เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หน่วยงานกำกับดูแลยาของสหราชอาณาจักร MHRA ได้เพิ่ม “กลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (GBS)” ซึ่งพบได้ยากมาก ให้เป็นหนึ่งในผลข้างเคียงของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แอสตร้าเซเนก้า
การตัดสินใจของ MHRA เกิดขึ้นหลังจากเมื่อต้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลยาของยุโรป EMA ได้เพิ่ม GBS เป็นผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 แอสตร้าเซเนก้า
GBS เป็นภาวะที่ระบบภูมิต้านทานของร่างกายเราต่อต้านตัวเอง จนทำลายเส้นประสาท ทำให้อ่อนแรงและเป็นอัมพาตในบางครั้ง
กทม. เปิดลงทะเบียน ฉีดวัคซีนสูตรไขว้ “ซิโนแวค-แอสตร้าฯ”
ความจำเป็นของการ "ตรวจภูมิคุ้มกัน" หลังฉีดแอสตร้าเซเนก้า พร้อมจุดสังเกตแบบไหนเรียกว่าแพ้
“วัลเนวา” โชว์ผลวัคซีนโควิดตัวใหม่ ดีเท่าแอสตร้าฯ-ผลข้างเคียงน้อยกว่า
ตามรายงานของสาธารณสุขอังกฤษ GBS ส่งผลกระทบต่อเส้นประสาทส่วนใหญ่ที่เท้า มือ แขน และขา และอาการอาจคงอยู่นาน 2-3 สัปดาห์ไปจนถึงหลายปีในบางเคส คนส่วนใหญ่ฟื้นตัวหายดีได้สมบูรณ์ แต่บางคนเส้นประสาทอาจถูกทำลายอย่างถาวร
แต่กลุ่มอาการดังกล่าวจัดอยู่ในประเภท “ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ยากมาก” ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ซึ่งหมายความว่าอาการดังกล่าวอาจเกิดขึ้นในอัตราส่วนน้อยกว่า 1 ใน 10,000 คน
ตามรายงานของ MHRA เปิดเผยว่า จนถึงวันที่ 13 ต.ค. MHRA ได้รับรายงาน 432 ครั้งเกี่ยวกับกลุ่มอาการ GBS จากการฉีดแอสตร้าเซเนก้า 59 ครั้งจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ และ 4 ครั้งจากโมเดอร์นา
ไม่หลบหลู่! เพจดังยื่นหนังสือพิสูจน์ "บั้งไฟพญานาค" คือกระสุนส่องแสง
กทม.เผยรายชื่อ 63 โรงเรียนแรก อนุญาตเปิดการเรียนการสอน
ส่วนรายงานก่อนหน้านี้ของ EMA ณ 31 ก.ค. พบว่า มีผู้ที่เกิดกลุ่มอาการ GBS หลังจากฉีดวัคซีนโควิด-19 แอสตร้าเซเนก้า จำนวน 833 รายจากการฉีด 592 ล้านโดสทั่วโลก หรือราว 1 ใน 700,000 ราย
เรียบเรียงจาก Reuters
ภาพจาก AFP