อนค.ชี้ ข้อกฎหมายชัด น้อยกว่า 7 หมื่น ไม่มีที่นั่ง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




พรรคเพื่อไทยอออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กกต.เปิดเผยคะแนนรายหน่วยเลือกตั้งอย่างละเอียด พร้อมสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อที่กำลังเกิดความสับสน สอดคล้องกับพรรคอนาคตใหม่ ที่ยืนยันว่า พรรคที่ได้เสียงไม่ถึง71,065 คน ตามสัดส่วนส.ส.พึงมี จะไม่ได้ที่นั่ง

เมื่อวันที่ (1 เม.ย. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค เปิดเผยวิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค โดยอ้างว่ายึดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 128  คือนำคะแนนดิบรวมทั้งประเทศ หารด้วยจำนวนส.ส.ทั้งสภา 500 คน จะได้เท่ากับจำนวนคะแนนต่อ ส.ส.พึงมี 1 คน ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ ส.ส.1คน เท่ากับ 71,065 คะแนน

จากนั้นนำคะแนนรวมของพรรคการเมืองแต่ละพรรค หารด้วยคะแนนที่ ส.ส.พึงมี จะได้เท่ากับ จำนวน ส.ส.พึงมีทั้งหมดของพรรคการเมืองนั้น ในกรณีของพรรคอนาคตใหม่คิดออกมาได้จำนวน ส.ส.พึงมี 88 คน

จากนั้นต้องนำตัวเลข 88 ไปลบด้วยจำนวน ส.ส.เขตที่พรรคอนาคตใหม่ชนะการเลือกตั้ง ในกรณีนี้ มี 30 คนจาก30เขตเลือกตั้ง ซึ่งนั่นจะเท่ากับว่า พรรคอนาคตใหม่จะเหลือจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่พึงมีอีก 58 คน  แต่เพราะการคำนวณนี้ไม่ลงตัว เนื่องจากเมื่อนำจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อของทุกพรรคมารวมกัน พบว่า เกิน 150 คน เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ตีความกฎหมายเรื่องนี้ว่า

พรรคการเมืองใดได้คะแนนรวมน้อยกว่าคะแนนส.ส.พึงมีตั้งแต่แรก หรือหมายความว่า พรรคการเมืองใดได้คะแนนไม่ถึง 71,065 คะแนน ต้องตัดพรรคการเมืองนั้นออกไปก่อน จึงจะนำคะแนนพรรคการเมืองที่เหลือมาเทียบบัญญัติไตรยางค์ หากคิดเช่นนี้ จำนวนส.ส.พึงมีของพรรคอนาคตใหม่จะหายไป 1 คน ยืนยันว่ากฎหมายระบุไว้ชัดเจนไม่ใช่การตีความ จึงอยากให้กกต.ยึดแนวทางนี้ในการคำนวณที่นั่งส.ส.

ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์นายปิยบุตร เกี่ยวกับเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ นายปิยบุตร ชี้แจงว่าเป็นกระบวนการที่คนกลุ่มหนึ่งพยายามตัดต่อข้อความลงบนรูปภาพและส่งต่อกันในโซเชียล โดยยกข้อความเพียงส่วนหนึ่งของเวทีเสวนาวิชาการเมื่อปี 2556 มาบางส่วนเท่านั้น ซึ่งนายปิยบุตรยืนยันว่าการพูดบนเวทีเสวนาวิชาการครั้งนั้นพูดในนามของอาจารย์และไม่ได้กล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย

ขณะที่ พรรคเพื่อไทย ก็มีการประชุมวิเคราะห์ สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยเปรียบเทียบวิธีคิด ตามรัฐธรรมนูญ และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนููญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. โดยใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ก่อนออกมาแถลงกับสื่อมวลชน

สูตรการคิดของพรรคเพื่ือไทย คล้ายกับพรรคอนาคตใหม่ แต่พรรคเพื่อไทย ยึด มาตรา 91 วงเล็บ 4 ของรัฐธรรมนูญ และมาตรา 128(5) กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ที่ระบุว่า กรณีที่มีพรรคการเมืองได้ ส.ส. เขตเกินจำนวน "ส.ส.พึงมี" ให้จัดสรร ส.ส. บัญชีรายชื่อเฉพาะพรรคที่มี ส.ส.เขต ต่ำกว่า จำนวน ส.ส.พึงมี "แต่ต้องไม่มีพรรคการเมืองใด มี ส.ส.เกินที่คำนวนไว้ครั้งแรก  หมายความว่าพรรคการเมืองที่มีคะแนนต่ำกว่่าเกณฑ์ 71,065 คน ต่อ ส.ส. 1 คน จะไม่ถูกนำมาคิดสัดส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 

นายโภคิน ยังระบุว่า พรรคการเมืองที่เข้าเกณฑ์ "จำนวน ส.ส. พึงมี" จึงมีเพียง 15 พรรค ที่ได้รับ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ส่วนพรรคการเมืองขนาดเล็กตั้งแต่ พรรคประชาภิวัฒน์ ลงไป จะไม่ถูกนำมาคิดสัดส่วน

ขณะที่จำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อของทั้ง 15 พรรครวมกัน ได้ 152 คน แต่เมื่อเทียบบัญญัติไตรยางค์ ปรับเป็น 150 คนแล้ว ตามสูตรของพรรคเพื่อไทย พบว่า พรรคที่มี ส.ส. บัญชีรายชื่อลดลง คือ อนาคตใหม่ 1 คน และ พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน เท่านั้น

ล่าสุดพรรคเพื่ือไทยจึงออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ กกต. เปิดเผยข้อมูลดิบคะแนนรายหน่วย รวมถึงชี้แจงสูตรคำนวณ ส.ส. ที่ถูกต้องให้กับประชาชนได้ทราบ เพื่อไม่ให้เกิดการตีความจนเกิดความสับสน

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ