รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 ในหมู่ชาวอเมริกันที่ได้รับวัคซีนครบโดส (Breakthrough Infection) กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในสหรัฐฯ เนื่องจากมีความกังวลว่า ประเทศกำลังประสบปัญหาการกลับมาของไวรัสโควิด-19 อีกครั้ง
ทั้งนี้ ข้อมูลใหม่แสดงให้เห็นว่าการติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบโดสมีไม่มากนัก และมักมีอาการไม่รุนแรง แต่ผู้ติดเชื้อแล้วป่วนหนักความจริงแล้วคือผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนต่างหาก
สิงคโปร์ยืนยัน ฉีดวัคซีนแล้วติดโควิด-19 ไม่ใช่ว่าวัคซีนไม่ได้ผล
เกาหลีใต้รายงาน คนฉีดวัคซีนครบโดส 5.4 ล้านคน พบติดโควิดเพียง 647 ราย
ดร.จอห์น บราวน์สตีน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรมของโรงพยาบาลเด็กบอสตัน กล่าวว่า “การรายงานพบผู้ฉีดวัคซนครบโดสติดโควิด-19 ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับวัคซีน แต่เมื่อใส่ในบริบทที่กว้างขึ้นว่า มีผู้คนจำนวนเท่าใดที่ได้รับการฉีดวัคซีนและจำนวนผู้ป่วยจำนวนมากในประชากรที่ไม่ได้รับวัคซีน เราก็จะตระหนักดีว่า วัคซีนนั้นได้ผลและผู้ป่วยที่ฉีดวัคซีนนั้นพบได้ยาก”
สำนักข่าวต่างประเทศ ABC เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลซึ่งไม่ได้รับการเปิดเผยจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า ทั่วประเทศมีชาวอเมริกันมากกว่า 156 ล้านคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และในจำนวนนี้มีราว 153,000 คนที่ติดโควิด-19 แล้วป่วยแบบแสดงอาการ คิดเป็นประมาณ 0.098% ของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน แต่ไม่ได้นับรวมการติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ
ผู้เชี่ยวชาญเน้นว่า ไม่มีวัคซีนใดที่สามารถป้องกันโรคได้ 100% แต่วัคซีนเหล่านี้ยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเจ็บป่วยอย่างรุนแรงและการเสียชีวิต
แมทธิล เฟอร์รารี ผู้อำนวยการศูนย์พลศาสตร์โรคติดเชื้อแห่งมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเพนซิลเวเนีย กล่าวว่า “ความเสี่ยงต่อผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสนั้นน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนอย่างมาก โอกาสเกิดผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนครบอยู่ในความคาดการณ์ และ ณ จุดนี้ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่ควรกังวลใด ๆ เกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบัน ... ผู้ที่ได้รับวัคซีนบางคนอาจยังติดเชื้อ บางคนอาจยังแพร่เชื้อได้ และยิ่งมีคนฉีดวัคซีนมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเห็นเคสที่เป็นแบบนี้มากขึ้นอยู่ดี”
ตามรายงานของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านโควิด-19 ของทำเนียบขาว พบว่าการติดเชื้อรุนแรงยังคงพบได้ยากในหมู่ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดส และผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลขณะนี้เกือบทั้งหมด ราว 97% เป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วติดโควิด-19 ในระดับที่หนักจนต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือไปจนถึงเสียชีวิตนั้น มักเกิดขึ้นกับคนสูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวร้ายแรง ซึ่งวัคซีนอาจมีประสิทธิภาพลดลง
อังคูร์ ชาห์ รองผู้อำนวยการอาวุโสของกระทรวงสาธารณสุขประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กล่าวว่า “เฉพาะเขตนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 ที่ฉีดวัคซีนครบโดสเพียง 200 รายจาก 376,000 ราย หรือ 0.05% เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นของเราว่าวัคซีนเหล่านี้ยอดเยี่ยมเพียงใด”
ขณะที่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ จำนวนผู้ฉีดวัคซีนครบโดสที่ติดโควิด-19 จนถึงตอนนี้อยู่ที่ 5,678 รายจากทั้งหมด 4.8 ล้านคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส และมีผู้เสียชีวิตหลังได้รับวัคซีนครบ 49 ราย
ดร.เอ็ด ลิฟชิตซ์ จากกระทรวงสาธารณสุขรัฐนิวเจอร์ซีย์ กล่าวในแถลงการณ์ว่า “สิ่งสำคัญคือต้องชี้ให้เห็นว่า ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 49 ราย ในบรรดาผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดส 4.8 ล้านคนนั้น คิดเป็นอัตราส่วน 1 ใน 100,000 คน นั่นหมายความว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพประมาณ 99.999% ในการป้องกันการเสียชีวิตจากโควิด-19 นอกจากนี้มีผู้เสียชีวิต 27 คนที่ป่วยด้วยโรคอื่นอยู่ก่อนแล้ว จึงอาจทำให้ผลของโควิด-19 รุนแรงขึ้น
โปรแกรมแข่งขันกีฬา โอลิมปิก 2020 ประจำวันที่ 27 กรกฎาคม 2564
เรียบเรียงจาก ABC News
ภาพจาก AFP
