ข้อมูลการขายสัตว์ป่า “ตลาดเมืองอู่ฮั่น” ความหวังใหม่สืบหาต้นตอโควิด-19


โดย PPTV Online

เผยแพร่




การศึกษาฉบับใหม่ยืนยัน ตลาดเมืองอู่ฮั่นมีการขายสัตว์ป่าเป็น ๆ สวนทางเมื่อครั้งทีมนักวิจัย WHO ลงพื้นที่พบแต่สัตว์แช่แข็ง

“ต้นตอโควิด-19” ยังคงเป็นปริศนาที่เฝ้ารอวันเปิดเผย แต่การศึกษาฉบับหนึ่งซึ่งใช้เวลานานถึงปีครึ่งกว่าจะได้ตีพิมพ์ มีข้อมูลที่อาจช่วยยืนยันสมมติฐานเดิมที่ว่า “โควิด-19 มาจากตลาดค้าสัตว์ในอู่ฮั่น”

การศึกษานี้ได้รับการตีพิมพ์เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาในวารสาร Scientific Reports รายงานว่า ในตลาดอู่ฮั่นมีการขาย “สัตว์ป่าเป็น ๆ” ไม่ได้มีแต่สัตว์แช่แข็งอย่างที่จีน “โชว์” ให้โลกดู รวมถึง “ตลาดหัวหนาน” ที่พบการระบาดของโควิด-19 เป็นที่แรก ๆ ของโลก

ข่าวกรองสหรัฐฯ ศึกษาข้อมูลพันธุกรรมจากแล็บอู่ฮั่น หวังพบต้นตอโควิด-19

อนามัยโลก เปิดที่มาต้นตอโควิด-19 ที่ไม่ใช่ตลาด-แล็บอู่ฮั่น

การศึกษาดังกล่าวจัดทำโดย เซี่ยวเซี่ยว นักไวรัสวิทยาซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสถาบันวิจัยการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่าของจีนตะวันตกเฉียงใต้ และมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนหูเป่ย์

เซี่ยวเซี่ยวใช้เวลากว่า 30 เดือนในการสำรวจข้อมูลชุดนี้ เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค. 2017 โดยสำรวจร้านค้า 17 แห่งในตลาด 4 แห่งของเมืองอู่ฮั่นที่ขายสัตว์ป่าเป็น ๆ คือ หัวหนาน ไป๋ซาโจว ฉีอี้เหมิน และตีเจี้ยว ขณะนั้นเขากำลังพยายามค้นหาแหล่งที่มาของโรคไลม์ (Lyme; โรคที่เกิดจากเห็บ) ซึ่งแพร่ระบาดในมณฑลหูเป่ย์ช่วงก่อนปี 2017

เขาไปสำรวจตลาดทุกเดือนจนถึงเดือน พ.ย. 2019 ที่มีการค้นพบผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจลึกลับ หรือโควิด-19 ในปัจจุบัน

เมื่อไวรัสเริ่มระบาด เซี่ยวเซี่ยวตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลที่เขารวบรวมไว้ ในเดือน ม.ค. 2020 เขาได้ร่วมมือกับ โจวจ้าวหมิน นักวิจัยจากห้องปฏิบัติการทรัพยากรสัตว์ป่าร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการของจีน และนักวิทยาศาสตร์ผู้มากประสบการณ์อีก 3 คนจากหน่วยวิจัยการอนุรักษ์สัตว์ป่าของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด

คริส นิวแมน นักนิเวศวิทยาชาวอังกฤษซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมการศึกษา กล่าวว่า ช่วงนั้นเซี่ยวเซี่ยวเก็บตัวอย่างเห็บดูดเลือดจากสัตว์ป่า ซึ่งตัวอย่างเลือดที่อยู่เห็บเหล่านั้นน่าจะสามารถนำมาตรวจสอบหาร่องรอยของเชื้อโควิด-19 ได้

จากการตรวจสอบต้นตอการระบาดระลอกแรกในเดือน ก.พ. 2020 ได้มีความพยายามในการรวบรวมข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับแหล่งที่มาและประเภทของสัตว์ป่าที่ขายในตลาดหัวหนานและปลายทางของสัตว์เหล่านั้นหลังจากตลาดถูกปิด แต่กลับไม่มีใครได้รับข้อมูลดังกล่าวเลย ทำให้ตรวจหาต้นตอของเชื้อได้ไม่ทันท่วงที

จางหย่งเจิ้น และเอ็ดเวิร์ด โฮล์มส นักวิทยาศาสตร์ที่เปิดเผยลำดับพันธุกรรมชุดแรกของโควิด-19 เคยกล่าวไว้ในช่วงแรกของการระบาดว่า “เป็นเรื่องน่าเสียดาย การขาดตัวอย่างโดยตรงจากสัตว์ในตลาด ทำให้มันกลายเป็นเรื่องยากหรืออาจเป็นไปไม่ได้เลยที่จะระบุแหล่งรังโรคในสัตว์อย่างแม่นยำ”

จากร้านค้า 17 แห่งที่เซี่ยวทำการสำรวจ มีอยู่ 7 แห่งที่อยู่ในตลาดหัวหนาน ซึ่งเชื่อมโยงกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 รายแรกสุด 2 ราย ในการเยี่ยมชมแต่ละครั้ง เซี่ยวเซี่ยวจะถามพ่อค้าแม่ค้าว่า พวกเขาขายสัตว์อะไรไปบ้างโดยบันทึกทั้งจำนวนและราคา

ทีมวิจัย WHO เผย จีนไม่ส่งข้อมูลสำคัญที่จะช่วยในการสืบต้นตอโควิด-19 ให้

WHO สิ้นสุดภารกิจในอู่ฮั่น หลังไม่พบต้นตอโควิด-19

เซี่ยวพบว่า สัตว์ส่วนใหญ่มีที่มาจากการล่าสัตว์ เป็นการค้าที่ผิดกฎหมาย และถูกนำมาขังในกรงในสภาพแวดล้อมที่สกปรก โดยพบอีเห็นเครือ จิ้งจอกแร็กคูน ซึ่งเป็นต้นตอการระบาดของโรคซาร์สในปี 2003 โดยจากสัตว์ที่ถูกค้าขาย 38 ชนิด พบว่ามีสัตว์ถึง 31 ชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองคุ้มครอง แต่ไม่พบการค้าขาย “ตัวลิ่น” และ “ค้างคาว” ที่มีการคาดเดาว่า อาจเป็นตัวกลางแพร่โควิด-19 สู่คน

การศึกษาของเซี่ยวเซี่ยวถูกตรวจทานและแก้ไขหลายครั้ง จนเดือน ต.ค. 2020 จึงได้ส่งไปให้วารสาร Scientific Reports พิจารณา ซึ่งทางผู้ตีพิมพ์เมื่อเห็นการศึกษาฉบับดังกล่าว ก็รับส่งสำเนาไปยัง WHO อย่างรวดเร็ว แต่ไปจมอยู่ท่ามกลางจดหมายหลายหมื่นฉบับ จึงไม่มีใครใน WHO ได้อ่านมัน

ผู้ตีพิมพ์ยังได้ส่งสำเนาถึงมาเรีย ฟาน เคอร์คอฟ หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ WHO เธอกล่าวว่า มีการส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 มาเป็นจำนวนมากจนเธอไม่ได้อ่านมันในทันที “น่าเสียดายที่ข้อมูลสำคัญนี้ไม่ได้ถูกมอบโดยตรงให้กับกับทีมสืบหาต้นตอโควิด-19 ในขณะที่ทีมอยู่ในอู่ฮั่นและเยี่ยมชมตลาดในเมือง ... เอกสารฉบับนี้จะเพิ่มมูลค่ามหาศาลอย่างแน่นอน”

มีการคาดการณ์ว่า ที่การศึกษานี้ออกมาล่าช้า เป็นเพราะมีสายตาจากจีนที่คอยจับจ้องนักวิจัยที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับโควิด-19 และการเผยแพร่ข้อมูลงานวิจัยใด ๆ เกี่ยวกับโควิด-19 ต้องได้รับการอนุมัติโดยทางการจีนก่อน และจีนได้เข้าควบคุมการตีพิมพ์เผยแพร่งานวิจัยทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19

การเดินทางไปเยือนอู่ฮั่นเมื่อต้นปี 2021 ที่ผ่านมาของทีบสืบสวนจาก WHO อาจให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไป หากนักวิทยาศาสตร์ในทีมได้รู้เกี่ยวกับการศึกษาของเซี่ยวเซี่ยวชิ้นนี้

โดยเมื่อตอนที่ทีมสืบหาต้นตอโควิด-19 เดินทางไปถึงอู่ฮั่น พวกเขาก็ไม่ได้พบกับการค้าสัตว์ป่าที่ผิดปกติหรือผิดกฎหมายแล้ว เพราะเวลาผ่านมานานแล้วนับแต่เกิดการระบาด และพบเพียงแต่ “สัตว์แช่แข็ง” ไม่พบสัตว์เป็น ๆ อย่างที่มีการขายก่อนการระบาด และข้อมูลที่ทีมสืบสวนได้รับ มีเพียงข้อมูลที่ถูกบอกซ้ำ ๆ ว่า ตลาดในเมืองอู่ฮั่นไม่มีการขายสัตว์เป็น ๆ ทำให้ไม่มีการเก็บข้อมูลจากสัตว์เป็น ๆ ในตลาดที่ถูกนำมาวางขาย

ต้องติดตามต่อไปว่า การศึกษาฉบับนี้ จะทำให้แนวทางการสืบหาต้นตอโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลกเปลี่ยนไปในทิศทางไหน

เรียบเรียงจาก Bloomberg / Nature / SCMP

ภาพจาก AFP

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ