ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า พบความเชื่อมโยงของอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ในกลุ่มคนที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี หลังได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 โดส มากกว่า 1,200 ราย โดยทั้งหมดได้รับวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา ซึ่งเรื่องนี้ถูกรายงานในการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคด้านการสร้างภูมิคุ้มกัน
อย.อนุมัติ "วัคซีนไฟเซอร์" เปิดแผนการฉีดไฟเซอร์ สู้โควิด-19
ออสเตรเลียเล็งฉีดวัคซีน “แอสตร้าฯ” น้อยลง พึ่ง "ไฟเซอร์-โมเดอร์นา" แทน
ดร. เกรซ ลี ประธานคณะกรรมการฯ เปิดเผยว่า โดยอาการจะเกิดขึ้นภายใน 1 สัปดาห์หลังได้รับวัคซีนครบ 2 โดส ด้วยอาการเจ็บหน้าอกซึ่งเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด
และขณะนี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐ (CDC) กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อศึกษาและทำความเข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น วิธีการรักษา และผลที่จะเกิดขึ้นระยะยาว
เขากล่าวต่อว่า ยังมีมีรายงานผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ 267 ราย หลังจากได้รับวัคซีนครั้งแรก และ 827 รายหลังจากได้รับ 2 โดสเริ่มมีอาการ ส่วนอีก 132 รายยังไม่ได้รับรายงานว่าเกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วกี่โดส
ทั้งนี้ ในสหรัฐฯ ณ วันที่ 11 มิถุนายน มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้งสองยี่ห้อ ไปแล้วประมาณ 300 ล้านโดส ซึ่งในจำนวน 300 ล้านโดสนั้น พบผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ 12.6 รายต่อ 1 ล้านโดส และกรณีดังกล่าวพบบ่อยมากขึ้นในกลุ่มผู้รับวัคซีนของโมเดอร์นา คือ 19.8 รายต่อ 1 ล้านโดส ส่วนไฟเซอร์พบที่ 8 รายต่อ 1 ล้านโดส
กลุ่มผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุต่ำกว่า 30 ปี และมีอาการไม่รุนแรง ในจำนวน จาก 295 รายที่มีอาการ 79% สามารถออกจากโรงพยาบาลและหายดีแล้ว และยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 9 ราย โดย 2 รายอยู่ในห้องไอซียู ตามรายงานเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม มีประชาชนสหรัฐฯ ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดสจำนวน 177.6 ล้านคน หรือคิดเป็น 53% ของประชากรทั้งหมดในสหรัฐฯ โดยมีประชาชนที่อายุระหว่าง 18 - 24 ปีเข้ารับวัคซีนไปแล้วคิดเป็น 13.6% ของผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องไวรัสโควิด-19 ทั้งหมดในสหรัฐฯ
และแม้จะพบผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ และ โมเดอร์น่า แต่ทาง ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐ (CDC) จะยังคงอนุมัติให้ใช้วัคซีนของทั้งสองบริษัทต่อไป เนื่องจากวัคซีนมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงที่จะทำให้มีอาการป่วยหรือเสียชีวิต