อนามัยโลก เตือน โควิดสายพันธุ์เดลตา ลุกลามไม่หยุด แพร่แล้ว 98 ประเทศ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาลุกลามไม่หยุด ล่าสุด พบแพร่ระบาดใน 98 ประเทศทั่วโลกแล้ว

สถาบันวัคซีน เผย “แอสตร้าเซเนก้า” ฉีดครบ 2 โดส ต้านโควิด สายพันธุ์อินเดีย 60%

ผลทดลองในแล็บเผย “โมเดอร์นา” ต้านโควิด-19 สายพันธุ์ “เดลตา” ได้ดี

พีพีทีวี เชิญผู้เชี่ยวชาญให้ความรู้ทีมข่าว เกี่ยวกับเชื้อกลายพันธุ์-วัคซีน โควิด 19

นายแพทย์เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เตือนว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา ที่พบครั้งแรกในอินเดีย เป็นอันตราย เพราะมีวิวัฒนาการและกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง จึงต้องมีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกประเทศสามารถปรับเปลี่ยนมาตรการสาธารณสุขให้เหมาะสม

ขณะนี้ เชื้อสายพันธุ์เดลตากำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วใน 98 ประเทศทั่วโลก ซึ่งมีทั้งประเทศที่ฉีดวัคซีนน้อย รวมถึงประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรไปมากแล้ว

ผู้เชี่ยวชาญเห็นตรงกันว่า ในท้ายที่สุด เชื้อสายพันธุ์เดลตาจะแทนที่เชื้อสายพันธุ์อื่น ๆ ทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยมันใช้เวลาประมาณ 8 สัปดาห์ แทนที่เชื้อสายพันธุ์แอลฟาในอังกฤษ และกำลังจะแทนที่สายพันธุ์เบตาในแอฟริกาใต้

ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) พบว่า ขณะนี้ เชื้อสายพันธุ์เดลตาคิดเป็นเกือบ 25% ของจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศ ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหภาพยุโรป (ECDC) เตือนว่าเชื้อสายพันธุ์เดลตาจะแพร่กระจายและคิดเป็น 90% ของจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในภูมิภาคภายในสิ้นเดือนหน้า

เช่นเดียวกับเอเชีย ที่หลายประเทศเริ่มพบการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าว จนต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ และเร่งอัตราการฉีดวัคซีน

 

ด้านประเทศเยอรมนี มีการปรับแผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ใหม่ เพื่อรับมือกับเชื้อสายพันธุ์เดลตาที่กำลังจะระบาดหนักในประเทศภายในเดือนนี้ โดยนาย เยนส์ ชปาห์น (Jens Spahn) รัฐมนตรีสาธารณสุข ประกาศว่า ในอนาคต ผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มแรกของแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรก จะได้รับการฉีดเข็มที่ 2 ด้วยวัคซีนแบบ mRNA (เอ็มอาร์เอ็นเอ) ของไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา ซึ่งจะช่วยป้องกันเชื้อสายพันธุ์เดลตาได้ดีกว่าการฉีดแอสตร้าเซนเนก้าทั้ง 2 เข็ม

นายชปาห์นย้ำว่า รัฐบาลมีวัคซีนทุกยี่ห้อเพียงพอสำหรับฉีดให้กับประชาชน และเพียงพอสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดเข็ม 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะมาถึงด้วย

ก่อนหน้านี้ไม่นาน นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ก็เพิ่งเข้ารับวัคซีนเข็มที่ 2 ของโมเดอร์นา หลังจากฉีด​วัคซีนเข็มแรกของแอสตร้าเซนเนก้า ไปเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

 

ส่วนรัฐบาลมาเลเซียเตรียมรับมอบวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ จำนวน 1 ล้านโดส ที่รัฐบาลสหรัฐฯ บริจาคให้ในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ค.) และคาดว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ไทย ลาว และกัมพูชา จะทยอยได้รับวัคซีนเพิ่มเติมเร็วๆนี้

สำหรับวัคซีนล็อตนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของวัคซีนทั้งหมด 80 ล้านโดส ที่ทำเนียบขาวสหรัฐฯ ให้คำมั่นจะส่งมอบให้กับหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าสหรัฐฯ กำลังพยายามใช้การทูตวัคซีน หลังจากที่ปล่อยให้จีนเล่นบทผู้นำโลก ในการแจกวัคซีนต่อสู้กับโควิด-19 ไปก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า มาเลเซียกำลังพัฒนาวัคซีนโควิดของตนเอง โดยคาดว่าจะเริ่มใช้งานได้ในปี 2024 เบื้องต้น จะเน้นใช้เป็นวัคซีนเข็ม 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ประชาชน เพื่อลดการพึ่งพาวัคซีนนำเข้าเพียงอย่างเดียว

 

Photo : Fabrice COFFRINI / AFP

 

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ