หนังสือพิมพ์ เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ ของฮ่องกง รายงานอ้างอิงผลวิจัยของทีมนักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง (HKU) ที่ติดตามระดับภูมิคุ้มกันโควิด-19 ของประชาชน 1 พันคน ที่ได้รับวัคซีนทั้ง 2 ยี่ห้อนี้ พบว่าระดับภูมิคุ้มกันในกลุ่มผู้ที่ฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ จะสูงกว่าภูมิคุ้มกันของผู้ที่ฉีดซิโนแวคมาก จึงมีความเป็นไปได้ที่ทางการจะแนะนำให้กลุ่มผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค เข้ารับวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อเป็นบูสเตอร์ กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้เพิ่มขึ้น
ส่อง "แคมเปญฉีดวัคซีนโควิดต่างประเทศ" บางประเทศกระจายล่าช้า คนไม่เชื่อมั่นรัฐบาล และขาดแคลนวัคซีน
เปิดสาเหตุ ชาวฮ่องกงฉีดวัคซีนน้อย เหตุไม่มั่นใจรัฐบาล
ก่อนหน้านี้ ที่อินโดนีเซีย มีรายงานว่าบุคลากรทางการแพทย์ 350 คน ติดโควิด และป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล แม้ว่าจะฉีดวัคซีนของซิโนแวคแล้วก็ตาม จนทำให้เกิดความกังวลว่าวัคซีนดังกล่าวอาจต้านเชื้อกลายพันธุ์ไม่อยู่
แต่ก็ยังมีหลายประเทศ อาทิ อุรุกวัย ที่เผยแพร่ผลการฉีดวัคซีนซิโนแวคในประเทศ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าวัคซีนดังกล่าวป้องกันการป่วยหนักและการเสียชีวิตจากโควิด-19 ได้มากถึง 90%
เทียบกับวัคซีนของไฟเซอร์ ที่ลดอัตราการติดเชื้อได้ 78% และป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ถึง 94%
ขณะเดียวกัน มีการตีพิมพ์ผลการวิจัยของสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์จากมหาวิทยาลัยโตเกียว ที่พบว่า วัคซีนโควิดของไฟเซอร์น่าจะมีประสิทธิภาพในการต้านเชื้อสายพันธุ์แกมมา ที่พบครั้งแรกในบราซิลได้ดีพอๆกับเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม โดยอ้างอิงจากผลการทดสอบในหนูทดลอง
ไต้หวัน วันนี้ (20 มิ.ย.) ได้ทำการรับมอบวัคซีนโควิดของโมเดอร์นา จำนวน 2 ล้าน 5 แสนโดส จากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งบรรทุกมากับเครื่องบินโบอิง 777 ของสายการบินไชน่า แอร์ไลน์ส โดยมีรัฐมนตรีสาธารณสุขไต้หวัน และเจ้าหน้าระดับสูงด้านการทูต ของสหรัฐฯ ประจำไต้หวัน ร่วมเป็นตัวแทนรับมอบ
จีนตั้งข้อสงสัย“วัคซีนโควิด-19 ของตัวเอง”มีประสิทธิภาพน้อยกว่าตัวอื่น
การบริจาควัคซีนล็อตนี้ นับว่าสูงกว่าตัวเลข 7 แสน 5 หมื่นโดส ที่รัฐบาลสหรัฐฯ เคยรับปากไว้ถึง 3 เท่า
ด้านประธานาธิบดี ไช่ อิง เหวิน ของไต้หวัน กล่าวแสดงความขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มอบความช่วยเหลือให้เพื่อแสดงถึงมิตรภาพของทั้งสองฝ่าย
ปัจจุบัน มีชาวไต้หวันเพียง 6% จากทั้งหมด 23 ล้านคน ที่ได้รับวัคซีนโควิดแล้วอย่างน้อย 1 โดส ขณะที่รัฐบาลกล่าวหาว่าจีนแผ่นดินใหญ่คอยขัดขวางการจัดหาวัคซีนจากผู้ผลิตฝั่งตะวันตก
หลายฝ่ายมองว่า รัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน พยายามผลักดันการทูตวัคซีนแข่งกับจีน ที่ส่งออกและบริจาควัคซีนให้กับประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก
ส่วนทางการปาเลสไตน์ได้ทำการยกเลิกข้อตกลงรับมอบวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ จำนวน 1 ล้านโดส จากอิสราเอล หลังตรวจพบว่าวัคซีนล็อตดังกล่าวใกล้หมดอายุแล้ว
ไม อัล-ไคลา (Mai Al-Kaila) รัฐมนตรีสาธารณสุขของปาเลสไตน์ระบุว่า ก่อนหน้านี้ ได้รับแจ้งจากทางการอิสราเอลว่าวัคซีนล็อตดังกล่าวจะหมดอายุในเดือน ก.ค. - ส.ค. แต่เมื่อวัคซีนมาถึง เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบและพบว่าวัคซีนที่เตรียมมาให้จะหมดอายุในเดือน มิ.ย. ซึ่งกระชั้นชิดเกินไป จึงขอปฏิเสธรับมอบวัคซีนทั้งล็อต
นอกจากไทย ใครอีกบ้างซื้อวัคซีนโควิด-19 “ซิโนแวค”
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว รัฐบาลอิสราเอลจะส่งมอบวัคซีนให้ปาเลสไตน์ยืมใช้ก่อน หลังจากนั้น ปาเลสไตน์จะส่งวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับมอบในช่วงปลายปีนี้ กลับคืนให้อิสราเอลในปริมาณที่เท่ากัน