แม้ตัวเลขที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรยังไม่นิ่งและได้ข้อยุติ แต่การฟอร์มรัฐบาลก็ดำเนินควบคู่กันไป ล่าสุดเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐที่มีที่นั่งเป็นอันดับ 2 ในเวลานี้เชื่อว่าจะจัดตั้งได้ ในเวลาไม่นาน และพรรคร่วมต้องสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เท่านั้น
เงื่อนไขสำคัญที่พรรคร่วมรัฐบาลต้องสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้ ถูกเปิดเผยโดยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ โดยเขาระบุว่า การเจราพรรคร่วมรัฐบาลมีความคืบหน้าไปพอสมควร รอเพียงผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจาก กกต. โดยพรรคที่จะเป็นรัฐบาลคือ พรรคที่สามารถรวมเสียงได้มากกว่า ซึ่งมั่นใจว่าพรรคพลังประขารัฐจะรวมเสียงพรรคการเมืองเสร็จสิ้นได้ในเวลาไม่นาน ตอนนี้ติดต่อไปหลายพรรคแล้ว และการพูดคุยไปในทิศทางบวก แต่ขอสงวนชื่อพรรคที่พูดคุย
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาบอกว่า มีความชอบธรรมในการตั้งรัฐบาล เพราะได้ ส.ส.เป็น อันดับ 1 นายสนธิรัตน์อ้างว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้เคารพประชาชนทุกเสียง และพรรคพลังประชารัฐได้มากที่สุด ยังมีเสียง ส.ส.ครบทุกภาค แต่บางพรรคไม่มี ส่วนที่บางพรรคได้ที่นั่ง ส.ส. ในภาคใดภาคหนึ่งมาก ก็เพราะ เป็น "ภาคนิยม" นายสนธิรัตน์มองว่า สิ่งนี้เป็นปัญหาในอดีต ซึ่งพรรคพลังประชารัฐเคารพ รัฐธรรมนูญฉบับนี้
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ไม่เชื่อกระแสข่าวการจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคพลังประชารัฐในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ หรือ 1 รอ. และเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐยังไม่สามารถหาแนวร่วมได้เกิน 251 เสียง
ส่วนปัญหาไม่มีเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.250 คน ที่อาจทำให้ไม่สามารถโหวตนายกรัฐมนตรีได้ นายภูมิธรรมเชื่อว่า จะรวบรวมเสียงจากพรรคแนวร่วมได้ถึง 376 เสียง เพราะยังมีเวลาอีกนานจนกว่า กกต.จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งวันที่ 9 พฤษภาคม
“เพื่อไทย” แถลงเป็นพรรคอันดับหนึ่ง เดินหน้าตั้งรัฐบาล