ค้นหาความหมายของชีวิตกับ Buddhist Ikigai “3 ห่วง ปฏิวัติความคิด ออกแบบชีวิตใหม่” เพื่อความสำเร็จอย่างยั่งยืน


เผยแพร่




ท่ามกลางกระแสโลกที่มีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นด้านการสื่อสาร การคมนาคมขนส่ง รวมถึงเทคโนโลยีสารสนเทศที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจ ส่งผลต่อสังคมวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงระหว่างบุคคล ชุมชน หน่วยงานภาคธุรกิจและภาครัฐบาล ความก้าวหน้าด้านวัตถุนิยมจึงมีผลต่อการดำรงชีวิต

ซึ่งเป็นเหตุให้มนุษย์ทุกคนต่างดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุด้านต่างๆ จึงก่อให้เกิดการขัดแย้ง ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สะท้อนให้เห็นว่าถึงแม้เทคโนโลยีจะถูกพัฒนาขึ้นโดยมนุษย์แต่เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่ต้องได้รับการพัฒนาคือจิตใจของมนุษย์เพื่อเดินหน้าแก้ไขปัญหาสังคมที่สะสมเป็นทวีคูณและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกวัน

ผศ.ดร.วีรณัฐ โรจนประภา ผู้ก่อตั้งและประธานมูลนิธิบ้านอารีย์, สมาคมบ้านปันรัก, และผู้ก่อตั้งมรณานุสติ คาเฟ ได้เรียบเรียงองค์ความรู้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงได้กลั่นกรอง วิเคราะห์ และสังเคราะห์จากประสบการณ์ตรง เพื่อถ่ายทอดผ่านหนังสือ Buddhist Ikigai ไว้ว่า 

“เมื่อระบบทุนนิยมเติบโตในจิตใจ จนควบคุมจิตวิญญาณที่แท้จริงของมนุษย์ ทำให้มนุษย์มองเห็นประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม เห็นแก่ตัวจนไม่สนใจเรื่องศีลธรรมความดีงาม ก่อให้เกิดปัญหาทางสังคม และเมื่อสังคมมีปัญหาเราก็หลีกเลี่ยงที่จะรับผลของปัญหานั้นไม่ได้”

มนุษย์บนโลกใช้ชีวิตหลงไปกับกระแสทางสังคมมากกว่าการมีสติตื่นรู้ จึงเป็นเหตุที่ก่อให้เกิดหายนะกับชีวิตมนุษย์ เมื่อมนุษย์เริ่มมีความโลภเกิดการเอารัดเอาเปรียบกันจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จะกลายเป็นการคดโกง ขยายใหญ่ขึ้นเป็นการทุจริตและได้มาในสิ่งที่ไม่ชอบธรรม ผู้ครอบครองมีความวิตกกังวลในการที่จะครอบครอง “ส่วนเกิน” ให้ปลอดภัยที่สุดด้วยการแสวงหา “อำนาจ” ฉะนั้น ผลประโยชน์ไม่ได้หมายถึงเพียงตัวเงินหรือทรัพย์สินที่เป็นรูปธรรมเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงอาณาเขตที่เป็นนามธรรมที่ผู้ครอบครองรู้สึกปลอดภัย
 

จากการศึกษาจึงทำให้ ผศ.ดร.วีรณัฐ โรจนประภา ได้ค้นพบเครื่องมือชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า Buddhist Ikigai “3 ห่วง ปฏิวัติความคิด ออกแบบชีวิตใหม่” ซึ่งเป็นเครื่องมือในการช่วยเหลือและสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต โดยเป็นการตั้งคำถามกับตัวเราเองผ่าน 3 องค์ประกอบ คือ 1. สิ่งที่รัก  2. สิ่งที่ทำได้ดี 3. สิ่งที่เป็นปัญหาสังคม (ไม่ใช่สิ่งที่สังคมต้องการ) และลองตั้งคำถามตัวเองจากโจทย์ 3 สิ่งนี้แบ่งเป็นข้อ ๆ เช่น สิ่งที่รัก 3 อย่าง สิ่งที่ทำได้ดี 3 อย่าง และสิ่งที่เป็นปัญหาสังคมอีก 3 อย่าง โดยนำเอาสิ่งเหล่านั้นมารวมกันจะเท่ากับ “คุณเกิดมาเพื่อสิ่งนั้น” และจะสามารถทำสิ่งที่ชื่นชอบออกมาได้ดี เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างยั่งยืน ด้วยแนวความคิด “3 ห่วง ปฏิวัติความคิด ออกแบบชีวิตใหม่” ที่ทำให้เรารู้ถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ และเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตต่อไป

ทุกคนบนโลกสามารถวางเป้าหมายชีวิตของตัวเองผ่านหลัก “3 ห่วง ปฏิวัติความคิด ออกแบบชีวิตใหม่” แล้วนำไปใช้ดำเนินชีวิตอย่างมีเป้าหมาย โดยผ่านการแก้ปัญหาสังคม จนเกิดเป็นห่วงที่ 4 ขึ้น เรียกว่า สิ่งที่สร้างรายได้จากสิ่งที่ปัญหาสังคม ซึ่งเป็นความต้องการแท้ หรือเป็นช่องว่างด้านความต้องการของลูกค้าจากจุดที่ “สิ่งที่ลูกค้าเป็น ไปสู่สิ่งที่ลูกค้าจะต้องเป็น” (ไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าอยากเป็น) หากเรานำสิ่งที่เป็นปัญหาสังคมเหล่านี้มาเป็นตัวกำหนดจะเกิดเป็น “ความต้องการแท้”  ที่ลูกค้าทั้งโลกกำลังต้องการ เพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้และกลายเป็นอาชีพใหม่ที่เรียกว่า “อาชีพแห่งอนาคต” ผ่านเป้าหมาย Sustainable Development Goals (SDGs) 17 ข้อ แห่งความยั่งยืน ซึ่งเป็นโอกาสทองของคนที่มองเห็น แต่เป็นหายนะของคนที่มองข้าม สู่การสร้างอาชีพใหม่ที่พร้อมแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าและแก้ไขปัญหาสังคมได้อย่างสมบูรณ์  

สรุปได้ว่า หลัก “3 ห่วง ปฏิวัติความคิด ออกแบบชีวิตใหม่” เป็นแนวทางแห่งการวางเป้าหมายชีวิตที่แท้จริง ซึ่งจะพาทุกคนที่ใช้เครื่องมือนี้ไปสู่ความสุขและความสำเร็จอย่างยั่งยืน เพราะทุกคนในโลกใบนี้ย่อมหาหนทางในการพัฒนาชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้น และพามวลมนุษย์รอดพ้นจากหายนะที่โลกกำลังเผชิญ ด้วยการค้นหาหนทางในการพัฒนาธุรกิจแห่งอนาคตผ่าน Sustainable Development Goals (SDGs) 17 ข้อ เพราะอนาคตไม่อาจเป็นหลักประกันได้เลยว่า วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ท้ายที่สุด หากเราสามารถปฏิวัติความคิดและออกแบบชีวิตตัวเราเองได้ ชีวิตก็จะพบหนทางแห่งความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมควบคู่กันไปอย่างแท้จริง ผศ.ดร.วีรณัฐ กล่าวทิ้งท้าย 
 

TOP ประชาสัมพันธ์
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ