ชาวซูดาน เดินหน้าลงถนนที่กรุงคาทูม ต่อต้านกองทัพ
นายกรัฐมนตรีอับดัลลา ฮัมด็อก ของซูดาน ประกาศลาออกผ่านโทรทัศน์และคลิปที่เผยแพร่ทางช่องยูทูบของสำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (3 ม.ค.) โดยระบุว่า ตนได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้วที่จะไม่ให้ประเทศถลำสู่หายนะ แต่แม้จะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกันแล้ว ก็ยังไม่สำเร็จ
“จากที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งหมด ผมจึงตัดสินใจคืนความรับผิดชอบนี้ และประกาศลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อให้โอกาสบุคคลอื่นในประเทศที่มีเกียรตินี้”
“ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง มาเป็นผู้นำประเทศที่เรารักต่อไป และช่วยให้เราผ่านช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่เหลืออยู่ไปสู่ประเทศประชาธิปไตยที่ปกครองโดยพลเรือน” นายกรัฐมนตรีซูดาน กล่าว
นายฮัมด็อก กล่าวต่อว่า ตอนนี้ ซูดานอยู่ในจุดเปลี่ยนที่อันตราย และจะต้องมีการประชุมหารือเพื่อจัดทำข้อตกลงใหม่สำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย
เปิดเงื่อนไข "คนละครึ่งเฟส 4" เริ่ม 1 มี.ค.นี้ ใช้ร่วม "ช้อปดีมีคืน" ได้
โดยการประกาศลาออกของนายฮัมด็อกมีขึ้นหลังเมื่อวานนี้ กองกำลังความมั่นคงซูดานเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านกองทัพที่เดินขบวนมุ่งหน้าไปยังทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดาน ระหว่างการประท้วงใหญ่ทั่วประเทศครั้งที่ 14 นับตั้งแต่รัฐประหาร เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม
ภาพจากสำนักข่าวหลายแห่งและสื่อสังคมออนไลน์เผยให้เห็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่วิ่งฝ่ากลุ่มควันแก๊สน้ำตาม และกระจัดกระจายไปคนละทิศละทางหลังได้ยินเสียงที่มีการอ้างว่าเป็นเสียงปืน ขณะที่มีรายงานอินเทอร์เน็ตและเครือข่ายโทรศัพท์มือถือใช้งานไม่ได้ หลังเกิดการชุมนุม
คณะกรรมการกลางแพทย์ซูดาน (SCDC) ระบุว่า เหตุการณ์สลายการชุมนุมครั้งนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน โดยสองคนถูกกระสุนจริงยิงเข้าที่หน้าอก ส่วนอีกคนเสียชีวิตจากการได้รับบาดเจ็บรุนแรงโดยตรงที่ศีรษะ ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตในการชุมนุมประท้วงรัฐประหารในซูดาน จนถึงขณะนี้อยู่ที่อย่างน้อย 57 คน
เช็กเลย! ปีใหม่ 2565 ไปรษณีย์ไทย - Kerry - Flash หยุดหรือไม่?
ทั้งนี้ ซูดาน อยู่ภายใต้การปกครองร่วมกันระหว่างผู้นำทหารและผู้นำพลเรือนตั้งแต่ปี 2019 หลังจากอดีตประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาชีร์ ผู้นำเผด็จการถูกโค่นอำนาจจากการลุกฮือของประชาชน จนกระทั่งเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กองทัพได้ทำรัฐประหารยึดอำนาจ ยุบสภาปกครองสูงสุดและรัฐบาลเปลี่ยนผ่าน และควบคุมตัวนายฮัมด็อกในบ้านพัก โดยนายพลอับเดล ฟัตตาห์ อัล เบอร์ฮาน ผู้นำกองทัพ ให้เหตุผลในการทำรัฐประหารว่า เพื่อป้องกันสงครามกลางเมืองที่ส่อเค้าว่าจะปะทุขึ้น และย้ำว่าซูดานยังยึดมั่นที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่การปกครองโดยพลเรือน โดยจะให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเดือนกรกฎาคมปี 2023
หลังจากนั้นในเดือนพฤศจิกายน กองทัพซูดานก็ได้ให้นายฮัมด็อกกลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงแบ่งอำนาจระหว่างผู้นำทหารและพลเรือน ภายใต้ข้อตกลงนี้ นายฮัมด็อกจะต้องนำคณะรัฐมนตรีที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญ (technocrats) จากสายต่าง ๆ จนกว่าการจะมีการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม ผู้ประท้วงปฏิเสธข้อตกลงดังกล่าว เนื่องจากพวกเขาไม่เชื่อใจกองทัพ และไม่มีความชัดเจนว่ารัฐบาลพลเรือนชุดใหม่จะมีอำนาจแค่ไหน โดยพวกเขาต้องการรัฐบาลที่เป็นพลเมืองทั้งหมด
อิสราเอล เดินหน้า บูสเตอร์เข็ม 4 ให้กลุ่มสูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
นอกจากนี้ ผู้ประท้วงยังไม่พอใจเพราะฮัมด็อกถือเป็นผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่เป็นความหวังของชาวซูดาน และการบรรลุข้อตกลงในครั้งนั้นทำให้ผู้ประท้วงมองว่า เขาถูกซื้อตัวไปแล้ว บางคนก็บอกว่า ฮัมด็อกทำให้พวกเขาผิดหวัง
ทั้งนี้ มีรายงานว่าประชาชนที่ประท้วงที่ประท้วงต่อต้านการปกครองของกองทัพมักจะถูกปราบปรามอย่างโหดร้าย ขณะเดียวกันก็มีความพยายามที่ขัดขวางการนำเสนอข่าวของสื่ออย่างรุนแรง
