ยูเครนเสริมกำลังพลรักษา “บัคมุต” สกัดการบุกรุกของรัสเซีย
กองทัพรัสเซีย "แวกเนอร์" ประชิด "บัคมุต" เหลือแค่ 2 กม.
นาย โอเล็กซานเดอร์ มาร์เชนโก (Oleksandr Marchenko) รองนายกเทศมนตรีเมืองบัคมุต เปิดเผยว่าถนนหลายสายกำลังเกิดการสู้รบกันระหว่างทหารรัสเซียและยูเครน แต่ มาร์เชนโก ยืนยันว่าฝ่ายรัสเซียยังไม่สามารถเข้าควบคุมพื้นที่ได้ ท่ามกลางรายานข่าวว่าทหารทั้งสองฝ่ายได้ปะทะกันตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่ สภาพของเมืองบัคมุตขณะนี้ถูกทำลายโดยเกือบสิ้นเชิง อาคารบ้านเรือนทุกหลังได้รับความเสียหาย ระบบสื่อสารถูกตัดขาด และ สะพานไม่สามารถใช้การได้
โดยรายงานจากหน่วยข่าวกรองกระทรวงกลาโหมอังกฤษ ระบุว่า สะพานแห่งสุดท้ายที่เป็นเส้นทางส่งกำลังบำรุงให้กับทหารยูเครนในพื้นที่ได้ถูกทำลายลงแล้ว
มาร์เชนโก ระบุว่า ยุทธวิธีที่กองทัพรัสเซียใช้กับบัคมุตในเวลานี้คือการมุ่งทำลายเมืองเพื่อไม่ให้มีใครอาศัยอยู่ได้ เหมือนที่เคยทำกับเมืองมารีอูปอลและโพพาสนา
สำหรับพลเรือนที่ยังไม่อพยพออกจากเมืองบัคมุตขณะนี้มีจำนวนเหลืออยู่ประมาณ 4,000 คน จากเดิมที่เมืองนี้เคยมีประชากรจำนวน 75,000 คนในช่วงก่อนสงคราม โดยพลเรือนทีเหลืออยู่ทั้งหมดต้องไปอาศัยอยู่ในสถานที่พักพิงต่างๆ แต่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนก๊าซ ไฟฟ้า และ น้ำ
ส่วนการเดินทางหนีภัยสู้รบออกจากเมืองบัคมุตเวลานี้ กองทัพยูเครนเครนเตือนพลเรือนว่าสถานการณ์ยังอันตรายเกินไปที่จะเดินทางด้วยรถ โดยได้แนะนำให้ผู้ที่ต้องการอพยพออกจากเมืองใช้วิธีเดินเท้าแทน
แม้สถานการณ์จริงในพื้นที่ยังยากที่จะคาดเดา แต่มีความเป็นไปได้ที่นายทหารระดับบัญชาการของกองทัพยูเครน อาจกำลังชั่งน้ำหนักระหว่างความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับการรักษาเมืองบัคมุตเอาไว้ ซึ่งนักวิเคราะห์ชาติตะวันตกระบุว่ายูเครนอาจเลือกถอยทัพออกจากพื้นที่เพื่อรักษาชีวิตกำลังพลไว้สำหรับการสู้รบในประเทศที่ยังดำเนินต่อไป
อย่างไรก็ตามเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ระบุว่า จะไม่ยอมยกพื้นที่ใดให้กับศัตรู และการหยุดยั้งรัสเซียจำเป็นต้องใช้ปืนใหญ่และเครื่องกระสุน
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าทหารยูเครนกำลังพยายามซ่อมแซมถนนในเมืองบัคมุตชให้ใช้งานได้ และมีทหารถูกส่งเข้าไปในแนวหน้ามากขึ้นซึ่งเป็นสัญญาณว่า ยูเครนอาจยังไม่ยอมแพ้ในสมรภูมินี้
นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯจะส่งกระสุน และขีปนาวุธมูลค่ารวมกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 13,700 ล้านบาท เพื่อเพิ่มคลังกระสุนของยูเครนที่เริ่มร่อยหรอลงระหว่างรับมือกับการรุกรานของกองกำลังรัสเซีย
