สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานักวิจัยจีนในมณฑลเจียงซุ เผยผลการทดสอบวัคซีนซิโนแวคจากห้องปฏิบัติการ พบหลังฉีดครบสองเข็มนาน 6 เดือน ค่าแอนติบอดีกลับลดต่ำลงจนต่ำกว่าเกณฑ์ งานวิจัยดังกล่าวทดสอบในกลุ่มคนอายุระหว่าง 18 - 59 ปี โดยแบ่งกลุ่มเป็นคนที่ได้รับวัคซีนโดสที่ 2 ห่างจากโดสแรก 2 สัปดาห์ และ 4 สัปดาห์
ผลพบว่า หลังผ่านไป 6 เดือน ในกลุ่มแรกมีร้อยละ 16.9 เท่านั้นที่มีค่าแอนติบอดีสูงพออยู่ในระดับป้องกันการติดเชื้อ ส่วนกลุ่มที่สองมีค่าแอนติบอดีป้องกันการติดเชื้ออยู่ที่ร้อยละ 32.5
วัคซีน “ซิโนแวค” ถึงไทยอีก 2 ล้านโดส รวมได้รับแล้ว 10.5 ล้านโดส
บราซิล ยัน วัคซีนโควิด “ซิโนแวค” มีประสิทธิภาพป้องกันไวรัสกลายพันธุ์
สะท้อนว่าส่วนใหญ่ของผู้ทดสอบล้วนมีค่าแอนติบอดีลดลงหลังซิโนแวคฉีดเข็มที่ 2. ความน่าสนใจคือมีการทดสอบว่าจะเป็นอย่างไรถ้าฉีดโดสที่ 3 ด้วย โดยฉีดให้กับผุ้เข้าร่วมการทดสอบ 540 ราย ทิ้งช่วงห่างจากเข็มที่ 2 นาน 6 เดือน
โดยพบว่าหลังฉีดแล้ว ค่าแอนติบอดีเพิ่มขึ้นราว 3-5 เท่า หลังฉีดไปแล้ว 1 เดือน หรือเทียบกับแอนติบอดีในช่วง 1 เดือนที่ร่างกายเคยมีหลังฉีดเข็มที่ 2 หมายความว่าระดับของแอนติบอดีหลังฉีดเข็มที่ 2 นั้นลดลงเรื่อยๆ และอาจจำเป็นต้องฉีดเข็มที่ 3 ในอนาคต
งานวิจัยดังกล่าวยังไม่ได้ถูกรับรองหรือตรวจสอบโดยนักวิชาการท่านอื่นๆ อีกทั้งยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนว่าทำไมแอนติบอดีจึงลดลง
ปัจจุบันวัคซีนซิโนแวคถูกแจกจ่ายไปแล้วมากกว่า 1,000 ล้านโดส และเป็นวัคซีนหลักที่หลายประเทศใช้ในการต้านเชื้อโควิด เช่น บราซิล อินโดนีเซีย และชิลี
ซิโนแวค-แอสตร้าเซเนก้า กระตุ้นภูมิคุ้มกันคนไทยได้ดีมาก
โปรแกรมแข่งขันกีฬา โอลิมปิก 2020 ประจำวันที่ 28 กรกฎาคม 2564