“มูลนิธิเอสซีจี” คิกออฟแนวคิด “Learn to Earn” เรียนรู้เพื่ออยู่รอด สร้างอนาคตเด็กและเยาวชน ผ่านภารกิจหลักในการมอบทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพเยาวชนคน Gen Z โดยการเสริมทักษะทางด้านความรู้ความสามารถ (Hard skill) และ ทักษะทางด้านการเข้าสังคมและอารมณ์ (Soft skill) หรือที่เรียกว่า ‘ทักษะแห่งการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21’ (Power Skill)
ซึ่งเป็นทักษะที่มีความจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตและการทำงานในยุคปัจจุบันและอนาคต พร้อมเดินหน้าสร้างการรับรู้และความเข้าใจ โดยดึง สไปร์ท - เขื่อน และ ลูกกอล์ฟ มาร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชน
สุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า เมื่อก่อน เราอาจจะเคยเชื่อว่าการเรียนในห้องเรียนมีเพียงรูปแบบเดียวที่จำเป็นและเหมาะกับทุกคน แต่เมื่อโลกเปลี่ยนไป รูปแบบการเรียนรู้ก็ย่อมเปลี่ยนไปด้วย ยิ่งโลกไร้พรมแดน ทุกคนสามารถเข้าถึงความรู้ได้ง่ายขึ้น น้องๆ เยาวชนเองก็รู้จักตั้งคำถามกับตัวเองมากขึ้นว่าตนเองชอบอะไร ถนัดอะไร อยากจะมีชีวิตแบบไหน
ด้วยเหตุนี้ มูลนิธิฯ จึงได้วางแนวทางในการพัฒนาทักษะของเยาวชนให้ตอบโจทย์และตรงกับสภาวการณ์ปัจจุบันผ่านแนวคิด Learn to Earn มุ่งเน้นให้ทุนการศึกษาในการหนุนและเสริมสร้างพัฒนาทักษะให้กับคนรุ่นใหม่ หรือคน Gen Z ด้วยการใช้ทักษะแห่งการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (Power Skill) ทักษะที่มีบทบาทสำคัญในการนำไปใช้ประกอบอาชีพ เช่น นักบริบาล ผู้ช่วยพยาบาล ผู้ช่วยทันตแพทย์ ยูทูปเบอร์ นักกีฬาอีสปอร์ต เป็นต้น
ไม่เพียงเท่านี้ ยังสนับสนุนการสร้างทักษะเข้าสังคมและอารมณ์ (Social & Emotional skills) ยกตัวอย่างเช่น ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น ทักษะความฉลาดทางอารมณ์ และทักษะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการติดอาวุธเสริมทักษะให้เยาวชนพร้อมออกไปดำเนินชีวิตสามารถอยู่รอดในโลกปัจจุบันและอนาคตอย่างดีที่สุด”
นอกจากนี้ ยังจับมือกับ GMMTV จัดแคมเปญ ‘CLASS of 21st’ นำทัพศิลปินคนรุ่นใหม่ในสังกัดร่วมทำภารกิจที่ต้องอาศัยทักษะความรู้และการใช้ชีวิต ทำให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงการเรียนรู้ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียนเท่านั้น ภายใต้คอนเซปต์ ‘Young Survivors รุ่นนี้…ต้องรอด’ ผ่านช่องทาง YouTube channel GMMTV
ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งภารกิจหลักของมูลนิธิเอสซีจี คือ การสนับสนุนทุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชน โดยที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ได้มอบทุนการศึกษาภายใต้แนวคิด Learn to Earn ไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 1,700 ทุน รวมเป็นเงินกว่า 40 ล้านบาท โดยเป็นทุนการศึกษาในระดับ ปวส. และ ป.ตรี รวมถึงหลักสูตรระยะสั้น ได้แก่ ด้านสาธารณสุขและการแพทย์ ด้านอุตสาหกรรม S-curve และ New S-curve ด้านเทคโนโลยี IT รวมถึง ด้านการส่งเสริมอาชีพทั่วไป
ซึ่งได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์ จาก นายศักดิ์ชัย นามเหลา หนึ่งในเยาวชนที่เคยได้รับทุนจากมูลนิธิเอสซีจี ประเภททุนระยะสั้นเพื่อการประกอบอาชีพ โดยปัจจุบันเขาประกอบอาชีพเป็นผู้ช่วยพยาบาล โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เล่าว่า ด้วยสภาพทางการเงินของครอบครัวที่ไม่เอื้ออำนวย ในขณะที่ผมต้องเตรียมตัวเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าคงไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย
แต่พอทราบว่ามูลนิธิเอสซีจีมีทุนระยะสั้นเพื่อการประกอบอาชีพ ซึ่งตอบโจทย์การเรียนอะไรก็ได้ที่สามารถเรียนจบออกมาแล้วมีทักษะอาชีพติดตัวเพื่อหางานทำได้อย่างรวดเร็วที่สุด นอกจากได้พัฒนาทักษะในการทำงานที่มีศักยภาพแล้ว ยังสามารถนำทักษะในการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นมาปรับใช้เมื่อต้องทำงานจริงได้เป็นอย่างดี ขอขอบคุณมูลนิธิฯ มากที่ช่วยมอบโอกาสทำให้มีอาชีพติดตัวไปตลอดชีวิต อีกทั้งยังสามารถกลับไปทำงานจิตอาสาช่วยเหลือคนอื่น ๆ ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมตั้งใจอยากทำมาตลอด