เรื่องของวัคซีนโควิด-19 สูตรไขว้นั้น ประเทศไทยเป็นหนึ่งในชาติแรก ๆ ที่อนุมัติใช้ ไม่ว่าจะเป็นสูตรซิโนแวค-แอสตร้าเซเนก้า ซิโนแวค-ไฟเซอร์ เพื่อเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันให้กับคนในประเทศ
แต่ไม่ใช่ประเทศไทยเท่านั้น ที่เห็นความสำคัญของการใช้วัคซีนสูตรไขว้ ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ และในแง่ของการเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 รวมถึงโครงการ Com-Cov ของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด คือโครงการที่ศึกษาวิจัยการใช้วัคซีนโควิด-19 สูตรไขว้แบบต่าง ๆ
อาการเบื้องต้นของสายพันธุ์ "โอมิครอน"
กลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดชาวอเมริกัน "ติดเชื้อโควิด" รอตรวจ ยืนยัน "โอมิครอน"
พบแล้ว! สาเหตุฉีดวัคซีนโควิด-19 แอสตร้าเซเนก้าแล้วเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
ล่าสุด Com-Cov ได้ผลการศึกษาใหม่ออกมาว่า การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มแรก แล้วตามด้วยโมเดอร์นาหรือโนวาแวกซ์เป็นเข็มที่สอง สามารถเพิ่มระดับแอนติบอดีและทีเซลล์ (T-cells) หรือหน่วยความจำภูมิคุ้มกัน ได้สูงกว่าการฉีดแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม
โดย Com-Cov ทำการศึกษาในกลุ่มอาสาสมัคร 1,070 คน โดยให้รับวัคซีนโควิด-19 แอสตร้าเซเนก้า หรือไฟเซอร์ เป็นเข็มแรก หลังจากนั้น 9 สัปดาห์ ฉีดเข็มสองเป็นวัคซีนตัวเดิม หรือโมเดอร์นา หรือโนวาแวกซ์
พบว่า ในด้านของระดับแอนติบอดี เมื่อเทียบกับการฉีดแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าตามด้วยโมเดอร์นา สามารถเพิ่มระดับของแอนติบอดีได้สูงขึ้น 17 เท่า และสูงขึ้น 4 เท่าในกลุ่มผู้ที่ได้รับแอสตร้าเซเนก้าตามด้วยโนวาแวกซ์
ส่วนในกลุ่มที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ไฟเซอร์เป็นเข็มแรก เมื่อเทียบกับการฉีดไฟเซอร์ 2 เข้ม พบว่า การฉีดไฟเซอร์ตามด้วยโมเดอร์นาเพิ่มระดับแอนติบอดีได้สูงขึ้น 1.3 เท่า แต่หากฉีดโนวาแวกซ์เป็นเข็มที่สอง ระดับแอนติบอดีจะลดลง 20%
ขณะที่เมื่อประเมินระดับทีเซลล์ พบว่า การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าหรือไฟเซอร์ 2 เข็มโดยไม่ใช้สูตรไขว้ จะมีระดับของทีเซลล์ใกล้เคียงกัน
ส่วนการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าตามด้วยโมเดอร์นา ระดับทีเซลล์จะเพิ่มขึ้น 3.5 เท่า และหากฉีดเข็มสองเป็นโนวาแวกซ์การให้ ระดับทีเซลล์จะเพิ่มขึ้น 4.8 เท่า
ขณะที่การฉีดไฟเซอร์ตามด้วยโมเดอร์นา จะมีระดับทีเซลล์เพิ่มขึ้น 1.5 เท่า แต่หากฉีดโนวาแวกซ์เป็นเข็มที่สอง ระดับทีเซลล์จะลดลง
จากข้อมูลข้างต้น จึงสรุปว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 แอสตร้าเซเนก้า แล้วตามด้วยโมเดอร์นาหรือไฟเซอร์ ให้ผลดีต่อทั้งระดับแอนติบอดีและระดับทีเซลล์ ส่วนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์นั้น ควรตามด้วยโมเดอร์นามากกว่าโนวาแวกซ์
จุดที่น่าสนใจคือ การตอบสนองของระดับทีเซลล์ที่ดีที่สุดเกิดขึ้นจากสูตรแอสตร้าเซเนก้า-โนวาแวกซ์ ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดที่ง่ายต่อการเก็บรักษา สามารถเก็บไว้ในอุณหภูมิตู้เย็น (2-8 องศาเซลเซียส) ได้
ศ.แมทธิว สเนป จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด หัวหน้าทีมวิจัยนี้ กล่าวว่า “การฉีดวัคซีนชนิด mRNA ที่ต่อด้วยโนวาแวกซ์ไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะระดับการตอบสนองของทีเซลล์”
เขาเสริมว่า สิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งจากงานวิจัยนี้ คือหมายความว่าประเทศต่าง ๆ สามารถมีความยืดหยุ่นในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้
ศ.สเนปกล่าวว่า “เมื่อคุณได้รับวัคซีนโควิด-19 ยี่ห้อหนึ่งเป้นเข็มแรก ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องรับวัคซีนตัวเดิมเป็นเข็มที่สอง”
นอกจากนี้ การศึกษานี้ยังได้ตรวจสอบประสิทธิภาพของสูตรไขว้เหล่านี้กับสายพันธุ์เดลตาและเบตาด้วย พบว่า ในทุกกรณี มีระดับแอนติบอดีลดลง แต่ระดับของทีเซลล์ลดลงน้อยมาก
"ประยุทธ์" เตือนสถานบริการ ยึดมาตรการป้องกันโควิด-19 รับมือสายพันธุ์"โอมิครอน"
"นพ.ยง" ชี้ สายพันธุ์ "โอมิครอน" จ่อผงาดมาแทนที่ "เดลต้า"
เรียบเรียงจาก Com-Cov / The Guardian
ภาพจาก AFP / Getty Image