อิสราเอล-ฮามาสยังคงสาดจรวดใส่กัน ยอดเจ็บตายพุ่ง

บรรยากาศที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ การโจมตีทางอากาศยังคงเกิดขึ้นส่งผลให้เกิดระเบิดและควันสีดำขึ้นปกคลุมตามอาคารต่างๆ ในฉนวนกาซา

สถานการณ์ความขัดแย้งล่าสุดเข้าสู่วันที่ 9 แล้ว นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสยิงจรวดใส่อิสราเอลเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่าตอบโต้ต่อการใช้ความรุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์ที่มาทำพิธีทางศาสนาในมัสยิดอัล-อักซอ ของนครเยรูซาเลม

“ไบเดน” ต่อสายคุย ผู้นำอิสราเอล-ปาเลสไตน์ หลังสู้รบยืดเยื้อนาน 7 วัน

ด่วน! แรงงานไทย ในอิสราเอล โดนระเบิดเสียชีวิต 2 ราย เจ็บอีก 8 คน

ในภาพรวมยังไม่ชัดเจนว่าฝั่งอิสราเอลยิงจรวดในฉนวนกาซากี่ลูก แต่ทางชาติยิวระบุว่า นับตั้งแต่การโจมตีเริ่มขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กลุ่มฮามาสยิงจรวดใส่พวกเขามากถึง 3,350 ลูกแล้ว

พร้อมกันนั้นทางอิสราเอลยังได้เผยภาพฟุตเทจแสดงให้เห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซา โดยระบุว่า เป้าหมายในภาพคือฐานยิงจรวดของกลุ่มฮามาสในกาซา

อย่างไรก็ตามตลอดหลายวันที่ผ่านมา การโจมตีของอิสราเอลไม่ได้ทำลายเฉพาะฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสเพียงอย่างเดียว แต่ยังคือบ้านเรือนประชาชนด้วย

ยอดผู้เสียชีวิตในกาซาเพิ่มเป็นอย่างน้อย 212 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กมากถึง 61 รายหรือเกือบ 1 ใน 3 ส่วนยอดผู้ได้รับบาดเจ็บก็เพิ่มเป็นมากกว่า 1,500 รายแล้ว ส่งผลให้ตามโรงพยาบาลเต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บและญาติๆ

อิสราเอล-ปาเลสไตน์ถล่มกันยับ โลกหวั่นเกิดสงคราม

นี่คือความวุ่นวายของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกาซาซิตี้ ผู้บาดเจ็บรายใหม่ถูกทยอยนำตัวเข้ามา เจ้าหน้าที่ต้องเร่งทำแผล และดูแลคนเจ็บกันอย่างไม่หยุดหย่อน ส่วนขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเองก็เร่งค้นหาคนที่ยังคงติดอยู่ในซากอาคาร

มีเรื่องราวสะเทือนใจจากพ่อคนหนึ่ง เมื่อการโจมตีที่เกิดขึ้นทำให้ลูกๆ ของเขาเสียชีวิตทั้งหมด เหลือแค่ลูกชายคนเล็ก

นี่คือโมฮัมหมัด คุณพ่อลูกห้าในกาซา เขากำลังอุ้มทารกตัวน้อยในมือที่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตี

ครอบครัวของโมฮัมหมัดถูกจรวดถล่มอาคารที่พักเมื่อคืนวันเสาร์ ลูกชาย 4 คนของเขาเสียชีวิต แต่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยหนูน้อยโอมาร์ ซึ่งเป็นลูกคนเล็กอายุ 5 เดือนออกมาจากซากอาคารได้

โดยโอมาร์ถูกดึงออกมาจากอ้อมแขนของผู้เป็นแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว ในตอนที่เกิดเหตุโมฮัมหมัดไม่อยู่บ้าน และตอนนี้เขาสูญเสียครอบครัวทั้งหมด เหลือแค่ลูกคนเล็ก

จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่แพทย์ในกาซารักษาไม่ไหว ต้องส่งตัวข้ามชายแดนไปที่ประเทศอียิปต์

ชีวิตใน "กาซา" ชีวิตที่ถูกปิดล้อม

รัฐบาลอียิปต์ส่งรถพยาบาลมารับผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 200 คนไปรักษาในโรงพยาบาลของอียิปต์ชั่วคราว

เมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ยังคงยืนยันหนักแน่นในการเดินหน้าโจมตีฉนวนกาซาต่อระบุว่าสามารถสังหารสมาชิกระดับสูง ตามด้วยการมุ่งเป้าทำลายอาคารที่เชื่อมโยงกับกลุ่มฮามาส รวมถึงอุโมงค์ใต้ดินได้เป็นจำนวนมาก

ด้านฝั่งฮามาสในวันเดียวกันก็ออกแถลงการณ์ ระบุว่า หากอิสราเอลยังไม่หยุดโจมตีฉนวนกาซา ทางฮามาสก็จะมุ่งเป้าโจมตีเมืองเทล อาวีฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ของอิสราเอลและมีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นเช่นกัน

อะไรคืออุโมงค์ใต้ดินที่อิสราเอลระบุถึง?

นี่คือบางส่วนของเครือข่ายอุโมงค์ที่กองกำลังอิสราเอลอ้างว่าได้ทำลายไป เพื่อโต้กลับกลุ่มฮามาส และทำลายยุทธศาสตร์สำคัญต่างๆ ของกลุ่มฮามาส

ฉนวนกาซาถูกปิดล้อมโดยทหารอิสราเอลมาตั้งแต่ปี 2007 ส่งผลให้การลำเลียงอาวุธ ตลอดจนสินค้า ข้าวของที่จำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันต้องทำผ่านอุโมงค์

อุโมงค์เหล่านี้ถูกขุดขึ้นเชื่อมกาซาและอียิปต์ รวมถึงเชื่อมพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาและอิสราเอล ภายในมีเครือข่ายเชื่อมต่อถึงกันยาวหลายร้อยกิโลเมตร

บรรยากาศภายในอุโมงค์ก็จะมืดและทึบแบบนี้ นอกจากจะเป็นทางขนส่งสินค้าแล้ว ยังมีรายงานว่ากลุ่มฮามาสยังใช้อุโมงค์เป็นคลังเก็บอาวุธด้วย

ประกอบกับนโยบายปิดล้อมและการโดดเดี่ยวกาซาที่อิสราเอลดำเนินมานานหลายปี ส่งผลให้คนที่นี่ขาดแคลนพลังงาน ขาดแคลนยา และสินค้าจำเป็น อุโมงค์เหล่านี้จึงเป็นทางขนส่งสินค้าเข้าไปให้แก่ประชาชนชาวกาซาด้วย

ส่วนสถานการณ์ในภาคประชาชน ช่วงหลายวันที่ผ่านมามีรายงานการชุมนุมและก่อจลาจลในหลายเมืองของอิสราเอลและปาเลสไตน์

ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาปรากฏภาพของกลุ่มติดอาวุธออกมาร่วมประท้วงด้วย

นี่คือบรรยากาศของเมืองรามาลลาห์ ในเขตเวสต์แบงก์เมื่อคืนที่ผ่านมา ชาวปาเลสไตน์พากันออกมาประท้วงอิสราเอล แต่ไม่ได้มีแค่ชาวบ้านธรรมดา ยังมีกลุ่มติดอาวุธด้วย พวกเขาระบุว่าเป็นกลุ่ม “กองพลน้อยผู้พลีชีพเพื่ออัล-อักซอ“

อีกกลุ่มติดอาวุธที่ถูกอิสราเอลนิยามว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายเช่นเดียวกับฮามาส อีกทั้งกลุ่มนี้ยังเป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอันดับสองในกาซา รองจากฮามาส

ส่วนในวันนี้มีเสียงเรียกร้องจากประชาคมโลกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งในนั้นคือกษัตริย์แห่งจอร์แดน โดยทวิตเตอร์ของสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลาห์ที่ 2 ระบุว่า พระองค์ขอให้นานาชาติแสดงพลังร่วมกันในการต่อต้านการละเมิดสิทธิของคนปาเลสไตน์ในเยรูซาเลม

ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสก็ออกแถลงต่อวิกฤตที่เกิดขึ้น  ระบุว่าทางรัฐบาลฝรั่งเศสจะร่วมมือกับจอร์แดน และอียิปต์ เพื่อหาข้อตกลงหยุดยิง และพาสองฝ่ายขึ้นสู่โต๊ะเจรจา