สถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทยดูจะยังเต็มไปด้วยข้อถกเถียงและความไม่ไว้วางใจในประสิทธิภาพของวัคซีน ทำให้มีประชาชนหลายคนลังเลใจว่า ควรฉีดวัคซีนโควิด-19 ดีหรือไม่
สหรัฐฯ ก็กำลังประสบปัญหาคล้ายกับประเทศไทย เพราะแม้จำนวนผู้รับวัคซีนโควิด-19 จะทะลุ 150 ล้านไปแล้ว แต่ประชากรที่ยังลังเลว่าจะฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือไม่นั้นก็ยังมีสูงไม่แพ้กัน แต่สิ่งหนึ่งที่ต่างคือ ภาคธุรกิจเอกชนในสหรัฐฯ ได้ก้าวเข้ามามีส่วนร่วม คิดแคมเปญต่าง ๆ ที่จะกระตุ้นให้คนออกมาฉีดวัคซีนมากขึ้น
คำบอกเล่าประสบการณ์ตรงจาก “ผู้ฉีดวัคซีนโควิด-19” ซิโนแวค
“หมอสุรวิทย์” ซัด รัฐล้มเหลว ทำคนกลัวการฉีดวัคซีน
หมอ 3 สถาบัน ตอบทุกข้อสงสัย "วัคซีนต้านโควิด"
แมคโดนัลด์ (McDonald’s) แบรนด์ฟาสต์ฟูดชื่อดัง ได้ประกาศร่วมมือกับทำเนียบขาวเพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยจะสกรีนข้อมูลไว้บนถ้วยกาแฟ
ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป ลูกค้าในสหรัฐฯ จะได้เห็นถ้วยแมคคาเฟ่ (McCafé) ที่ออกแบบใหม่ และสติกเกอร์ซีลกล่องจะมีข้อความ “We Can Do This (เราทำได้)” ซึ่งเป็นสโลแกนที่หน่วยงานด้านสุขภาพของสหรัฐฯ คิดขึ้นมาเพื่อสื่อสารให้ประชากรในสหรัฐฯ ออกมาฉีดวัคซีนโควิด-19
แมคโดนัลด์ยังกล่าวอีกว่า จะเปลี่ยนป้ายโฆษณาในไทม์สแควร์ของนิวยอร์กในเดือนนี้ให้แสดงข้อมูลวัคซีนโควิด-19 แทนการโฆษณาปกติ
ซาเวียร์ เบเคอร์รา เลขาธิการด้านสุขภาพกล่าวในแถลงการณ์ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนว่า “ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นตัดสินใจได้เกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง และเรียนรู้เกี่ยวกับขั้นตอนเพื่อปกป้องตนเองและสังคมได้”
ขณะที่ยักษ์ใหญ่ด้าน Ride Sharing อย่าง “อูเบอร์ (Uber)” และ “ลิฟต์ (Lyft)” ก็จะร่วมสนับสนุนโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของสหรัฐฯ ด้วยการไม่คิดค่าบริการสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการเดินไปหรือกลับจากศูนย์วัคซีนที่มีอยู่นับหมื่นแห่งทั่วประเทศ
“ผู้คนจะสามารถเลือกสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่อยู่ใกล้พวกเขาได้โดยทำตามขั้นตอนง่าย ๆ เพื่อแลกรับสิทธิ์พิเศษนั่งรถไปและกลับศูนย์ฉีดวัคซีนในบริเวณใกล้เคียงโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย” ทำเนียบขาวระบุ
โครงการนี้ของอูเบอร์และลิฟต์คาดว่าจะเริ่มในอีกประมาณ 2 สัปดาห์ข้างหน้าและจะสิ้นสุดลงในวันที่ 4 ก.ค. นี้ ซึ่งตรงกับวันชาติสหรัฐฯ และเป็นวันที่ประธานาธบิดี โจ ไบเดน ประกาศไว้ว่า ประชากรในสหรัฐฯ จะได้รับวัคซีนเกิน 70% ของประชากรทั้งหมด
ด้าน “ยูนิลีเวอร์ (Unilever)” เอง ก็มีแคมเปญโปรโมชันแจกไอศกรีมฟรีให้กับบุคลากรด้านสาธารณสุขและผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ในศูนย์บริการฉีดวัคซีนหลายแห่ง
นอกจากแบรนด์ใหญ่ ๆ อย่างแมคโดนัลด์ อูเบอร์ ลิฟต์ หรือยูนิลีเวอร์ แล้ว แม้แต่ภาคธุรกิจเอกชนในท้องถิ่นบางแห่งก็ยังร่วมกันสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ครอบคลุมมากขึ้น เช่น โรงเบียร์ขนาดเล็กในบัฟฟาโล นิวยอร์ก เสนอเบียร์ฟรีให้กับลูกค้าที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นต้น
ปัจจุบัน สหรัฐฯ ฉีดวัคซีนไปแล้วราว 261.6 ล้านโดส ครอบคลุมประชากร 153.8 ล้านคน หรือ 46.48% ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งหากสหรัฐฯ ต้องการฉีดวัคซีนให้ประชากร 70% ของทั้งประเทศให้ทันตามแผนของไบเดน จะต้องฉีดให้ประชากรอีกอย่างน้อย 76 ล้านคนภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือนนี้
อย่างไรก็ตาม อัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วสหรัฐฯ ชะลอตัวลง เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบว่า มีประชากรบางกลุ่มที่ลังเลใจในการฉีดวัคซีน ทำให้ขณะนี้มีความพยายามของภาครัฐและเอกชนที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อกระตุ้นความต้องการฉีดวัคซีน
ต้อรอดูต่อไปว่า แคมเปญเหล่านี้ที่กล่าวไปข้างต้นนั้น ในท้ายที่สุดแล้ว จะสามารถกระตุ้นให้ประชากรในสหรัฐฯ ออกมาฉีดวัคซีนโควิด-19 กันมากขึ้นจนครบตามเป้าหรือไม่
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP / Shutterstock