วันนี้ 14 เม.ย. 2562 นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงว่าหากมีการแจ้งข้อหาเกินกว่าความผิดที่ควรจะได้รับ เจ้าพนักงานคนนั้น อาจเสี่ยงที่จะเข้าข่ายทำผิดกฎหมายร้ายแรง และยังเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา 157 ซึ่งการตีกลับคำร้องขอฝากขังของศาลจังหวัดตลิ่งชันเป็นกระบวนการตรวจสอบภายใต้เจตนารมณ์ของกฎหมาย ไม่สามารถเอาอารมณ์ความรู้มาเปลี่ยนแปลงหลักการได้ เพราะหากตัดสินไปแล้วจะกลายเป็นบรรทัดฐานที่สังคมต้องยอมรับ
รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด อธิบายว่า โดยปกติ เจตนาฆ่า นักกฎหมายจะมองภายใต้เหตุผลว่าผู้กระทำผิดต้องมีความชั่ว ผ่านกระบวนการ 3 ขั้นตอน คิดจะฆ่า ตัดสินใจฆ่า และลงมือฆ่า นั่นคือคนที่มีจิตใจชั่วร้าย ต้องลงโทษสถานหนัก หากต้องประหาร หรือจำคุกตลอดชีวิตก็ต้องดำเนินการ เพื่อกันคนกลุ่มนี้ออกจากสังคม และไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง โดยหลักการเมาแล้วขับรถไปชนคนอื่นเสียชีวิต อยู่ในข่ายของความประมาท หากเปลี่ยนไปจากนี้ถือเป็นการกระทำที่ขัดกับกฎหมายและไม่เป็นไปตามหลักสากล
ศาลตีกลับคดีเสี่ยเมาขับเบนซ์ 2 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา-พยายามฆ่า”
"ปรเมศวร์"ชี้ แจ้งข้อหาเมาแล้วขับ"เจตนาฆ่า"ศาลอาจยกฟ้อง