ล่าสุดมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยร่วมกับหอการค้าไทยและมูลนิธิสิริวัฒนภักดี จัดโครงการ “แคมป์ผู้ประกอบการรุ่นเล็ก...เด็กหัวการค้า” ปีที่6 มอบทุนการศึกษากว่า 20 ล้านบาท เพื่อทำตามความฝันของเยาวชนที่จะสร้างความสำเร็จให้กับอาชีพธุรกิจของตนเอง สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ส่งเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจกระแสใหม่ อาทิ เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม รวมถึงตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารที่เกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 21 เป็นไปอย่างรวดเร็วและฉับพลัน (Disruptive Technology)ให้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ปวช.และปวส.ทั่วประเทศไทย
หอการค้าไทย ดันโครงการ “ชาวนาอัจฉริยะ” มุ่งเน้นไร้สารเคมี-ลดการขาดทุน
ม.หอการค้าไทย จับมือเซ็นทรัล สร้างนักรบดิจิทัลพันธุ์ใหม่ จัดแข่งขัน "Digital Warrior Project 2019"
โดยนาย ปัณณธร ผิรังคะเปาระ (น้องเจได) อายุ 18 ปี มาจากโรงเรียนสุราษฎร์พิทยา จังหวัดสุราษฏร์ธานี หัวหน้าทีมแฮมเบิร์กชนะเลิศแคมป์ผู้ประกอบการรุ่นเล็ก...เด็กหัวการค้าปีที่6 เปิดเผยว่า เข้าแคมป์นี้ทำให้ได้รับทัศนคติที่แปลกใหม่ในการทำธุรกิจจากเดิม พร้อมเรียนเรียนรู้การประยุกต์ใช้นวัตกรรมกับสินค้าและบริการของเรา เพราะการทำธุรกิจนั้นมีอะไรที่ซับซ้อนมากกว่าแค่การขายของ หรือ การคิดผลิตภัณฑ์ ทำให้เราสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากการเข้าค่ายครั้งนี้ไปใช้ในภายภาคหน้ากับธุรกิจของที่บ้านหรืออาจจะเป็นการแนะนำให้กับคนอื่นเพื่อต่อยอด ยกตัวอย่างเช่น การเรียนแผนธุรกิจตั้งแต่การเติบโต ล้มเหลว อุปสรรค นวัตกรรมต่างๆ ส่วนประกอบที่สำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของเราเป็นไปได้ด้วยดีและประสบความสำเร็จ ที่สำคัญเรื่องของโอกาสที่จะทำให้เรามองเห็นถึงช่องทางการทำธุรกิจ เพราะการที่เราเข้ามาในค่ายนี้มันทำให้เราได้รับโอกาสที่เพิ่มมากขึ้นจากเดิมในหลายเท่าอีกด้วย
ด้านน.ส.รุ่งทิวา โชคลาภ (น้องนก) อายุ 18 ปี โรงเรียนสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ทีมแฮมเบิร์ก ชนะเลิศอันดับหนึ่ง กล่าวว่า แคมป์นี้สอนตั้งแต่การเป็นผู้ประกอบการว่าผู้ประกอบการนั้นคืออะไร ทำให้พวกเราหลาย ๆ คนเข้าใจมากขึ้นว่าคืออะไร และสิ่งสำคัญที่สุด คือ อาจารย์ได้สอนในเรื่องของ MVP คือการที่ได้ทราบว่าธุรกิจของเราคืออะไร ลูกค้าคือใคร ปัญหาของลูกค้าคืออะไร และจะทำผลิตภัณฑ์อะไรออกมาเพื่อตอบสนองปัญหาและความต้องการของลูกค้า สอนให้มีความคิดที่แตกต่างจากคนทั่วไป ยกตัวอย่างเช่นธุรกิจชานมไข่มุก คนที่ทำธุรกิจนี้มีเยอะทั่วไป ซึ่งแรก ๆ อาจจะขายได้ดีแต่พอนานวัน ก็อาจจะไม่ได้ขายดีแบบตอนแรกและถึงขั้นที่อาจจะปิดตัวลงเพราะมีจำนวนร้านที่ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อได้มาก ดังนั้นค่ายนี้ช่วยสอนให้เรารู้ว่าการทำธุรกิจนั้นต้องมีการวางแผนในทุก ๆ ด้านต้องมีการวิเคราะห์การตลาดว่าลูกค้าของเราเป็นใคร จะขายให้ใคร เป็นต้น
“ทุกคนต่างฝันที่จะอยากเป็นนักธุรกิจที่รวยและมีเงินเยอะ ๆ มีทุกอย่างพร้อม ชีวิตสุขสบาย พอเราได้เข้ามาค่ายนี้ทำให้เรารู้ว่าทุกอย่างที่เราฝันนั้นมันเป็นเพียงแค่ภาพหลอกตาเราทั้งนั้น การที่จะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้นั้นมันมีหลายอย่างเช่น การล้มเหลวมาก่อน โดยในค่ายจะสอนว่าถ้าเราล้มเราต้องรีบลุกให้เร็วและยืนให้ได้ อีกทั้งเวลาที่เราล้มนั้นเราต้องล้มแค่ครั้งเดียวเท่านั้นแล้วนำบทเรียนในครั้งนั้นมาปรับปรุงให้มันดีที่สุด” น.ส.รุ่งทิวา กล่าว