามลำดับ

เมื่อกลุ่มเสี่ยงได้รับวัคซีนมากพอจนวางใจได้ กลางเดือนเมษายนไบเดนก็เปิดให้ชาวอเมริกันทุกคนเข้ารับวัคซีน

อย่างไรก็ตามสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ เมื่อจำนวนผู้เข้ารับวัคซีนมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ รายงานจาก CDC ระบุว่า จำนวนผู้ได้รับวัคซีนในสัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่ 3 ล้านโดสต่อวัน น้อยกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าที่เดิมมีราว 3.35 ล้านโดสต่อวัน ที่ช้าลงไม่ใช่เพราะขาดแคลน หากเป็นเพราะกลุ่มที่ยังเหลืออยู่คือกลุ่มประชากรที่ยังคงลังเลในการเข้ารับวัคซีน ด้วยอัตรานี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านคาดกันว่าในเดือนพฤษภาคมที่จะถึง สหรัฐฯจะเผชิญปัญหาวัคซีนล้นเกินความต้องการ

 

ล่าสุดไบเดน เตรียมแก้ปัญหานี้ด้วยการเชิญชวนให้ชาวอเมริกันที่เหลืออกมาฉีดวัคซีน แลกกับการลดหย่อนภาษีในภาคธุรกิจ รวมถึงมีเงินชดเชยให้พนักงานห้างร้านต่าง ๆ สามารถลาหยุดได้ หากต้องการเข้ารับวัคซีน ในขณะที่หลายประเทศกำลังไล่แก้ปัญหาโควิดระลอกแล้วระลอกเล่า แต่สหรัฐฯ รอดพ้นด้วยการระดมฉีดวัคซีน ปัญหาที่เหลืออยู่จึงเป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการระบาดก่อนหน้า

แต่กระนั้นความสำเร็จของสหรัฐฯ มีราคาที่ประเทศอื่นต้องจ่าย เพราะวัคซีนที่คนอเมริกันได้รับเกิดขึ้นจากคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีที่เรียกว่า The Defence Production Act หรือ DPA เป็นกฎหมายที่มอบอำนาจให้ประธานาธิบดีรวมทรัพยากรทุกอย่างเข้าสู่รัฐบาลกลาง อนุญาตให้เข้าแทรกแซงสัญญาการจัดซื้อ จัดจ้างของบริษัทเอกชน รวมถึงระดมแรงงานเพื่อใช้ในการแก้ไขวิกฤตที่ประเทศต้องเผชิญก่อน

ไบเดนสั่งห้ามการส่งออกวัตถุดิบสำหรับการผลิตวัคซีน เพื่อให้คนอเมริกันได้รับวัคซีนเพียงพอ ผลที่ได้คือวัคซีนขาดแคลนในหลายประเทศ โดยเฉพาะอินเดีย ซึ่งเป็นฐานการผลิตหลักของโลก อเมริกาต้องมาก่อนเสมอ ไม่ว่าจะผู้นำคนใด แต่หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร โลกกำลังจับตาบทบาททางมนุษยธรรมของสหรัฐฯ เพราะไบเดนไม่เหมือนทรัมป์ และประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนนี้ทราบดีว่า สหรัฐฯ ไม่มีทางรอดจากโควิดได้ถาวร ตราบใดที่ประเทศอื่นยังคงชอกช้ำ

 

Photo : Melina Mara / POOL / AFP

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ