สหรัฐฯ เผยจีนกำลังขยายคลังขีปนาวุธนิวเคลียร์เพิ่ม


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สมาคมนักวิทยาศาสตร์อเมริกันหรือ FAS เปิดเผยรายงาน และภาพดาวเทียมที่แสดงให้เห็นฐานยิงขีปนาวุธในเขตปกครองตนเองซินเจียงในรายงานฉบับดังกล่าว AFS ระบุว่า นี่ถือเป็นการขยายคลังแสงอาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ของโลก เกิดการตั้งคำถามตามมาว่า จีนกำลังมีแผนอะไร และสิ่งที่จีนทำเป็นการละเมิดข้อตกลงภายใต้สนธิสัญญาห้ามการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ หรือ NPTหรือไม่ และตอนนี้กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯหรือเพนตากอนกำลังแสดงความเป็นกังวล

สหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกันหรือ FAS เปิดเผย ภาพถ่ายดาวเทียมที่แสดงให้เห็นว่า จีนกำลังสร้างพื้นที่เก็บขีปนาวุธนิวเคลียร์แห่งที่ 2 ที่ตั้งอยู่ใกล้เมืองฮามิ ทางตะวันออกของเขตปกครองตนเองซินเจียง

โดยภาพถ่ายดาวเทียมชี้ให้เห็นว่าหากก่อสร้างแล้วเสร็จ พื้นที่ดังกล่าวสามารถมีคลังเก็บขีปนาวุธได้ถึง 110 คลัง

ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีรายงานประเภทนี้ออกมา เดือนมิถุนายน มีรายงานระบุว่าจีนกำลังสร้างโรงหรือไซโลเก็บและยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ราว 120 แห่งในเขตทะเลทรายในเมืองยูเหมิน มณฑลกานซู่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน

กทม.เผย ถกดีล "โมเดอร์นา" จัดหาแล้วซิโนฟาร์ม วัคซีนทางเลือก ฉีดคนกรุง

ภูเก็ต ประกาศห้ามเข้าทุกช่องทาง เว้นบุคคล 12 กลุ่ม มีผล 3 - 16 ส.ค.64

โดยเมื่อวานนี้ FAS ระบุว่า สถานที่เก็บขีปนาวุธแห่งที่ 2 ในเมืองฮามิ อยู่ห่างจากสถานที่แรกในเมืองยูเหมิน ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 380 กิโลเมตร

นับเป็นการค้นพบโครงการสร้างคลังเก็บขีปนาวุธของจีนถึง 2 แห่งภายในช่วง 2 เดือน

นอกจากนั้น FDA ยังเปิดเผยว่า จำนวนคลังเก็บอาวุธนิวเคลียร์ที่จีนกำลังสร้างในเมืองยูเหมินและเมืองฮามิ เมื่อรวมกับคลังเก็บขีปนาวุธข้ามทวีปหรือ DF-5 ที่จีนมีอยู่แล้ว ทั้งหมดจะมีอยู่ราว 250 หลัง

เป็นจำนวนที่มากกว่าคลังเก็บขีปนาวุธข้ามทวีปของรัสเซีย และมากกว่าจำนวนคลังเก็บขีปนาวุธข้ามทวีปของสหรัฐฯ สองเท่า

พร้อมระบุว่า โครงการก่อสร้างคลังอาวุธนิวเคลียร์ของจีนถือเป็นโครงการก่อสร้างครั้งใหญ่และครอบคลุมเทคโนโลยีที่สุดนับตั้งแต่มีการก่อสร้างคลังอาวุธในสหรัฐฯ และโซเวียตช่วงสงครามเย็น

ด้านกองบัญชาการยุทธศาสตร์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ทวีตข้อความในวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ถือเป็นครั้งที่สองในรอบสองเดือน ที่มีค้นพบสิ่งที่สหรัฐฯ เชื่อมาตลอดว่าเป็นจีนกำลังทำในสิ่งที่เป็นภัยคุกคามของโลก

มีการตั้งคำถามด้วยว่า จีนกำลังละเมิดข้อตกลงภายใต้สนธิสัญญาห้ามการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ หรือ NPT ที่มีประเทศกว่า 189 ประเทศทั่วโลกลงนามหรือไม่

ซึ่งภายใต้สนธิสัญญานี้ จีนจะต้องคงจำนวนเพดานอาวุธนิวเคลียร์ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ

การออกมาปรามและตั้งคำถามกับยุทธศาสตร์นิวเคลียร์ของจีนมีบ่อยขึ้นในช่วงหลังๆ

เช่นเมื่อเดือนที่ผ่านมา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ออกมาพูดปรามๆเป็นเชิงตีกันว่า จีนต้องปฏิบัติตามสนธิสัญญาที่ตกลงกับโลกไว้อย่างเคร่งครัด และบอกด้วยว่า การสะสมอาวุธนิวเคลียร์ของจีนคือเรื่องน่ากังวล

ด้าน ไมค์ เทอร์เนอร์ ส.ส.จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการด้านการทหารของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กล่าวว่า การสะสมอาวุธนิวเคลียของจีนขณะนี้ป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า จีนกำลังใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อคุกคามสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สหรัฐฯ พยายามเรียกร้องให้จีนเข้าสู่การเจรจาระหว่างสามฝ่ายร่วมกับรัสเซีย เพื่อจำกัดอาวุธนิวเคลียร์ แต่จีนปฏิเสธ

เทอร์เนอร์ระบุว่า การที่จีนปฏิเสธการเข้าร่วมเจรจาเพื่อจำกัดอาวุธนิวเคลียร์นั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง และทุกประเทศที่เกี่ยวข้องควรร่วมประณาม

อีกเสียงมาจาก ไมค์ โรเจอร์ หนึ่งในคณะอนุกรรมการด้านการทหารจากพรรครีพับลิกันเช่นกัน

ส.ส.โรเจอร์กล่าวว่า การสะสมอาวุธนิวเคลียร์ของจีนสะท้อนให้เห็นว่า สหรัฐฯ จำเป็นต้องเร่งพัฒนาระบบป้องกันนิวเคลียร์ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น

รายงานจากกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เมื่อปี 2020 ประเมินว่า จีนมีหัวรบนิวเคลียร์ในครอบครองราว 200 ลูก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสองเท่าเร็วๆ นี้ อันเนื่องมาจากการขยายและปรับปรุงกองกำลังให้ทันสมัยของจีน

ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ระบุว่า ณ วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา กองทัพสหรัฐฯ มีหัวรบนิวเคลียร์ประจำการ 1,357 ลูก แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่า สหรัฐฯ อาจมีมากกว่านั้นราว 3,800 ลูก

ส่วนรัสเซียมีอยู่ 1,456 ลูก อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากหลายแห่งให้จำนวนไม่ตรงกัน

ด้านเว็บไซต์ Armscontrol ระบุว่า ในปี 2020 สหรัฐฯ อาจมีหัวรบนิวเคลียร์มากถึง 5,800 ลูก รัสเซียอาจมี 6,375 ลูก

ส่วนจีนคาดว่ามีราว 320 ลูก

ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามชักจูงให้จีนเข้าร่วมสนธิสัญญาการลดอาวุธทางยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ ที่สหรัฐฯ ทำไว้กับรัสเซีย เพื่อจำกัดอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศมหาอำนาจ แต่ยังไม่ได้ผล

โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เวนดี เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เจรจาร่วมกับเซอร์เก รยาบคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย เกี่ยวกับการควบคุมอาวุธในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

โดยก่อนหน้านั้น เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เวนดี เชอร์แมน ได้เดินทางไปจีนเพื่อหารือกับ หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน เกี่ยวกับการจัดทำเงื่อนไขต่างๆ สำหรับการบริหารจัดการความรับผิดชอบร่วมกันในความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

รวมไปถึงประเด็นอื่นๆ อย่างเช่น การปราบปรามผู้ประท้วงในฮ่องกง การสังหารหมู่และอาชญากรรมต่อชนกลุ่มน้อยในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ การจำกัดเสรีภาพของสื่อมวลชนในประเทศจีน และการลอบโจมตีทางไซเบอร์

โดยในการเจรจาครั้งนั้น จีนได้กล่าวหาว่า สหรัฐฯ พยายามกดดันจีน และทำให้จีนเป็นศัตรูในจิตนาการ (Imaginary Enemy) ของสหรัฐฯ ด้วย

CDC แนะชาวอเมริกันกลับมาใส่หน้ากาก หลังเดลตาระบาดหนัก

เตียง รพ.ใน กทม. เกินลิมิตรับผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว 5 เท่า

โปรแกรมถ่ายทอดสด โอลิมปิก 2020 ประจำวันที่ 30 กรกฎาคม 2564

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ