นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตือนว่า สหรัฐฯ กำลังมุ่งหน้าไปผิดทาง หลังเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง ในพื้นที่ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ
เฟาซีระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขส่วนกลางกำลังพิจารณาอย่างจริงจัง เพื่อปรับเปลี่ยนคำแนะนำให้ชาวอเมริกันที่ฉีดวัคซีนแล้วกลับมาสวมหน้ากาก หลังจากหลายพื้นที่ อาทิ ลอสแอนเจลิส เคาน์ตี สั่งให้ประชาชนกลับมาสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะอีกครั้ง แม้จะฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว
สหรัฐฯพบผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งสูงถึง 70 %
ทำเนียบขาวยอมรับ ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบไม่ทันแผน 4 ก.ค.
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างพิจารณาฉีดเข็มกระตุ้นให้กลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ที่เคยปลูกถ่ายอวัยวะ ทำเคมีบำบัดมะเร็ง หรือผู้ที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง ซึ่งต้องใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
ทั้งนี้ สหรัฐฯ เคยเป็นประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่หลังจากเดือนเมษายน อัตราการเข้ารับวัคซีนก็ลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะรัฐทางภาคใต้ของประเทศ บางพื้นที่ประชาชนยังเข้ารับวัคซีนเข็มแรกได้ไม่ถึงครึ่ง จึงเป็นหน้าที่ของทางการท้องถิ่นที่ต้องเร่งหามาตรการกระตุ้นให้คนไปฉีดวัคซีนมากขึ้น
จนถึงตอนนี้ มีชาวอเมริกันฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว 162 ล้าน 7 แสนคน หรือคิดเป็น 49% ของประชากรทั้งประเทศ
ภาพ AFP
สำรวจสายการบิน-สนามบินทั่วโลก ที่โดนพิษโควิดเดลตา ทำให้ต้อง"พักก่อน"
เช็กโปรแกรมเชียร์นักกีฬาไทย ลุยโอลิมปิก 26 ก.ค. 64