เมื่อวันที่ (29 มี.ค. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โทรศัพท์ซิมโทรศัพท์มือถือหลากหลายเครือข่าย คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค สร้อยคอทองคำ และบัตรอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ปลอมตรายางต่างๆ เป็นของกลางที่ตำรวจกองปราบปราม ตรวจยึดได้หลังจับกุมนายสกล วิชยางกูลอายุ อดีตพนักงานธนาคารลอบนำข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้าไปซื้อสินค้าทางออนไลน์ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท พบผู้เสียหายกว่า 100 คน
พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม ระบุว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากนายสกล เคยเป็นอดีตพนักงานธนาคารมาแล้ว 3 แห่ง ได้ซื้อข้อมูลบัตรเครดิตของเหยื่อจากเว็บไซต์แฮกเกอร์ในต่างประเทศ ก่อนนำข้อมูลที่ซื้อมาสวมรอยเป็นลูกค้าธนาคารต่างๆ ไปสั่งซื้อของออนไลน์ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพก่อเหตุมาตั้งแต่มิถุนายน ปี 2561 โดยนำเงินไปเที่ยวเตร่ รวมถึงซื้อยาเสพติดมาเสพ ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา “ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นในการชำระสินค้าค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสดฯ
จากการสืบสวน ทราบว่าผู้ต้องหาซื้อข้อมูลลูกค้ามาจากแฮกเกอร์ในราคา 15 ดอลลาร์สหรัฐ ตีเป็นเงินไทยประมาณ 477 บาท หรือใช้เงินสกุลดิจิทัล หลังจากนั้นทำการเปลี่ยนข้อมูล เปลี่ยนรหัส เปลี่ยนเลขโอทีพี หรือรหัสลับทำธุรกรรม
ด้านนายปราโมทย์ ลลิตกิตติ ประธานชมรมป้องกันทุจริตบัตรเครดิตภายใต้สมาคมธนาคารไทย ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนผู้ที่มีบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ให้หมั่นตรวจสอบรายการใช้จ่ายของตนเองอยู่เสมอ และธนาคารไม่มีนโยบายติดต่อสอบถามรหัสใด ๆ หากพบความผิดปกติ ให้ทำการติดต่อเจ้าหน้าธนาคารที่ตนใช้บริการอยู่โดยเร็ว และหากจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของตน ให้เปิดเผยต่อแหล่งที่น่าเชื่อถือเท่านั้น