ครบ 11 เดือน “ระเบิดเบรุต” ชาวเลบานอนรำลึก 211 ผู้เสียชีวิต


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ย้อนไปเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมปีที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่คร่าชีวิตผู้คนไป 211 คน บาดเจ็บอีกราว 6,500 คนในเลบานอน เหตุระเบิดมาจากการลุกไหม้ของแอมโมเนียมไนเตรท 2,750 ตันที่เก็บอยู่ในท่าเรือกลางเมืองหลวง ชาวเลบานอนไม่เคยทราบการมีอยู่ของมัน และกว่าจะทราบก็เป็นช่วงเวลาหลังเหตุระเบิดแล้ว

ระเบิดเลบานอน เปรียบเทียบ 'ฮิโรชิมา' ย้อนรอยบึ้มเขย่าโลก ที่มาน่าตกใจสารเคมีชนวนเหตุสลด

เจ้าหน้าที่ คาด "แอมโมเนีย ไนเตรท"ชนวนเหตุระเบิดเลบานอน

เมื่อวานนี้ (4 ก.ค. 2564) เป็นวันครบรอบ 11 เดือนของเหตุการณ์ ญาติ ๆ และครอบครัวของผู้เสียชีวิตมารวมตัวกันยังท่าเรือ เรียกร้องขอความคืบหน้าในคดีการสืบสวน

วันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา หรือเมื่อวันอาทิตย์ ชาวเลบานอนจำนวนหลายร้อยคนออกมารวมตัวกันที่ท่าเรือในกรุงเบรุต พวกเขาถือภาพถ่ายของสมาชิกครอบครัวที่เสียชีวิตมาด้วย พร้อมจุดเทียนรำลึกต่อการจากไปเมื่อ 11 เดือนก่อน

ญาติ ๆ เหล่านี้มารวมตัวกันเนื่องจากเมื่อวานนี้เป็นวันครบรอบ 11 เดือนของเหตุระเบิดที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เลบานอน หลายคนสูญเสียลูก บางคนสูญเสียพ่อแม่และคู่ชีวิต แต่ที่เจ็บปวดไม่แพ้กันก็คือ แม้จะผ่านเวลามา 11 เดือนแล้ว คดีดังกล่าวยังไม่คืบหน้า

 

ย้อนไปเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ปี 2020 เกิดควันสีน้ำตาลอมแดงลอยคลุ้งขึ้นในช่วงเย็น ตอนแรกผู้คนคิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสินค้าธรรมดา แต่แล้วไม่นานก็เกิดระเบิดลูกใหญ่ขึ้น ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกฝังอยู่ภายใต้ซากปรักหักพัง นอกจากนั้นแรงระเบิดที่เดินทางไกลหลายกิโลเมตรยังทำลายบ้านเรือนและอาคารต่าง ๆ  

หลังเหตุการณ์คนเบรุตราว 300,000 คนต้องไร้ที่อยู่ ส่วนผู้เสียชีวิตมีมากถึง 211 คน บาดเจ็บอีก 6,500 คน คาดกันว่าความเสียหายนั้นมากถึง 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 4.8 แสนล้านบาท

สาเหตุของการระเบิดเกิดจากลุกไหม้ของแอมโมเนียมไนเตรท 2,750 ตัน  ปกติแล้วสารเคมีที่มากขนาดนี้ไม่ควรถูกเก็บไว้ใกล้กับเขตเมือง มากกว่านั้นหลังเหตุการณ์ยังมีเอกสารเผยออกมาว่า ที่จริงแล้วเจ้าหน้าที่รัฐทราบมามากกว่า 6 ปีแล้วว่าท่าเรือแห่งนี้มีสารเคมีอันตรายอย่างแอมโมเนียมไนเตรทเก็บสะสมอยู่ แต่ไม่มีใครย้ายมันออกไป หลังเหตุระเบิดมีความพยายามสืบสวนและตั้งข้อหาคนที่เกี่ยวข้อง

 

ฟาดี ซาวัน ผู้พิพากษาที่ทำหน้าที่สืบสวนคดีได้ตั้งข้อหาและดำเนินการสอบสวนเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายนาย ไม่ว่าจะเป็น นายกรัฐมนตรีฮัซซัน ดิอับ รวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงการคลังและกระทรวงสาธารณูปโภค และรัฐมนตรีอีกหลายคน แต่นายกฯ ดิอับปฏิเสธที่จะให้ปากคำ

อย่างไรก็ตามคดีที่ดำเนินมามีอันต้องสะดุด เมื่อศาลเลบานอนตัดสินใจถอดถอนซาวันออกจากคดี หลังถูกรัฐมนตรีระดับสูงฟ้องกลับในข้อหาผิดต่อกระบวนการทางกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากกฎหมายเลบานอนกำหนดให้การตั้งไต่สวนเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงต้องทำโดยรัฐสภา ซึ่งถูกมองว่าเป็นกฎหมายคุ้มครองนักการเมือง

 

คดียืดเยื้อเรื่อยมา จนกระทั่งวันศุกร์ที่ผ่านมา สื่อเลบานอนรายงานว่า ทาเหล็ก บิทาร์ หนึ่งในผู้พิพากษาที่ร่วมสืบสวนคดีดังกล่าวและขึ้นเป็นอัยการคนใหม่แทนกำลังเตรียมจะฟ้องร้องต่อเจ้าหน้าที่รัฐ โดยตัวเขาระบุว่า มีข้อกล่าวหาที่จะยื่นฟ้องต่อ นายกรัฐมนตรีฮัซซัน ดิอับ รวมถึงขอให้ทางรัฐสภายกเลิกข้อกฎหมายคุ้มครองนักการเมืองดังกล่าวด้วย

ด้านชาวเลบานอนที่มาร่วมงานรำลึกเมื่อวานนี้มองว่า ทาเหล็ก เป็นความหวังที่จะช่วยให้การสืบสวนคดีมีความคืบหน้ามากขึ้น

 

10 สิงหาคม ปี 2020 หลังเหตุการณ์หนึ่งสัปดาห์ รัฐบาลเลบานอนแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก  แต่ปัจจุบันนายกรัฐมนตรีดิอับ ยังคงดำรงตำแหน่งในฐานะรักษาการณ์ เนื่องจาก ซาอัด อัล-ฮารีรี ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ และเป็นอดีตนายกฯ สมัยก่อนหน้าของดิอับล้มเหลวในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ อันที่จริงตั้งแต่ก่อนเหตุระเบิด เลบานอนเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำจากหลายปัจจัย ตั้งแต่คอร์รัปชัน อัตราส่วนหนี้สาธารณะสูง และภาวะเงินเฟ้อ

 

Photo : ANWAR AMRO / AFP 

 

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ