แอฟริกาใต้-โมเดอร์นา-ไฟเซอร์ เริ่มทดสอบวัคซีนที่มีอยู่กับ “โอไมครอน”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




นักวิจัยในแอฟริกาใต้ และบริษัทผู้พัฒนาวัคซีนอย่างโมเดอร์นา-ไฟเซอร์ เริ่มทดสอบประสิทธิภาพวัคซีนที่มีอยู่กับโควิด-19 “โอไมครอน”

นักวิทยาศาสตร์ในแอฟริกาใต้ได้เริ่มการทดลองประเมินว่า วัคซีนโควิด-19 ที่โลกมีอยู่ในปัจจุบัน สามารถต้านเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน (Omicron)” หรือ “B.1.1.529” ได้ดีเพียงใด หลังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อแล้วใน 15-16 ประเทศ นับตั้งแต่มีรายงานการค้นพบสายพันธุ์อย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยสายพันธุ์ดังกล่าวมีการกลายพันธุ์กว่า 50 ตำแหน่ง ซึ่งมีอยู่หลายตำแหน่งที่คาดว่าจะส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงกับไวรัส

เกือบ 40 ประเทศทั่วโลกปิดพรมแดน คุมเข้มสกัดโควิด-19 “โอไมครอน”

แพทย์แอฟริกาใต้ยกเคส "โอไมครอน อาการไม่รุนแรง" วัคซีนกระตุ้นคือความหวัง

"โอไมครอน" ยังไม่เจอในไทย ยืนยัน RT-PCR และ ATK ยังตรวจได้

โดยปกติ การจะสร้างแอนติบอดีป้องกันไวรัส ผู้พัฒนาวัคซีนจะต้องรู้จักส่วนต่าง ๆ ของไวรัส ซึ่งแอนติบอดีต้านโควิด-19 ส่วนใหญ่จะจับกับตำแหน่งโปรตีนหนาม (Spike Protein) ของไวรัส แต่โอไมครอนนั้นมีการกลายพันธุ์ที่โปรตีนหนามถึง 32 ตำแหน่ง ทำให้เกิดความกังวลว่า แอนติบอดีที่เกิดจากวัคซีนหรือการติดเชื้อตามธรรมชาติอาจมีประสิทธิภาพน้อยลง

ศ.เพนนี มัวร์ จากมหาวิทยาลัย Witwatersrand และสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติแอฟริกาใต้ (NICD) ได้เริ่มทำการทดลอง โดยนำ “ไวรัสเทียม” ซึ่งเป็นไวรัสที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายและไม่เพิ่มจำนวนตัวเอง มาใช้ในการสร้างแบบจำลองของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ จากนั้นนำไปทดสอบกับพลาสมาในเลือดที่มีแอนติบอดีของผู้ที่ได้รับวัคซีนและผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19 เพื่อดูว่าแอนติบอดีในเลือดจากตัวอย่างเหล่านี้จะลบฤทธิ์ของโอไมครอนได้หรือไม่

การทดลองของมัวร์จะใช้ตัวอย่างเลือดจากผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แอสตร้าเซเนก้า ไฟเซอร์ และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และพลาสมาจากผู้ป่วยโควิด-19 ที่หายดีแล้ว

คาดว่าผลการทดลองของมัวร์จะรู้ผลในอีกราว 2 สัปดาห์ข้างหน้า และคาดว่าจะเป็นหลักฐานทางห้องปฏิบัติการแรก ๆ ที่จะระบุได้ว่า วัคซีนโควิด-19 ที่โลกมีอยู่นั้นเพียงพอที่จะป้องกันโควิด-19 โอไมครอนได้หรือไม่ หรือบรรดาผู้ผลิตจะต้องผลิตวัคซีนเวอร์ชันปรับปรุงใหม่

นอกจากงานวิจัยของมัวร์แล้ว ที่แอฟริกาใต้ยังมีงานวิจัยของสถาบันวิจัยสุขภาพแอฟริกันในเดอร์บัน นำโดย ศ.อเล็กซ์ ซิกัล นักไวรัสวิทยา ซึ่งขณะนี้เขากำลังขยายพันธุ?ไวรัสโอไมครอนที่มีชีวิตจากผู้ที่ติดเชื้อในช่วงล่าสุดในแอฟริกาใต้ เมื่อเขามีไวรัสเป็น ๆ มากพอ ก็จะนำไปทดสอบกับพลาสมาเลือดจากผู้ที่ได้รับวัคซีนและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติหลังจากการติดเชื้อโควิด

แอฟริกาใต้เป็นที่แรกในโลกที่รายงานการค้นพบโควิด-19 โอไมครอนต่อองค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ในขณะนั้น โดยสืบย้อนไปพบการติดเชื้อครั้งแรกสุดเมื่อวันที่ 9 พ.ย. แต่กำลังมีการสืบสวนอย่างละเอยีดว่า โอไมครอนมีการระบาดมาก่อนหน้านั้นหรือไม่

การทำงานในแอฟริกาใต้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามระดับโลกอย่างเร่งด่วนในการทำความเข้าใจภัยคุกคามจากโควิด-19 โอไมครอน

นอกจากนักวิจัยในแอฟริกาใต้แล้ว ด้านบริษัทผู้พัฒนาวัคซีนโควิด-19 หลายรายยังเริ่มการศึกษาว่าวัคซีนของพวกเขาสามารถป้องกันสายพันธุ์โอไมครอนได้ดีเพียงใด

โดยทางแอสตร้าเซเนก้ากำลังวิเคราะห์การติดเชื้อและสถานะการฉีดวัคซีนในผู้คนในบอตสวานาและเอสวาตินี ส่วนไฟเซอร์ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทเริ่มการทดสอบประสิทธิภาพวัคซีนของตนกับโอไมครอนแล้วเช่นกัน และหวังว่าจะได้ผลการศึกษาเบื้องต้น “ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า”

และหากโควิด-19 โอไมครอนสามารถหลบเลี่ยงวัคซีนได้จริง ทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์นา ซึ่งเป็นผู้พัฒนาวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ต่างออกมายืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาสามารถผลิตวัคซีนชนิดใหม่ที่ต้านโอไมครอนโดยเฉพาะได้ภายในเวลาประมาณ 100 วัน

สอบ. เผย "หน้ากากอนามัย" ในท้องตลาดส่วนใหญ่คุณภาพต่ำกว่าเกณฑ์ที่ มอก.กำหนด

นักวิจัยชี้ วัคซีนผสมในไทย กันโควิด "โอไมครอน"

เรียบเรียงจาก Financial TimesThe Guardian

ภาพจาก AFP

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ